หุ้นทิ้งดิ่ง ปัจจัยกดดันภายในประเทศ เหตุก่อการร้าย

แม้ว่านักลงทุนจะฝากความหวังกับปัจจัยบวกในไตรมาสสุดท้ายของปีจะช่วยผลักดัน Sentiment เชิงบวกให้กับหุ้นไทย แต่ล่าสุดกลับเผชิญปัจจัยลบเข้ามาเพิ่ม จากกรณีที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ประกาศเตือนการก่อเหตุวินาศกรรมในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ บอกว่า กำลังอยู่ระหว่างติดตามปัจจัยดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนได้หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประเด็นดังกล่าว มีผลกระทบแค่ระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ ทำให้ยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ และสร้าง Upside ให้กับตลาดหุ้นไทยในปีหน้า

ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ นายไพบูลย์ ยอมรับว่า จะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ในกรอบ 1,450-1,500 จุด เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน แต่ก็มอง Downside ของ SET มีจำกัดด้วย นอกจากจะมีปัจจัยในประเทศเข้ามาสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ ปัจจัยต่างประเทศจะเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ และการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ที่อาจมีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน

ส่วนในมุมมองของผู้บริหารกองทุน นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มองว่าปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนกลุ่มขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่จะเติบโตได้ 20-30% ในปีหน้า รวมถึง P/E ของหุ้นขนาดใหญ่ที่ระดับ 10 เท่า ยังเป็น sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย และจะประคองหุ้นไทยจากปัจจัยเชิงลบในประเทศได้ หากมองยาวไปอีก 1 ปีข้างหน้า

แต่หากมองในระยะสั้นๆ ความเสี่ยงผลการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จะยังเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกดดันหุ้นไทยปรับฐานอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลงแรงคาดเป็นไปตามตลาดต่างประเทศ รวมถึงความกังวลภายในประเทศเกี่ยวกับข่าวการก่อการร้ายในช่วงสิ้นเดือนต.ค.นี้

ขณะที่ บล.ไอร่า วิเคราะห์ SET วันนี้ยังมีโอกาสปรับลง แต่คาดเป็นไปในกรอบจำกัด หลัง 2 วันที่ผ่านมาปรับไปกว่า 60 จุด โดยคาดตลาดยังคงถูกกดดันจากประเด็นในประเทศ แต่คาดมีน้ำหนักลดลง หลังคาดตลาดสะท้อนไปบ้างแล้ว ขณะที่กองทุนฯ ยังขายต่อเนื่อง อีกกว่า 3,300 ล้านบาท

ทางด้านปัจจัยต่างประเทศคาดกลับมามีความกังวล ต่อประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกครั้ง และคาดสร้างความผันผวนไปจนถึงวันประชุมเฟด ซึ่งเหลือ 2 ครั้งในปีนี้ (1 - 2/11/59 และ 13 - 14/12/59) รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลดลง

ด้าน บล.กรุงศรี วิเคราะห์ SET วันนี้ผันผวนทางลง ตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อทิศทางการไหลออกของเงินลงทุนจากต่างชาติมากขึ้น หลังโกลด์แมนแซคส์เพิ่มคาดการณ์เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สอดคล้องกับค่าเงินบาทอ่อนค่า

ส่วนสถานการณ์ในประเทศยังไม่แน่นอน โดยเฉพาะข่าวเตือนการก่อการร้ายยังกดดันตลาดไปจนถึงช่วงวันที่ 25-30 ต.ค. ซึ่งจะส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มธุรกิจ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และ ธุรกิจการบิน

ขอบคุณแหล่งข่าว : Money channel, Kaohoon