ห้องเม่าปีกเหล็ก

เจาะโมเดลธุรกิจ ASAP บริการรถเช่าบนโมเดลโตสั่งได้

โดย SiTh LoRd PaCk
เผยแพร่ :
67 views

เจาะโมเดลธุรกิจ ASAP บริการรถเช่าบนโมเดลโตสั่งได้ กับ ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล และดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ในรายการ Business Model สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านกันจากการฟังรายการย้อนหลัง

ลักษณะธุรกิจ
บริษัทประกอบธุรกิจรถยนต์ให้เช่าภายใต้แบรนด์ asap โดยมีลักษณะบริการรถยนต์ให้เช่า 3 รูปแบบ คือ
1) บริการรถยนต์ให้เช่าระยะยาว (Operating Lease) แบบครบวงจร
2) บริการรถยนต์ให้เช่าระยะสั้น
และ 3) บริการรถยนต์ให้เช่าพร้อมคนขับ (Limousine)

 

ASAP อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงมาก และแต่ละรายก็เป็นรายใหญ่

ส่วนที ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- ASAP กู้เงินจากสถาบันการเงิน แล้วนำมาปล่อยเช่า โมเดลหลักๆของเขาจะเป็นแบบนี้

- นั้นทำให้ D/E ratio ของเขาสูงมากประมาณ 5-6 เท่า โดยประมาณ .


- ลูกค้าประมาณ 80% เป็นลูกค้าประเภทรายใหญ่ บริษัท ส่วนอีก 20% เป็นลูกค้าประเภทรายย่อย


- รายได้จาก 59% มาจากลูกค้าประเภทคอปเปอร์เรท เอกชน อีก 15% มาจากหน่วยงานราชการ ส่วนอีก 20% ที่เหลือมาจากการขายรถยนต์หลังจากรถหมดสัญญาเช่าแล้ว ต้องปลดระวางแล้ว


- หลักๆแล้วนักลงทุนต้องคอยติดตามว่าบริษัทเอกชนหรือหน่วยงานราชการมีการ Outsource การเช่ารถไปยังบุคคลภายนอกหรือเปล่า หรือว่าซื้อรถมาประจำบริษัทเอง โดยเท่าที่รู้ บริษัทจะประหยัดรายจ่ายโดยการเช่ารถมากขึ้น


- ค่าเสื่อมของบริษัทค่อนข้างเยอะ ประมาณ 90% ของ Operating Cash flow


- ในปี 2558 บริษัทมีรถยนต์ประมาณ 5200 คัน


- คู่แข่งในอุตสาหกรรมมีค่อนข้างสูง และเป็นรายใหญ่ มีอยู่ประมาณ 10 กว่าราย


- ASAP มี Market share เป็นอันดับที่ 6


- อันดับที่ 1 มีรายได้สูงกว่า ASAP ประมาณ 4-5 เท่า


- การเช่าระยะสั้น ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ารายย่อย ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแต่สัดส่วนรายได้ไม่มาก จะหวังการเติบโตก็ไม่ค่อยได้ บริษัทจะเน้นที่การเช่าระยะยาวมากกว่า


- จุดเด่นของ ASAP คือ บริษัทมีฐานลูกค้ารายใหญ่จำนวนมากและสัญญาส่วนใหญ่เป็นสัญญาระยะยาว


- บริษัทมี Gross profit margin ประมาณ 90% แต่เราไปโดนค่าเสื่อมเยอะ ดังนั้นการจัดการใช้รถให้มากที่สุดเป็นปัจจัยสำคัญ บริษัทจะต้องทำอย่างไรก็ได้บริหารยอดขายให้ดีที่สุด

 



- D/E ratio ค่อนข้างสูง ดังนั้น ROE จึงสูงไปด้วยเพราะกู้เงินมาลงทุนเยอะ


- Utilization rate อัตราการใช้รถ อยู่ที่ประมาณ 25-30% ถือว่ายังน้อยอยู่ บริษัทต้องเพิ่มตรงนี้ให้ได้


- P/E 14 เท่า P/BV ประมาณ 3 เท่า เป็นราคาที่ตึงตัวไปหน่อย นักลงทุนคาดหวังการเติบโตสูง

 


มองไปในอนาคต การใช้รถของคนอาจจะเปลี่ยน คนไม่อยากขับรถทำให้ธุรกิจเช่ารถมีความเสี่ยงขึ้นมาได้

 

ส่วนที ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วิเคราะห์ไว้ในรายการ
- ผมมองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่คนซื้อบริการ เขารู้ราคาหมดโดยเน้นที่ราคาต่ำสุด ต่อรองราคาได้

- แล้วนั้นก็เป็นสาเหตุให้ธุรกิจกำไรไม่ค่อยจะดีนัก แถมลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นพวกสายสัมพันธ์ เป็นลูกค้าเก่า


- แต่ธุรกิจแบบนี้โอกาสขาดทุนก็มีน้อยมาก เพราะต้นทุนเราจำกัดได้ แทบจะควบคุมต้นทุนได้เลย


- ธุรกิจแข่งขันโดยสมบูรณ์แบบ มีผู้เล่นมากราย แข่งกันด้านราคา ผู้ค้าไม่มีอำนาจต่อรอง


- มองไปในระยะยาว การใช้รถของคนจะเปลี่ยนแปลงนะ คนอาจจะไม่ค่อยอยากขับรถ ใช้บริการรถสาธารณะ ใช้รถไฟฟ้าในการเดินทาง ธุรกิจเช่ารถก็เป็นความเสี่ยงเช่นกัน


- ต่อไปผมมองว่าธุรกิจเปลี่ยนไป ต่อไปการเช่ารถอาจจะถูกกว่าการซื้อแล้วผ่อนก็เป็นได้ มันอาจจะเป็นบวกต่อทั้งอุตสาหกรรมให้เช่ารถ เพราะคนหันมาเช่ามากกว่าการซื้อ แต่ส่งผลให้ให้มาร์จิ้นจากที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก เพราะเราต้องไม่ลืมว่าอุตสาหกรรมนี้เขาแข่งขันกันสมบูรณ์


- โมเดลธุรกิจของอุตสาหกรรมในกลุ่มนี้ทั้งหมดก็ไม่มีอะไรต่างกัน รายได้มาเหมือนๆกันหมด


- แต่เทรนเรื่องของการเช่ารถนี้อาจจะมาก็ได้นะ ต่อไปบริษัทใหญ่ๆจะซื้อรถยนต์น้อยลง เน้นที่การเช่าเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่อยากตัดค่าเสื่อม ไม่อยากไปดูแลรักษามีค่าใช้จ่าย มันอาจจะเป็นเทรนของอนาคตก็ได้

- P/E สูงมาก นั้นแสดงว่าผู้ลงทุนมองเป็นหุ้นโตเร็ว


- ผมเองส่วนตัวมองว่าเป็นหุ้นโตเร็ว แต่เป็นการโตเร็วด้วยการอาศัยหนี้ มีความเสี่ยง


- การเติบโต สักวันมันก็ต้องถึงจุดอิ่มตัว มีลิมิตของมัน อย่างเมื่อก่อนบริษัทเคยเป็นบริษัทขนาดเล็กมาก่อนก็เลยโตเร็ว แต่ตอนนี้เป็นบริษัทขนาดกลางแล้ว จะโตเร็วเหมือนตอนยังเล็กอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

--------------------------------------------------

ขอบคุณแหล่งข้อมูล : รายการ Business Model รายการ Money Channel : เจาะโมเดลธุรกิจ ASAP บริการรถเช่าบนโมเดลโตสั่งได้

ดูฉบับเต็มได้ที่นี้เลยครับ


SiTh LoRd PaCk