ห้องเม่าปีกเหล็ก

คิดเป็น เห็นก่อน

โดย ชัจจ์ปัณฑ์
เผยแพร่ :
59 views

กำไรแบงก์น่าผิดหวัง แต่อนาคตน่าสนใจ

ผลประกอบการแบงก์ที่ไม่เป็นไปอย่างคาดหวัง น่าผิดหวัง โดยสาเหตุหลักๆมาจากการตั้งสำรองที่สูงกว่าคาด ความผิดหวังจากผลประกอบการกลุ่มแบงก์ จะส่งผลเชิงลบกับกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่ ล่าสุด KTB มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปี 60 จำนวน 2.2 หมื่นล้านบาท ลดลง 31% จากปีก่อนมีกำไร 3.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง รวมทั้งธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สูญ หนี้สงสัยจะสูญฯ เพิ่มขึ้นจำนวน 11,404 ล้านบาท จากปี 59  ส่งผลให้ทั้งกลุ่มแบงก์มีผลประกอบการรวมทั้งกลุ่มลดลงจากปีก่อนกว่า 6% แต่ยังมองเป็นโอกาสในการเข้าสะสม เนื่องจากราคาได้ปรับลดลงรับข่าวนี้มาล่วงหน้าพอสมควรแล้ว

ภาพของตลาดหุ้นยังมีความผันผวน จากปัจจัยที่เข้ามากระทบทั้งภายในและภายนอก เรื่อง Government Shutdown ของสหรัฐที่ล่าสุดเกิดขึ้นแล้ว หลังวุฒิสภาสหรัฐฯไม่สามารถลงมติรับร่างงบประมาณชั่วคราว ได้ทันกำหนดเส้นตายเที่ยงคืนของวันที่ 19 ม.ค.61 ได้ ส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของสหรัฐชั่วคราว โดยเรื่อง Government Shutdown เกิดขึ้นครั้งล่าสุด เมื่อปี2556 ในสมัยรัฐบาลนายโอบามา กินระยะเวลาไป 17 วัน ซึ่งครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าจะกินระยะเวลานานแค่ไหน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ คาดว่า Government Shutdown จะส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาดหุ้นในระยะสั้นๆเท่านั้น

ความไม่แน่นอนเรื่องการเลือกตั้งปลายปี 2561 ที่อาจจะต้องมีการเลื่อนออกไป หลัง สนช. จะมีการพิจารณาร่าง พรบ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ให้มีการแก้ไขมาตรา 2 ให้กฎหมายการเลือกตั้งมีผลบังคับใช้ 90 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากเดิมที่ กรธ. กำหนดให้มีการบังคับใช้ทันที ซึ่งถ้าหาก สนช. ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว จะส่งผลให้วันเลือกตั้งที่ นายกฯเคยประกาศไว้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พย. 61 จะต้องมีการเลื่อนออกไปอย่างน้อยช่วงต้นปี 62 เรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ แต่น่าจะไม่ส่งผลกระทบกับภาพรวมของตลาดมากมายอะไรนัก เพราะต่างชาติวันนี้ไม่ได้ถือหุ้นไทยมากมายอย่างในอดีตอีกแล้ว แรงขายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจึงมีไม่มาก

สถานการณ์โดยรวมของตลาดหุ้นไทย ยังคงต้องติดตามเรื่องผลประกอบการที่กำลังทยอยประกาศออกมา ตามกลุ่มแบงก์ที่ประกาศไปเรียบร้อย การเก็งกำไรในกลุ่มและตัวหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดี จะขึ้นมาโดดเด่นให้มีการซื้อขายคึกคัก

ตลาดหุ้นบ้านเราในขณะนี้เปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่อุ่นเครื่องร้อนได้ที่แล้ว รอเพียงใส่เกียร์เดินหน้าจากปัจจัยบวกที่มีเข้ามา ช่วงนี้นักลงทุนที่ถือครองเงินสดรอคอยจากความไม่แน่นอนของทิศทางตลาดในช่วงก่อนหน้านี้ สามารถใช้จังหวะโอกาสช่วงนี้เลือกเฟ้นหาหุ้นเป้าหมายแล้วทยอยเก็บสะสมเข้าพอร์ต โดยสามารถเลือกเน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมีผลการดำเนินที่ผ่านมาดี มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แล้วรอคอยผลตอบแทนคืนกลับในอนาคตที่กำลังจะมาถึงอย่างงดงามได้ครับ

อย่างไรก็ตามการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง หลังจากนี้อาจมีปัจจัยกระทบที่เราไม่คาดคิดหรือไม่สามารถควบคุมได้เข้ามา  เราต้องพร้อมมีสติ จิตใจที่มั่นคงพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น บริหารความเสี่ยงจากการลงทุนของเราให้ได้ หากตลาดเกิดไม่เป็นอย่างที่เราได้ประเมินไว้ก็พร้อมที่จะดึงตัวเองออกจากตลาดได้ทันท่วงที อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นบ้านเราก็พร้อมแล้วที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าเพียงแค่เราจะมีการเตรียมตัวให้พร้อมได้มากแค่ไหน

หากนักลงทุนท่านใดที่ยังมองว่าตลาดยังมีการแกว่งตัวอยู่บ้างขณะนี้ก็เป็นเพียงการพักฐานสะสมกำลังหลังจากที่ตลาดนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงก่อนหน้า อีกทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนบ้านเราปีที่ผ่านมาก็ยังคาดว่าจะดูดี มีปันผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3% ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียว

สรุปแล้วการลงทุนในตลาดหุ้นไทยขณะนี้ หากนักลงทุนที่มีความพร้อม ทั้งเงินทุน ความรู้ และมีจิตใจที่พร้อม สามารถไตร่ตรองได้อย่างรอบคอบก็สามารถเลือกลงทุนเข้าเก็บสะสมหุ้นเป้าหมายแล้วรอคอยผลสำเร็จที่ดีได้ต่อไป ส่วนที่ยังไม่พร้อมก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนใช้ช่วงเวลานี้เพิ่มพูนความรู้ พัฒนาทักษะการเล่นหุ้นให้ช่ำชองเสียก่อน เพราะอย่างไรเสียเมื่อตลาดเป็นขาขึ้นเราก็พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวความมั่งคั่งด้วยเหมือนกันครับ

 


ชัจจ์ปัณฑ์