ห้องเม่าปีกเหล็ก

กระจายตลาด = กระจายความเสี่ยง

โดย missวิมลรัตน์
เผยแพร่ :
55 views

กระจายตลาด = กระจายความเสี่ยง

ปิด “จุดอ่อนเศรษฐกิจไทย” ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ในโลกที่ทุกอย่างไม่แน่นอน

การพึ่งพา “ตลาดเดียว” ก็ไม่ต่างจากการยืนบนขาเดียว

เมื่อสะดุดทีเดียว ล้มทั้งระบบ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไทยเผชิญมรสุมเศรษฐกิจหลายระลอก

ตั้งแต่โควิด แผ่นดินไหว ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ไปจนถึงสงครามการค้า

พายุเหล่านี้ไม่ได้แค่ทำให้เศรษฐกิจซวนเซ

แต่ยังเปิดโปง “จุดอ่อนใหญ่” ที่วันนี้ชัดเจนจนแสบตา

ไทยพึ่งพาตลาดหรือภาคใดภาคหนึ่งมากเกินไป

และเมื่อเสาหลักนั้นร้าว เศรษฐกิจทั้งระบบก็สั่นคลอนทันที

 

 

ตลาดใหม่ = ทางรอด

การกระจายตลาดไม่ใช่แค่เรื่องของการค้าขาย

แต่คือ “ภูมิคุ้มกันของประเทศ”

บ้านที่มีหลายเสาค้ำ แม้เสาหนึ่งร้าว เสาอื่นก็ยังพยุงได้

กรณีของ “จีน” คือบทเรียนสำคัญ

หลังสงครามการค้าปะทุในปี 2018

จีนเบนเข็มส่งออกสู่ “อาเซียน” จนกลายเป็นตลาดอันดับ 1 ในปี 2023

สัดส่วนส่งออกสู่อาเซียนเพิ่มจาก 12.9% (2018) → 16.4% (2024)

ขณะที่ สหรัฐฯ ลดลงจาก 19.2% เหลือเพียง 14.7%

นี่คือตัวอย่างชัดเจนของประเทศที่ “กระจายตลาดก่อนวิกฤติจะมาถึง”

 

ภาคไหนของไทยที่เสี่ยงหนัก?

เสี่ยง 1: การท่องเที่ยว

ก่อนโควิด นักท่องเที่ยวจีนคือเสาหลักของไทย

ปี 2019 มีมากถึง 11 ล้านคน หรือเกือบ 28% ของทั้งหมด

แต่ใน 8 เดือนแรกปี 2025 ลดเหลือเพียง 14.2%

ส่งผลกระทบหนักต่อภาคท่องเที่ยว

 

แนวรุกใหม่:

อินเดีย — ตลาดใหญ่ ใช้จ่ายสูง สัดส่วนเพิ่มจาก 4.9% (2019) → 7.1% (8M/25)

รัสเซีย — นิยมพักระยะยาว สัดส่วนเพิ่มจาก 3.7% → 5.5%

ไต้หวัน — เที่ยวเอง ถ่ายรูปแชร์โซเชียล สัดส่วนเพิ่มจาก 2.0% → 3.1%

แม้ยังทดแทนจีนไม่ได้เต็มที่ แต่คือสัญญาณดีของ “การกระจายความเสี่ยงเชิงภูมิศาสตร์”

 

เสี่ยง 2: การส่งออก

ทศวรรษที่ผ่านมา ไทยพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น

จาก 10.5% (2014) → 20.0% (7 เดือนแรกปี 2025)

เมื่อสหรัฐฯ เริ่มสงครามภาษีในปีนี้

ไทยจึงเหมือนต้องรับศึกสองด้าน

ทั้งภาษีที่สูงขึ้น และสินค้าจากจีนที่อาจไหลทะลักเข้ามา

 

แรงส่งใหม่:

• ใช้ RCEP และ FTA เจาะตลาดอาเซียน จีน และอินเดีย ที่เศรษฐกิจยังโตดี

โดยเฉพาะอินเดีย การส่งออก 7 เดือนแรกปีนี้

ขยายตัวถึง 46.5% YoY สัดส่วนเพิ่มจาก 2.5% → 4.9%

• ตะวันออกกลาง เช่น UAE และซาอุดีอาระเบีย ยังเป็น “เสาที่รอสร้าง” ที่ไทยควรเร่งจับ

 

เสี่ยง 3: ตลาดอสังหาริมทรัพย์

ช่วงปี 2018-21 จีนครองแชมป์การซื้อคอนโดมิเนียมในไทยอย่างต่อเนื่อง

คิดเป็นราว 60% ของทั้งจำนวนยูนิตและมูลค่ากรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติทั้งหมด

แต่หลังปี 2022 บทบาทของผู้ซื้อชาวจีนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งใน Q2/25 สัดส่วนลดลงกว่าครึ่ง

เหลือไม่ถึง 30% ตามการท่องเที่ยวที่หดหาย

 

โอกาสใหม่:

เมียนมา — ดาวรุ่งไม่คาดฝัน

จากแทบไม่มีส่วนแบ่งในปี 2022

ล่าสุด Q2/25 ครองถึง 16.4% ของจำนวนยูนิต และ 10.9% ของมูลค่า

ตลาดที่เคยมองข้าม กลับกลายเป็นโอกาสทอง

 

สร้างภูมิต้านทานจากภายใน

นอกจากกระจายตลาด ไทยต้อง “สร้างฐานเศรษฐกิจภายในให้แข็งแรง”

เร่งลงทุนในเทคโนโลยี นวัตกรรม และทักษะแรงงาน

เพื่อยกระดับผลิตภาพทั้งภาคการผลิตและบริการ

พร้อมต่อยอดนโยบาย BCG และ FTA รุ่นใหม่

เช่น ไทย–ศรีลังกา และไทย–UAE เพื่อขยายเครือข่ายการค้าในอนาคต

 

การกระจายตลาดไม่ใช่แค่ “กันล้ม”

แต่คือ “การสร้างขาใหม่” ให้เศรษฐกิจไทยยืนได้มั่นคงกว่าเดิม

เพราะการกระจายตลาด = การกระจายความหวัง

เพื่อให้เศรษฐกิจไทยยืนหยัดได้ ไม่ว่าพายุลูกไหนจะพัดมาอีกกี่ครั้ง

 

.

เรื่องและภาพ: สราลี วงษ์เงิน Economist, Bnomics

════════════════

 

ที่มาบทความจาก..  Bnomics by Bangkok Bank


missวิมลรัตน์