นายธีรชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STOWER ผู้ดำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและโทรคมนาคม รวมถึงให้เช่าสถานีโทรคมนาคมในประเทศฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าซื้อกิจการบริษัท QROI Network Service Inc. (QROI) ประเทศฟิลิปปินส์ ตามมติคณะกรรมการบริษัทวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 โดยลงทุนผ่านบริษัท อัลตร้า เอเชีย จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และเข้าเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 แบบมีอำนาจควบคุมเบ็ดเสร็จ (Super Majority) ตามกฏหมายฟิลิปปินส์ ในสัดส่วน 67% ด้วยเงินลงทุนประมาณ 126 ล้านบาท
QROI เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจให้บริการด้านโทรคมนาคมในฟิลิปปินส์ (Telecom Implementation Service) ที่ประกอบธุรกิจ ให้บริการติดตั้งและทดสอบระบบสื่อสารโทรคมนาคมในสถานีฐานของโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงให้บริการวางแผนและปรับปรุงระบบโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Network Planning and Optimization Service) โดยเป็นบริษัทอันดับหนึ่ง ที่มีทีมวิศวกรรมโทรคมนาคมมากที่สุดและได้รับการรับรองจากบริษัทชั้นนำระดับโลก อาทิ Huawei และ Ericsson ซึ่งในปัจจุบันผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ทั้ง 3 รายในประเทศฟิลิปปินส์ มีการเพิ่มจำนวนสถานีส่งสัญญาณจำนวนมากเพื่อขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และมีการอัพเกรดอุปกรณ์ส่งสัญญาณเป็นระบบ 4G และ 5G อันเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลและความต้องการใช้บริการโทรศัพท์มือถือของประชากรกว่า 109 ล้านคน ที่มีกว่า 190 ล้านหมายเลข นอกจากนี้ QROI ยังมีศักยภาพในการต่อยอดธุรกิจจากจุดแข็งที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งบริการด้านปฎิบัติงานและบำรุงรักษาอุปกรณ์สื่อสาร (O&M) รวมถึงการบริหารพลังงานไฟฟ้าให้กับสถานีฐาน
จากประสบการณ์ของผู้บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทชาวฟินแลนด์ที่ได้ดำเนินธุรกิจด้านเทเลคอมในหลายประเทศทั่วโลก และดำเนินธุรกิจในประเทศฟิลิปปินส์มากว่า 5 ปี มีรายได้เติบโตมาอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา QROI มีรายได้ประมาณ 640 ล้านเปโซ หรือประมาณกว่า 400 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษี (EBT) ประมาณ 75 ล้านเปโซ หรือประมาณ 48 ล้าน ซึ่งมีการตรวจสอบบัญชีโดยบริษัทผู้ตรวจสอบขนาดใหญ่ (Big 4)
ทั้งนี้ การเข้าถือหุ้นดังกล่าวจะทำให้ QROI เป็นบริษัทย่อยของ STOWER และจะสามารถนำรายได้และกำไรมารวมเป็นงบการเงินเดียว (Consolidated Financial Statement) โดย STOWER จะรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2565 นี้ทันที ซึ่งจะทำให้รายได้ของ STOWER เติบโตอย่างก้าวกระโดดนอกเหนือจากธุรกิจหลักในประเทศและธุรกิจให้เช่าสถานีโทรคมนาคมในประเทศฟิลิปปินส์
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักธุรกิจในต่างประเทศได้สนใจเข้าลงทุนกับ STOWER โดยการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) การเข้าลงทุนของนักธุรกิจดังกล่าว จะเป็นการเสริมสร้างพันธมิตรทางธุรกิจโทรคมนาคมในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี