ล่าสุดธนาคารกลางอาร์เจนตินา ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 60%
นั่นเป็นตัวเลขที่สูงมาก หากเทียบกับดอกเบี้ยนโยบายของไทย ซึ่งอยู่ที่ 1.50%
ต่างกันถึง 40 เท่า!!
อาร์เจนตินาประกาศขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว
จากปลายปีก่อน ดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 28%
ก่อนช่วงต้นปี 2018 ปรับเพิ่มเป็น 30%
จากนั้นเพิ่มเป็น 45% และมาเป็น 60% ในที่สุด
การขึ้นดอกเบี้ย ก็เพื่อชะลอเงินเฟ้อ เพราะประเทศนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตเงินเฟ้อขั้นรุนแรง
เมื่อปี 2015 เงินเปโซอาร์เจนตินา 9 เปโซ เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
พอปี 2017 มูลค่าเงินอาร์เจนตินาอยู่ที่ 16 เปโซ ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
และปัจจุบัน 2018 ต้องใช้เงินถึง 38 เปโซ ในการแลก 1 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินลดค่าลงถึงครึ่งหนึ่งในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงปี!!
มันเกิดอะไรขึ้นในอาร์เจนตินา??
- ย้อนกลับไปเมื่อปี 2001 อาร์เจนตินาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ จนกลายเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟสูงกว่า 350,000 ล้านบาท
- ประธานาธิบดีเนสเตอร์ เคิร์ชเนอร์ เข้าดำรงตำแหน่งในปี 2003
- เศรษฐกิจของอาร์เจนตินาดีขึ้น ด้วยการส่งออกสินค้าเกษตร สินค้าหลักคือแป้งและน้ำมันจากถั่วเหลือง กลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก
- ภายในปี 2006 อาร์เจนตินาก็สามารถชำระหนี้ไอเอ็มเอฟได้หมด
- หลังจากลงจากตำแหน่งในปี 2007 ก็เป็นภรรยาของเขาคริสติน่า เคิร์ชเนอร์ ได้รับเลือกมาเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก เข้ารับตำแหน่งต่อจนถึงปี 2015
- การดำเนินนโยบายของสองรัฐบาลนี้ไปในแนวทางเดียวกัน คือนโยบายเพิ่มรายจ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- นอกจากนี้ ยังมีการจำกัดอัตราส่งออกเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายในประเทศ ควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน
- รวมถึงการแปรรูปกิจการเอกชนกลับมาเป็นของรัฐ ที่เป็นข่าวดังสุดก็คือการผ่านกฎหมายยึดคืนบริษัทน้ำมันวายพีเอส ซึ่งสเปนเป็นเจ้าของ
(จนสหภาพยุโรปออกมาประท้วง และสเปนประกาศงดนำเข้าไบโอดีเซลจากอาร์เจนตินา)
- การดำเนินนโยบายขาดดุลมาโดยตลอดนับสิบปี รวมถึงการอุดหนุนค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านพลังงาน ทำให้ราคาสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริงมาโดยตลอด
- ในปี 2015 ขั้วการเมืองเปลี่ยน เมื่อนายเมาริซิโอ มาครี ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจอันเปราะบาง
- ประธานาธิบดีเมาริซิโอ เริ่มมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ด้วยแนวทางของเขาเอง
- ทั้งการตัดเงินค่าใช้จ่ายของภาครัฐ การยกเลิกอุดหนุนค่าไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันเชื้อเพลิง ท่ามกลางผู้สนับสนุนและคัดค้าน
- เมื่อราคาสินค้าสะท้อนความจริง ข้าวของแพงขึ้นมาก อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
- รัฐบาลเมาริซิโอให้เหตุผลว่า นี่คือการแก้ปัญหาที่จะนำประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ แม้ต้องเผชิญกับความจริงอันเจ็บปวด "นี่ไม่ใช่การวิ่ง 100 เมตร แต่เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน"
- และเพื่อปกป้องค่าเงินเปโซที่กำลังอ่อนแอ อาร์เจนตินาต้องการเงินช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟมูลค่าราว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท)
- ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงกว่าโควต้าปกติที่อาร์เจนตินาได้รับจากไอเอ็มเอฟถึง 10 เท่า!!
- อาร์เจนตินาผ่านข้อตกลงทางการเงินกับไอเอ็มเอฟในวงเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์ในที่สุด
- ในขณะที่หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลกำลังสิ้นหวัง ทางรัฐบาลอาร์เจนตินายังคงบอกว่า "ไม่ใช่จุดล้มเหลว" แต่เป็น "การเปลี่ยนผ่าน" แก้ปัญหา เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติเท่านั้น
- พวกเขาคาดว่าปัญหาดังกล่าว จะแก้ไขได้ภายในปี 2020
แล้วการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยช่วยอะไร!?
เงินเฟ้อ เกิดขึ้นเพราะเงินในระบบมีมากเกินไป หลายครั้งที่นโยบายเพิ่มดอกเบี้ยถูกนำมาใช้ เพื่อดึงเงินออกจากระบบ
ตามทฤษฎีก็คือ ถ้าดอกเบี้ยสูง ธนาคารและสถาบันการเงินก็จะปรับตัวตาม ผู้คนก็จะฝากเงินมากขึ้น และคนจะกู้เงินน้อยลง
เมื่อนั้นเงินในระบบก็จะค่อยๆ หายไป และปัญหาเงินเฟ้อจะลดลงตามไป
การเกิดเงินเฟ้อ ทำให้คนไม่อยากถือเงินเปโซอาร์เจนตินา
นั่นจะทำให้ปัญหาความเชื่อมั่นในเงินสกุลเปโซที่มีอยู่แล้ว ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
พอคนไม่มั่นใจ คนก็ขายทิ้ง พอคนขายทิ้ง มันก็ยิ่งดูด้อยค่าเพราะมันไม่มีใครต้องการ
เป็นวัฏจักรซ้ำร้ายเข้าไปอีก!!
รัฐบาลจึงต้องหาทางทำให้เงินดูด้อยค่าน้อยลง และเรียกความมั่นใจของนักลงทุนกลับมาให้ได้
ปัจจุบันประเทศอาร์เจนตินา มีตัวเลขจีดีพีประมาณ 17 ล้านล้านบาทในปีล่าสุด
รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรประมาณ 33,000 บาทต่อเดือน
ถูกจัดว่ามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของแถบละตินอเมริกา รองจากเม็กซิโกและบราซิล
และปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ก็เป็นรองเพียงเวเนซุเอลา ที่กำลังเกิดวิกฤตเท่านั้น
มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกันของอาร์เจนตินา กับเวเนซุเอลา คือ "การบิดเบือนความเป็นจริง" ด้วยการอุดหนุนค่าพลังงาน ที่เป็นตัวกดเงินเฟ้อให้ต่ำมาโดยตลอด
แม้ว่าอาร์เจนตินา จะดูไม่วิกฤตหนักเท่ากับเวเนซุเอลา ที่ภาคเอกชนในประเทศเรียกว่าแทบจะตายหมดก็ตามที
แต่ยังมีความกังวลว่า หากเศรษฐกิจของอาร์เจนตินาถึงคราวล่มสลายอีกรอบ บวกกับปัญหาในเวเนซุเอลาด้วยแล้ว
ย่อมจะส่งผลให้เศรษฐกิจของแถบอเมริกาใต้ ได้รับผลกระทบต่อกันไปเป็นลูกโซ่
คราวนี้อาจจะเกิดปัญหาใหญ่หรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ได้ 100%
มองอาร์เจนตินา แล้วย้อนมามองเราเอง
เราคนไทย อาจจะไปแก้ไขวิกฤตที่เวเนซุเอลาหรืออาร์เจนตินาไม่ได้...
แต่เราทุกคนสามารถศึกษา เรียนรู้ และเตรียมพร้อมความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวเองให้พร้อมรับมือกับมันได้
วันนี้คุณพร้อมแค่ไหน คุณยังใช้เงินเดือนชนเดือนอยู่หรือไม่?? คุณยังต้องกู้หนี้ใหม่มาโปะหนี้เดิมเป็นประจำหรือไม่??
หรือคุณกำลังใช้เงินอย่างพอดี จ่ายเงินไม่เกินมือ มีเงินเก็บ เหลือไว้ก็ไปลงทุนเพิ่ม สร้างความมั่นคงให้ตัวเอง
มีแต่คุณเท่านั้นที่จะตอบได้ว่าตอนนี้การเงินคุณมันดีหรือมันแย่
และถ้าหากมันแย่ ก็มีแต่คุณเท่านั้นนะครับ ที่จะเปลี่ยนนิสัยการใช้เงินของตัวเองได้... อยากฝากไว้ให้คิดครับ