ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลงตามตลาดหุ้น เหตุยอดค้าปลีกซบ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 22:51:31 น.
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในวันนี้ หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซาของสหรัฐ
ณ เวลา 22.42 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.48% สู่ระดับ 53.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุดในวันนี้ จากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ทรุดหนักสุดในรอบกว่า 9 ปี รวมทั้งตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
การเปิดเผยยอดค้าปลีก และตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอ ได้บดบังปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 ซึ่งขณะนั้นเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอย
นักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.
การทรุดตัวของยอดค้าปลีกในเดือนธ.ค.ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของยอดขายในสินค้าทุกหมวด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีกำหนดพบปะกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ขณะที่จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงให้แก่คณะผู้แทนสหรัฐที่ภัตตาคารจีนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งคาดว่านายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงดังกล่าว
ทั้งนี้ การที่ปธน.สี จิ้นผิง เตรียมให้การต้อนรับคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ และการที่จีนมีกำหนดจัดงานเลี้ยงดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณบวกที่แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีของทั้งจีนและสหรัฐในความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย
นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ปธน.สี จิ้นผิงเตรียมพบกับคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าในบางส่วนแล้ว
สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์อาจเลื่อนกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนออกไปอีก 60 วัน จากเดิมในวันที่ 1 มี.ค หากมีสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์กำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าในวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งหากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนวันดังกล่าว ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
ราคาทองปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังยอดค้าปลีกทรุดหนัก
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 22:42:11 น.
ราคาทองปรับตัวขึ้นในวันนี้จากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ทรุดหนักในรอบกว่า 9 ปี
ณ เวลา 22.31 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตปรับตัวขึ้น 1.79 ดอลลาร์ หรือ 0.14% สู่ระดับ 1,307.91 ดอลลาร์/ออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลง โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.25% สู่ระดับ 1,311.70 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 ซึ่งขณะนั้นเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอย
นักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.
การทรุดตัวของยอดค้าปลีกในเดือนธ.ค.ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของยอดขายในสินค้าทุกหมวด
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีกำหนดพบปะกับคณะเจรจาการค้าของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ขณะที่จีนจะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงให้แก่คณะผู้แทนสหรัฐที่ภัตตาคารจีนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งคาดว่านายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงดังกล่าว
ทั้งนี้ การที่ปธน.สี จิ้นผิง เตรียมให้การต้อนรับคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ และการที่จีนมีกำหนดจัดงานเลี้ยงดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณบวกที่แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีของทั้งจีนและสหรัฐในความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย
นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ปธน.สี จิ้นผิงเตรียมพบกับคณะผู้แทนการค้าสหรัฐ เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าในบางส่วนแล้ว
สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์อาจเลื่อนกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนออกไปอีก 60 วัน จากเดิมในวันที่ 1 มี.ค หากมีสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์กำหนดเส้นตายสำหรับการบรรลุข้อตกลงทางการค้าในวันที่ 1 มี.ค. ซึ่งหากทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนวันดังกล่าว ปธน.ทรัมป์ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางคาดการณ์ลดลง
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 21:35:22 น.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 239,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่งในช่วงปลายเดือนม.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 6,750 ราย สู่ระดับ 231,750 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว
สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.พ. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 37,000 ราย สู่ระดับ 1.77 ล้านราย
ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 1.75 ล้านราย
สหรัฐเผยยอดค้าปลีกดิ่ง 1.2% ในเดือนธ.ค. ทรุดหนักสุดรอบกว่า 9 ปี
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 20:52:05 น.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 ซึ่งขณะนั้นเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอย
นักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.
การทรุดตัวของยอดค้าปลีกในเดือนธ.ค.ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของยอดขายในสินค้าทุกหมวด
อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนธ.ค.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 1.7% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนพ.ย.
ภาคธุรกิจค้านมาตรการภาษีของทรัมป์ ชี้ทำให้บริษัทสหรัฐพ่ายแพ้ในสงครามการค้า
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 20:14:06 น.
ภาคธุรกิจสหรัฐเปิดเผยว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทำให้ภาคธุรกิจต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้นอีก 2.7 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจดังกล่าวเรียกตัวเองว่าเป็นกลุ่ม Tariffs Hurt the Heartland เป็นการรวมตัวของภาคธุรกิจที่ต่อต้านมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของปธน.ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงกลุ่มพันธมิตร Americans for Free Trade และกลุ่ม Farmers for Free Trade
โฆษกของกลุ่ม Tariffs Hurt the Heartland กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันเป็นผู้พ่ายแพ้ในการทำสงครามการค้า ไม่ใช่คู่แข่งจากต่างประเทศ โดยได้รับผลกระทบจากการจ่ายภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการส่งออกที่ลดลง
ทางด้านสื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์อาจเลื่อนกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนออกไปอีก 60 วัน จากเดิมในวันที่ 1 มี.ค หากมีสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์เคยขู่ว่า หากจีนและสหรัฐยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนวันที่ 1 มี.ค. เขาก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิม 10% ในขณะนี้
คมนาคม คาดรถไฟไทย-จีน ช่วงกรุงเทพ-โคราช ทำสัญญาสร้างครบในพ.ค.,เตรียมชงโคราช-หนองคายทันรัฐบาลนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 17:57:19 น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานคณะกรรมการบริหารโครงการรถไฟไทย-จีน ว่า ขณะนี้การก่อสร้างงานโยธา ช่วงกรุงเทพฯ-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ระยะทาง 252.35 กิโลเมตร ในตอนที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กม. เป็นไปตามแผน ส่วนตอนที่ 2 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กม. จะลงนามสัญญาก่อสร้างกับผู้รับเหมาในวันที่ 6 มี.ค.
ขณะที่โครงการระยะ 1 ในเส้นทางที่เหลือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ประกาศ TOR ประกวดราคา จำนวน 5 สัญญา ระยะทาง 144.06 กม. วงเงินรวม 58,427,582 ล้านบาท ด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) กำหนดยื่นซองในเดือน มี.ค.
ส่วนอีก 7 สัญญาที่เหลือนั้น จะทำราคากลางจะเสร็จใน ก.พ.และออกTOR ได้ในเดือน มี.ค. และสรุปผลประมูลเดือน เม.ย. ลงนามสัญญาก่อสร้างงานโยธา ได้ครบในเดือน พ.ค.62
นายอาคม กล่าวว่า จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 27 ที่กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค.62 โดยคณะกรรมการฝ่ายไทยได้หารือถึงรายละเอียดของสัญญา 2.3 (สัญญาการวางราง และระบบการเดินรถ ระบบอาณัติสัญญาณ พร้อมขบวนรถ) เรื่อง เงื่อนไข เรื่องความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ซึ่งจะพยายามเจรจาเพื่อหาข้อยุติ จากนั้น จะสรุปเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งเป้าลงนามสัญญา2.3 ได้ประมาณเดือนมี.ค.
โดยสัญญา 2.3 นั้นจะเป็นงานเหนือรางขึ้นไป เช่น การวางราง ไม้หมอน เสาสัญญาณ ระบบอาณัติสัญญา ตัวรถ และการดูแลรักษา โดยมีประเด็นที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เช่น จีนเสนอรับประกันรถไฟความเร็วสูงหรือการันตีให้ 1 ปี แต่ฝ่ายไทยต้องการให้รับประกัน 2 ปีตามมาตรฐานสากล ส่วนค่าปรับกรณีล่าช้า จีนเสนอ 0.0001% แต่ตามระเบียบของไทยกำหนดไม่เกิน 0.1% ซึ่งจีนยอมปรับลงตามลำดับ
และค่าปรับกรณีงานก่อสร้างงานโยธาหากฝ่ายไทยทำล่าช้า จีนจะขอเรียกเป็นเงินค่าปรับ แต่ตามกฎหมายไทยไม่มี โดยจะให้มีการขยายเวลาดำเนินงานแทน เพราะความล่าช้าอาจจะเกิดจากปัญหาการเข้าพื้นที่ไม่ได้ เป็นต้น ทั้งนี้ จุดยืนของไทยจะใช้กฎหมายไทยเป็นหลัก ขณะที่จีนเสนอมาหลายประเด็นและข้อเสนอส่วนใหญ่จีนจะไม่ได้ร่วมรับผิดชอบใดๆ
สำหรับกรอบวงเงินสัญญา 2.3 นั้น อยู่ระหว่างการโยกย้ายรายการก่อสร้างจากงานโยธา เนื่องจากจีนใส่รายการผิดพลาด ซึ่งการโยกงบไม่ได้ทำให้วงเงินโครงการเพิ่มแต่อย่างใด เช่น รถอัดหิน อุปกรณ์ต่างๆ
ด้านเงินกู้ที่นำมาใช้ในโครงการนั้น เบื้องต้นกระทรวงการคลังแจ้งว่า อัตราดอกเบี้ยที่จีนเสนอไม่เกิน 3% ระยะปลอดดอกเบี้ย 5 ปี ระยะเวลากู้ทั้งหมด 25 ปี เป็นเงื่อนไขที่รับได้ในขณะนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังจะเป็นผู้เจรจาซึ่งรอการสรุปเนื้องานและกรอบวงเงินของสัญญา 2.3 ประกอบการพิจารณา
นายอาคม กล่าวว่า จะสรุปรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ (feasibility study) โครงการระยะ ที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ต่อ ครม.ได้ในรัฐบาลชุดนี้ และอยู่ระหว่างเสนอของบประมาณเพื่อทบทวนผลการศึกษาและออกแบบรายละเอียด จำนวน 797 ล้านบาท โดยไทยดำเนินการศึกษาออกแบบเอง โดยมีจีนเป็นที่ปรึกษา
รมว.พลังงาน เผยบอร์ดกองทุนอนุรักษ์ อนุมัติงบ 6.8 พันลบ.ส่งเสริมโครงการ พร้อมกัน 2.5 พันลบ.หนุนอปท.สร้างระบบคัดแยกขยะ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 17:52:18 น.
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เห็นชอบจัดสรรงบกองทุนฯประจำปี 2562 รอบที่ 2 ให้โครงการต่าง ๆ ที่เสนอเข้ามารวมเป็นเงิน 6,800 ล้านบาท จากวงเงินรวมประมาณ 9,300 ล้านบาท ส่วนวงเงินที่เหลือ 2,500 ล้านบาท เห็นชอบให้กระทรวงพลังงานหารือกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปใช้ส่งเสริมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไปสร้างระบบคัดแยกขยะชุมชนครบวงจร สำหรับนำขยะมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงในรูปแบบไฟฟ้าและก๊าซชีวภาพ คาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนภายในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ มีผู้ยื่นโครงการเพื่อของบกองทุนฯมาทั้งหมด 38,000 ล้านบาท โดยโครงการที่ไม่ได้รับอนุมัติ ได้แก่ โครงการที่เป็นรูปแบบสาธิต อาทิ เปลี่ยนหลอดไฟ เปลี่ยนเครื่องปรับอากาศ รวมถึงบางโครงการที่แม้จะเป็นโครงการที่ดี แต่ยังมีข้อบกพร่องเรื่องของเอกสาร ก็ขอให้นำไปปรับปรุงเพื่อที่จะนำกลับมาเสนอของบประมาณประจำปี 2563 ที่จะจัดสรรวงเงินสนับสนุนต่อไป
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.36 ตลาดรอผลเจรจาการค้าจีนกับสหรัฐฯ-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 17:51:59 น.
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.36 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่
เปิดตลาดที่ระดับ 31.40 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.34-31.44 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้เงินบาทวิ่งค่อนข้างกว้าง ตลาดยังรอผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ขณะที่สกุลเงินภูมิภาคยังไร้ทิศทางที่
ชัดเจน มีทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า เงินบาทอยู่กลางๆ"นักบริหารเงิน กล่าว
พร้อมประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 31.30-31.40 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูการ
รายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.และยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ของสหรัฐฯ
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.99 เยน/ดอลลารฺ์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 111 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1277 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1268 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,652.64 จุด ลดลง 3.09 จุด, -0.19% มูลค่าการซื้อขาย 45,882.01 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,446.16 ลบ.(SET+MAI)
- ศาลรัฐธรรมนูญลงมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92 โดยเป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7
(13) ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 92
- ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้ว่า มาจากปัจจัยภายนอก อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยอมรับว่าเงินบาทในบางช่วงแข็งค่าเร็วเกินไป แต่ยังไม่พบความผิดปกติ หรือการเก็งกำไรแต่อย่างใด
- ธปท.เปิดแผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงิน ฉบับที่ 4 ซึ่งมุ่งสร้างระบบนิเวศน์ หรือ Ecosystem ให้ Digital Paymentเป็นทางเลือกหลักของการชำระเงิน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงิน และบริการชำระเงินให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ราคาถูก และตรงความต้องการของผู้ใช้ทั้งประชาชน ธุรกิจ e-Commerce และ Social Commerce ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจ SME และธุรกิจขนาดใหญ่ ตลอดจนขยายการใช้บริการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
- บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด กล่าวว่า ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 62 จะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวที่ระดับ3.9% จากระดับ 4.0% ในปี 61 ลดลงเล็กน้อยจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ระดับ 4.2% ซึ่งสะท้อนถึงปัจจัยชี้วัดทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงกว่าคาด
- ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน กุมภาพันธ์ 2562 ปรับลดลงจากเมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา จากระดับ66.05 จุด มาอยู่ที่ระดับ 65.09 จุด ลดลง 0.96 จุด หรือคิดเป็น 1.45% โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีฯ ปรับลดลงมานั้น น่าจะมาจากการแข็งค่าของเงินบาท การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แรงขายทำกำไรของกองทุน ทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)และกระแสเงินทุนไหลเข้าทรัพย์สินเสี่ยงมากขึ้น
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยว่า เฟดจะยังคงสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งในปีนี้และปีหน้าได้ เมื่อเขาพิจารณาจากมุมมองที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจเศรษฐกิจ
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนได้เข้าซื้อพันธบัตร ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานจะตึงตัว ภายหลังธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ประกาศแผนซื้อพันธบัตร
- ผู้บริหารของธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า จีนกำลังพิจารณาเรื่องการออกมาตรการปรับดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารให้กับบริษัทต่างๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อยกระดับกระแสสินเชื่อในจีน
World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 17:00:00 น.
จีนและสหรัฐได้เริ่มการเจรจาประเด็นการค้าในระดับรัฐมนตรีที่กรุงปักกิ่งแล้วในวันนี้ เพื่อคลี่คลายสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงคลังสหรัฐ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ รวมทั้งนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนเข้าร่วม
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์ก นิวส์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ อาจเลื่อนกำหนดเส้นตายในการบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนออกไปอีก 60 วัน จากเดิมในวันที่ 1 มี.ค หากมีสัญญาณว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้า
-- สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนม.ค.ขยายตัว 13.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยยอดส่งออกและนำเข้านั้น ได้มีการคำนวณในรูปสกุลเงินหยวน
-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ปรับเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 1.241 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนธ.ค. ที่ทะยานขึ้นถึง 23.2% โดยหากพิจารณาในรูปสกุลเงินหยวน ยอด FDI เพิ่มขึ้น 4.8%
-- กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐในเดือนธ.ค. 2561 อยู่ที่ระดับ 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 40% จากตัวเลขขาดดุลงบประมาณในเดือนธ.ค. 2560 ซึ่งอยู่ที่ 2.32 หมื่นล้านดอลลาร์
-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 248 ต่อ 177 เสียง ให้ผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการถอนกำลังทหารของสหรัฐออกจากเยเมน ก่อนที่จะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้วุฒิสภาสหรัฐพิจารณาเป็นลำดับต่อไป โดยคาดว่าวุฒิสภาจะทำการลงมติร่างกฎหมายภายในเวลา 30 วัน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์กันว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจใช้สิทธิวีโต้เพื่อยับยั้งการถอนกำลังทหารออกจากเยเมน
-- ผู้พิพากษากลางของสหรัฐพิพากษาว่า นายพอล มานาฟอร์ต อดีตผู้จัดการทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ละเมิดข้อตกลงด้วยการเจตนาให้การเท็จต่อนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อัยการพิเศษอิสระซึ่งทำหน้าที่สอบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐ ตลอดจนสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) และคณะลูกขุนชุดใหญ่
-- นายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรครัฐบาลของมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซียไม่มีทางอ่อนข้อในการเจรจากับโกลด์แมน แซคส์ เกี่ยวกับคดีอื้อฉาวเรื่องการยักยอกเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย (1MDB) พร้อมระบุว่า โกลด์แมน แซคส์ ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
-- สภาคองเกรสเวเนซุเอลาประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชั่วคราวของบริษัท PDVSA ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจน้ำมันของรัฐ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะชิงส่วนแบ่งรายได้จาอุตสาหกรรมน้ำมันที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา
-- บริษัทแอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของยุโรป ประกาศแผนยกเลิกสายการผลิตเครื่องบินโดยสารซูเปอร์จัมโบ้ รุ่น A380 หลังจากยอดขายเครื่องบินรุ่นดังกล่าวซบเซาเป็นเวลาหลายปี นับเป็นการปิดฉากความฝันของแอร์บัสที่ต้องการครอบครองน่านฟ้าด้วยอากาศยานแห่งศตวรรษที่ 21
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก...