ส่องโอกาสการเติบโตหุ้นเดินเรือ

ส่องโอกาสการเติบโตหุ้นเดินเรือ TTA-PSL

เมื่อค่าระวางทำนิวไฮรอบ 18 เดือน

.

ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 เดือน ซึ่งถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ PSL และ TTA ดังนั้นในครั้งนี้ Wealthy Thai จะพานักลงทุนมาสำรวจปัจจัยพื้นฐานของ 2 บริษัทดังกล่าว ว่าจะมีความน่าสนใจแค่ไหน บทความนี้มีคำตอบแล้ว

.

ในมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองว่า ดัชนีค่าระวางเรือเฉลี่ยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากการส่งออกที่หนาแน่นในแถบบราซิล และความแออัดบริเวณคลองปานามา ประกอบกับคาดการณ์อุปสงค์สินแร่เหล็กที่เร่งตัวขึ้น ถือเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ PSL, TTA โดยแนะนำเก็งกำไร PSL คาดช่วยหนุนกำไรไตรมาส 4/66 ให้เร่งตัวขึ้นเด่น

.

ขณะที่ TTA ยังมีประเด็นสนับสนุนจากราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์ค่ายดังกล่าวประเมิน TTA มี Hidden Asset ซ่อนอยู่ และคาดจะเป็น Positive Surprise ต่อตลาด คือ การถือครอง Digital Asset ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปของ Bitcoin

.

ดังนั้น การที่ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นส่งผลให้คาดว่ามูลค่า Digital Asset ในมือของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจาก 2.6 พันล้านบาท เป็น 3.6 พันล้านบาท

.

ส่วนราคาหุ้นถูกเกินไปในแง่ของ Asset Play ที่ระดับ PBV เพียง 0.34 เท่า, Market Cap เพียง 8.9 พันล้านบาท vs Net Cash 783 ล้านบาท มูลค่าเรือเทกอง 7.4 พันล้านบาท, หุ้น Marmaid 3.5 พันล้านบาท, PMTA 951 ล้านบาท, Bitcoin 3.6 พันล้านบาท เทียบเท่าราว 1.6 หมื่นล้านบาท หรือราว 8.8 บาทต่อหุ้น

.

ขณะที่บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน TTA นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 7.40 บาท ประเมินไตรมาส 4/66 มีแนวโน้มดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน

.

โดยธุรกิจเดินเรือมีแนวโน้มฟื้นตัว และ TTA สามารถทำค่าระวางเรือสุทธิ (หักค่าคอมมิชชั่น) ได้สูงกว่ามาโดยตลอด โดยไตรมาส 3/66 สูงกว่าตลาด 27% และธุรกิจเดินเรือมีต้นทุนคงที่สูง ดังนั้นรายได้ก็เพิ่มขึ้นจะไหลไปเป็นกำไรสุทธิเป็นส่วนใหญ่

.

ส่วนบริษัท เมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) (MML) ยังมีแนวโน้มที่ดีจากไตรมาส 4/66 จะรับรู้รายได้ที่ 77 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,730 ล้านบาท (35.50 บาท/ดอลลาร์) และบริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PMTA ยังดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน เนื่องจากการเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกในช่วงไตรมาส 4/66

.

ขณะที่ จากคาดการณ์ของ Clarksons Research ในปี 2567 ความต้องการขนส่งทางเรือโต 1.8% จากปีก่อน ในรูปของตัน-ไมล์และกองเรือโลกโต 2.2% แต่หากรวมผลกระทบจากกฎ EEXI และ CII (ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) ทำให้เรือวิ่งช้าลง จะลดกองเรือลงได้ 1.5-2% ยังอยู่ในภาวะสมดุล โดยอาจมีปัจจัยเร่งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและจีน

.

ส่วน MML แนวโน้มยังดีกว่าในปี 2567 โดยสิ้นไตรมาส 3/66 MML มี Backlog ที่ 697 ล้านดอลลาร์เป็น record high จะรับรู้ในไตรมาส 4/66 ที่ 11% และปี 2567 ที่ 55% หรือ 384 ล้านดอลลาร์ (ราว 13,632 ล้านบาท) สูงกว่าปี 2566 ที่คาด 9,300-9,500 ล้านบาท ทำให้กำไรดีขึ้น และยังมีโอกาสหางานใหม่ๆ เพิ่ม Backlog และรับรู้รายได้สูงขึ้น ส่วนBacklog อีก 34% จะไปรับรู้ในปี 2568-2569

.

ต่อกันที่ PSL ในมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน) แนะนําเพียง ถือ ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 9.70 บาท โดยจากผลประกอบการไตรมาส 3/66 ที่ตํ่ากว่าคาดทําให้ปรับประมาณการกําไรสุทธิปี 66 ลง 42% เป็น 743 ล้านบาท หดตัว 85% จากปีก่อน

.

หลักๆมาจากการปรับลดรายรับเฉลี่ยต่อวันต่อลําลง 12% จากเดิม 12,129 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 10,728 ดอลลาร์สหรัฐ ปรับเพิ่มค่าเสื่อมราคาและต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดที่สูงขึ้น

.

ทั้งนี้ แม้ว่าดัชนี BHSI (Baltic Handysize Index) จะขยับสูงขึ้นในเดือน ก.ย.-ต.ค. แต่เริ่มปรับลงในช่วงปลายเดือน ต.ค. และมักปรับลงต่อเนื่องตาม ฤดูกาลในช่วงปลายปี แต่ก็เชื่อว่าผลการดําเนินงานไตรมาส 4/66 จะฟื้นตัวแม้จะเป็น low season เบื้องต้นคาดกําไรสุทธิที่ 284 ล้านบาท เติบโต 189% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

.

ส่วนมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) แนะนำ “ถือ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 9.10 บาท โดยคาดกำไรไตรมาส 4/2566 จะเติบโตทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน ซึ่ง TC rate ของ BSI ดีดตัวขึ้น 20-30% เป็น 12,000-13,000 ดอลลาร์ฯ ตามลำดับในไตรมาส 4/2566

.

สอดคล้องกับมุมมองของเราที่ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นจะช่วยเร่งความต้องการเติมสต็อกก่อนเทศกาลวันหยุดช่วงสิ้นปี ด้วยเหตุนี้ PSL จึงน่าจะบันทึกกำไรรายไตรมาสที่สูงที่สุดในไตรมาส 4/2566