ห้องเม่าปีกเหล็ก

ถึงเวลาคลายชนวนหนี้อย่างจริงจัง

โดย OVERMoney
เผยแพร่ :
45 views

ถึงเวลาคลายชนวนหนี้อย่างจริงจัง

“หนี้” กำลังกลายเป็นคำที่สะท้อนภาวะเปราะบางที่สุดของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

จากหนี้ครัวเรือนที่พุ่งแตะกว่า 91% ของจีดีพี ไปจนถึงหนี้เอสเอ็มอีที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่หลังโควิด ขณะที่ฝั่งธุรกิจขนาดใหญ่เองก็เริ่มเผชิญแรงกดดันด้านสภาพคล่อง ปัญหานี้กำลังลุกลามไปทั่วระบบ และอาจปะทุเป็น “ระเบิดเวลา” ที่สั่นสะเทือนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หากไม่มีการจัดการอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

 

 

แก้หนี้แบบ “เฉพาะหน้า” ที่ไม่เคยถึงราก

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลและสถาบันการเงินพยายามออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพักหนี้ มาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” หรือการปรับโครงสร้างหนี้เฉพาะกิจ แต่ส่วนใหญ่เป็นการประคองสถานการณ์ชั่วคราว ยังไม่แตะ “ต้นตอหนี้” ที่แท้จริง ทั้งในมิติ รายได้ที่ไม่โตตามค่าครองชีพ โครงสร้างหนี้ที่ไม่เหมาะสมกับศักยภาพผู้กู้ และระบบฟื้นฟูลูกหนี้ที่ขาดความยืดหยุ่น

ผลลัพธ์คือ ลูกหนี้จำนวนมากเพียง “รอดชั่วคราว” แต่ไม่สามารถ “กลับมามีศักยภาพทางเศรษฐกิจ” ได้จริง

 

ฝั่งเจ้าหนี้ก็เริ่มอ่อนแรง

ไม่เพียงแต่ลูกหนี้ ฝั่งเจ้าหนี้—ทั้งธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC)—ต่างเผชิญแรงกดดันจากคุณภาพสินทรัพย์ที่เริ่มเสื่อมลง การต้องตั้งสำรองเพิ่ม หรือเร่งขายหนี้ออกจากงบ เพื่อรักษาสมดุลทางการเงิน ทำให้ระบบโดยรวมเสี่ยงต่อ “ความเปราะบางเชิงโครงสร้าง” มากขึ้นเรื่อย ๆ

 

JV AMC — ยาฉีดเร่ง หรือยาถาวร?

ในสถานการณ์เช่นนี้ แนวคิดจัดตั้ง JV AMC (บริษัทร่วมทุนระหว่างสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์) ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการคลายแรงกดดัน โดยเฉพาะการเข้ามารับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพรายย่อยมูลค่าต่ำแสนบาทที่กระจายอยู่ทั่วระบบ

แต่คำถามสำคัญคือ — นโยบายนี้ช่วยได้จริงหรือไม่?

หากไม่มีมาตรการ “ฟื้นฟูลูกหนี้” ที่มีประสิทธิภาพมาควบคู่ การโอนหนี้จากธนาคารมาอยู่ในมือ AMC อาจไม่ต่างจาก “การย้ายมือระเบิด” ที่ยังไม่ถูกคลายชนวน

 

ถึงเวลาสร้างระบบฟื้นฟูหนี้ “อย่างยั่งยืน”

สิ่งที่ประเทศไทยต้องการ ไม่ใช่เพียงการพักหนี้ แต่คือ “การฟื้นคืนศักยภาพทางเศรษฐกิจของลูกหนี้” ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้ที่ยืดหยุ่นและเป็นธรรม การเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ใหม่ การพัฒนาทักษะอาชีพ และกลไกจูงใจให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ “กลับมาพบกันครึ่งทาง”

รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ทบทวนบทเรียนจากมาตรการแก้หนี้ในอดีต และติดตามผลอย่างต่อเนื่อง หากยังเดินซ้ำรอยเดิมโดยไม่แตะปัญหาเชิงโครงสร้าง ความช่วยเหลือทั้งหมดก็ไม่ต่างจากการ “ยืดเวลา” ของระเบิดลูกเดิม

 

คลายระเบิดก่อนสายเกินแก้

ปัญหาหนี้ไม่สามารถแก้ได้ในเวลาอันสั้น แต่สามารถ “คลายแรงปะทุ” ได้หากทุกฝ่ายร่วมมืออย่างจริงจัง

รัฐบาลต้องมุ่งจัดการเชิงระบบ ภาคการเงินต้องยอมปรับแนวคิดจาก “ลดความเสี่ยง” ไปสู่ “สร้างศักยภาพใหม่” และภาคเอกชนควรเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการฟื้นฟูหนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากกลับมาหมุนได้อีกครั้ง

เพราะสุดท้าย — การแก้หนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของตัวเลขในบัญชี แต่มันคือ “การชุบชีวิตทางเศรษฐกิจ” ของผู้คน และคือการคลายชนวนระเบิดเวลาที่ฝังอยู่ใต้เศรษฐกิจไทยมานานเกินไปแล้ว

 

 


OVERMoney