DITTO กางแผนย้ายเทรด SET ปีนี้
ลุ้นผลงานเข้าเป้า อาจได้เข้า SET100
การันตีรายได้ปี 66 เติบโตกว่า 20%

.
DITTO ปลายปีนี้ขึ้นสังเวียนเทรด SET แถมหากผลงานโตตามคาด อาจเข้าคำนวน SET100 หวังเป็นเป้าหมายกองทุน ล่าสุดตุนงานในมือ 5.4 พันล้านบาท สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท การันตีรายได้โต 20% พร้อมลุยต่อยอดการเติบโตระยะยาว เดินหน้าปลูกป่าชายเลน เป้าใหญ่ 1 แสนไร่ หนุนคาร์บอนเครดิตปีละ 1 ล้านตัน
.
นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนย้านเข้าสู่กระดานซื้อขายตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยบริษัทคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปลายปี 2566
.
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการบริษัทในปี 2566 ประเมินจะมีรายได้เติบโต 20% จากปี 2565 ที่มีรายได้รวม 1,239.90 ล้านบาท เนื่องจาก ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (backlog) ราว 5.4 พันล้านบาท สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นงาน Technology Engineering ราว 3,021 ล้านบาท และ Data Management ราว 2,341 ล้านบาท ซึ่งในจำนวน backlog ดังกล่าวไม่รวมรายได้ให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสารปีละประมาณ 300 ล้านบาท
.
ทั้งนี้บริษัทยังมองเห็นโอกาสจากประเด็น พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีผลบังคับใช้ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริการของภาครัฐจะใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก จึงเป็นโอกาสของบริษัทที่ทำให้เรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว ซึ่งมองมูลค่าตลาดมีขนาดใหญ่ที่ระดับมากกว่า 10,000 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนขยายการรับงานไปสู่ระดับ อบต. และอบจ. อีกด้วย
.
รวมทั้งยังเห็นโอกาสการรับงานจากประเด็นพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) ที่บริษัทก็ยังสามารถทำได้เช่นกัน ขณะที่ การให้บริการระบบรักษาความปลอดภัย Cyber Security นั้น ยังมองว่ามีโอกาสเติบโตสูง โดยปัจจุบันมีธนาคารกรุงไทยเข้าใช้บริการ ซึ่งมองว่ามีโอกาสขยายไปยังธนาคารอื่นๆ ในอนาคต เพราะมองว่าธนาคารจะมีการลงทุนเกี่ยวกับ Cyber Security ในระดับที่สูง แต่หลังจากนี้อีก 5 ปี คาดว่าหน่วยงานของรัฐจะลงทุนในเรื่อง Cyber Security สูงขึ้นอีกด้วย
.
ขณะที่ธุรกิจ Green Technology ธุรกิจสีเขียวสร้างการเติบโตระยะยาว โดยบริษัทวางเป้าหมายใน 10 ปี ปลูกป่า 1 แสนไร่ และคาร์บอนเครดิตปีละ 1 ล้านตัน โดยปัจจุบันบริษัมมีพื้นที่ปลูกป่าชายเลนรวมทั้งสิ้นจำนวน 48,000 ไร่ นอกจากนี้ยังมีการคัดแยกขยะในพื้นที่สมุทรปราการ ซึ่งทำให้บริษัทมีรายได้จากการคัดแยกขยะ และคาร์บอนเครดิตอีกด้วย
.
นายฐกร กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนออก Token ที่เกี่ยวข้องกับคาร์บอนเครดิต เพื่อนำเงินระดมทุนมารองรับการปลูกป่า ดูแลป่า และสร้างชุมชนอย่างยั่งยืน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนได้ เบื้องต้นคาดเห็นความชัดเจนภายในปี 2567
.
“เรามองเห็นโอกาสการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของธุรกิจ Data Management Cyber Security รวมทั้ง Green Technology ธุรกิจสีเขียวที่จะสร้างการเติบโตระยะยาว ขณะที่การเข้ารับงานโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ ระยะที่ 1 คลองหกนั้น มองว่าบริษัทยังมีโอกาสรับงานเฟสที่ 2 ในอนาคตอีกด้วย ขณะที่บริษัทมีแผนย้ายเข้า SET คาดชัดเจนปลายปีนี้ และหากผลประกอบการบริษัทยังมีการเติบโตตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ มีโอกาสที่จะเข้าคำนวนดัชนี SET100 ในอนาคต ทำให้อยู่ในเป้าหมายของกองทุนอีกด้วย”นายฐกร กล่าว