ห้องเม่าปีกเหล็ก

หุ้น“เดลต้า”พีอีพุ่ง ดันพีอี SET

โดย หญิงแม้น
เผยแพร่ :
49 views

หุ้น“เดลต้า”พีอีพุ่ง 151 เท่า ดันพีอี SET ขึ้นมาที่ 30 เท่าแล้ว!

เกาะติดคุมหุ้นฟรีโฟลทต่ำ บล.ทิสโก้ เปิดโผหุ้น SET50 ที่เข้าข่ายนักลงทุนควรระวังมากเป็นพิเศษ  DELTA, KTC, IVL ส่วนหุ้น SET51-100 คือ ESSO บล.โนมูระ ฯ คาดมี 2 แนวทาง ยกระดับ Cash Balance ที่เข้มงวดขึ้นทีละระดับ และขยับเกณฑ์ฟรีโฟลทคำนวณ SET 50-100 มากกว่า 25% 

ปรากฏการณ์ราคาหุ้น DELTA หรือ บมจ เดลต้าอีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย) ปรับตัวขึ้นมากถึง 300% ในช่วงระยะเวลาเพียง 2 เดือนเศษ ทำให้มีมูลค่าตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ใหญ่เป็นอันดับ 3 เป็นรองแค่ PTT และ AOT เท่านั้น 

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทิสโก้ ระบุว่า ราคาหุ้น DELTA ปัจจุบันซื้อขายที่พี/อี เรโช 151 เท่า ดึงให้พี/อี  ของตลาดสูงขึ้นตามไปด้วย ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 30 เท่า จากเดิม 2 เดือนที่แล้วที่อยู่ประมาณ 20 เท่า

ในช่วงเวลาดังกล่าว การปรับตัวขึ้นของ SET Index ประมาณ 340 จุด หรือ +28% ถูกขับเคลื่อนจากราคาหุ้น DELTA เพียงตัวเดียวถึง 58 จุด หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงเกือบ 1 ใน 5 ของการปรับตัวขึ้นของตลาดรอบนี้ สะท้อนการปรับตัวขึ้นที่กระจุกตัวมาก

ทั้งนี้ DELTA เพิ่งได้รับคัดเลือกเข้า SET50 Index ในต้นเดือน ม.ค.นี้ กำลังสร้างความกังวลแก่ตลาดถึงความร้อนแรงของราคาหุ้นดังกล่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของตลาดโดยรวม จนเป็นที่มาของตลาดหลักทรัพย์ฯ เล็งหารือคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการปรับเกณฑ์การกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือหุ้นฟรีโฟลทต่ำ เพื่อป้องกันภาวะตลาดผันผวน

บล.ทิสโก้ ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ ของหุ้นทั้งหมดใน SET100 Index พบว่า หุ้นใน SET50 มีฟรีโฟลทเฉลี่ย 46.4% (Max = 98.6%, Min = 22.4%) และหุ้นใน SET51-100 มีฟรีโฟลทเฉลี่ย 48.4% (Max = 87.8%, Min = 21.2%) 

โดยหุ้นใน SET50 ที่มีฟรีโฟลทต่ำที่สุด 5 อันดับแรก คือ DELTA (22.4%), VGI (24.7%), GPSC (24.7%), AWC (25.0%) และ TOA (25.0%) ขณะที่หุ้นใน SET 51-100 ที่มีฟรีโฟลทต่ำสุด คือ BPP (21.2%), ACE (21.8%), CKP (23.8%), EPG (25.9%) และ WHAUP (26.8%) ตามลำดับ

หากพิจารณาหุ้นที่มีฟรีโฟลทต่ำกว่าเฉลี่ยที่ประมาณ 40% ควบคู่กับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เทียบกับเป้าหมายราคาหุ้นของตลาดโดยรวม (Bloomberg Consensus) บล.ทิสโก้ มองหุ้นใน SET50 ที่เข้าข่ายนักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ คือ DELTA, KTC และ IVL เนื่องจากราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวขึ้นถึง 301% เท่า, 94% และ 70% และระดับราคาหุ้นปัจจุบันมี Downside สูงถึง -73%, -48% และ -14% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นใน SET51-100 ที่ควรใช้ความระมัดระวัง คือ ESSO

สำหรับแนวทางการปรับเกณฑ์หุ้นฟรีโฟลทต่ำ เพื่อป้องกันภาวะตลาดผันผวน บล.ทิสโก้ มองมีความเป็นไปได้ที่อาจปรับ “คำนิยาม” ที่ใช้ในการกำหนดฟรีโฟลทของหุ้นใหม่ เพราะ “คำนิยาม” ในปัจจุบันอาจยังไม่สอดคล้องกับสภาพฟรีโฟลทที่แท้จริงของหุ้นแต่ละตัว โดยเฉพาะเกณฑ์การถือหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย และกองทุนรวมต่าง ๆ ที่น้อยกว่าระดับ 5% นับเป็นฟรีโฟลท ซึ่งอาจทำให้ฟรีโฟลทสูงกว่าสภาพที่แท้จริง

นอกจากนี้ บล.ทิสโก้ มองหลักเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นเข้าคำนวณใน SET50 Index หรือ SET100 Index ที่กำหนดให้มีฟรีโฟลทไม่ต่ำกว่า 20% อาจถูกปรับใหม่ให้เข้มงวดขึ้น เช่น จาก 20% เป็น 25% เป็นต้น และอาจไม่ใช้แค่ข้อมูล “ฟรีโฟลทล่าสุด” ที่ผ่านเกณฑ์เท่านั้น แต่อาจเป็นข้อมูล “ฟรีโฟลทย้อนหลัง” ที่ผ่านเกณฑ์อย่างสม่ำเสมอ เช่น มีฟรีโฟลทไม่น้อยกว่า 20% เป็นเวลา 3-6 เดือน เป็นต้น

ผสานกับความเป็นไปได้ที่อาจมีการยกระดับการใช้มาตรการกำกับการซื้อขายที่ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด (Market Surveillance Measure ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 ระดับ คือ ระดับ 1: Cash Balance / ระดับ 2: ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance / ระดับ 3: ห้าม Net settlement, ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance) ขึ้นแบบต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอรอบการใช้มาตรการกำกับการซื้อขายเดิมจะสิ้นสุดลงก่อน รวมทั้งอาจมีการใช้มาตรการกำกับการซื้อขายที่ผิดไปจากสภาพปกติของตลาดไม่ใช่แค่ภาวะราคาปรับตัวขึ้นเท่านั้น แต่รวมถึงราคาปรับตัวลงด้วย

ทั้งนี้ ประเด็นทั้งหมดเป็นเพียงมุมมองของบล.ทิสโก้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหารความเสี่ยงของนักลงทุนเท่านั้น

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์กรณีตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังหารือกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นของหุ้นที่การซื้อขายหมุนเวียนในตลาดต่ำ (ฟรีโฟลท) ซึ่งแนวโน้มมาตรการที่เข้มงวดอาจมี 2 แนวทางดังนี้ 

แนวทางแรก  ยกระดับ Cash Balance ที่เข้มงวดขึ้นทีละระดับ แนวทางที่ 2 หากทางการเห็นว่ากลุ่มที่ฟรีโฟลทต่ำมีผลต่อการโน้มเอียงของดัชนี SET 50-100 สูง อาจพิจารณาขยับเกณฑ์ฟรีโฟลทของการคำนวณ SET 50-100 มากกว่า 25% ในอนาคต หรือปรับเข้มงวดในส่วนของการพิจารณาสภาพคล่องการหมุนเวียนของหุ้นภายในรายเดือนที่เข้มขึ้นจากเดิม 5% ลดทีละ 0.5% ลงมาไม่ต่ำกว่า 1% อาจขยับฐานสูงขึ้น เพื่อได้ชุดหุ้นที่มีสภาพคล่องภายในสูง 

ดังนั้น คาดว่ากลุ่มหุ้นที่ตลาดจับตา น่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ใน SET 50-100 ที่มี เกณฑ์ฟรีโฟลต เกินเกณฑ์ขั้นต่ำ (20%) ไม่มาก คือ กรอบ 20-25% เพราะเป็นกลุ่มที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี SET และ SET50-100 สูง ซึ่งในกลุ่มนี้บล.โนมูระ พัฒนสินไปสำรวจฟรีโฟลทในกรอบ 20-25% ได้แก่

1) SET50 : DELTA, GPSC, AWC, VGI

2) SET100 : BPP, ACE, CKP

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


หญิงแม้น