ห้องเม่าปีกเหล็ก

PTT หุ้นพลังงานยักษ์ใหญ่ปันผลดี

โดย JomFolk
เผยแพร่ :
747 views

PTT หุ้นพลังงานยักษ์ใหญ่ปันผลดี

ลุ้นปี 66 ให้ผลตอบแทนสูงถึง 6%

 

.

หุ้นปันผลสัปดาห์นี้ Wealthy Thai ขอหยิบยกหุ้น PTT หรือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของไทย ซึ่งมีบริษัทย่อยที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลายบริษัท ยกตัวอย่างเช่น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ฯลฯ มาฝาก

.

แม้ PTT จะเป็นหุ้นที่ราคาและผลประกอบการผันแปรตามราคาพลังงานในตลาดโลก และอาจเหมาะกับการลงทุนระยะสั้นมากกว่าการลงทุนระยะยาว แต่บริษัทก็มีประวัติการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ และให้อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ในระดับที่ดีไม่แพ้หุ้นในกลุ่มการเงินหรือหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มยอดนิยมที่นักลงทุนมักเลือกในธีมหุ้นปันผล

.

โดยในรอบ 1 ปี PTT มีอัตราเงินปันผลตอบแทนอยู่ที่ 6.35% และติดอยู่ในลำดับที่ 5 ของดัชนี SETHD หรือ SET High Dividend 30 Index ดัชนีที่สะท้อนความเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสม่ำเสมอและมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง

.

จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ตั้งแต่ปี 2561 ถึงปี 2566 บริษัทจ่ายปันผลไปทั้งหมด 11 ครั้ง รวมเป็นเงิน 21 บาท ล่าสุดบริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมที่ 0.70 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 2 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา และจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในวันที่ 28 เม.ย. 66

.

ปัจจุบัน PTT มีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) อยู่ที่ 914,015.88 ล้านบาท และมี P/E อยู่ที่ระดับ 10.02 เท่า (ข้อมูล ณ วันที่ 2 มี.ค. 66) โดยราคาหุ้นวันที่ 2 มี.ค. 66 อยู่ที่ 31.50 บาท ปรับตัวลดลงในช่วง 1 ปี 20.75%

.

สำหรับแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลในปี 2566 และ 2567 นั้น นักวิเคราะห์จากบล.เอเซีย พลัส คาดการณ์ว่าปี 2566 บริษัทจะจ่ายเงินปันผลที่ 2 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 6.1% ส่วนปี 2567 คาดจะจ่ายเงินปันผลที่ 2 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 6.1% เช่นเดียวกัน

.

ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานในปีนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดประมาณการปี 2566 ของ PTT ลง 15.5% เพื่อสะท้อนการปรับลดกำไรของบริษัทลูกในกลุ่ม ซึ่งภายใต้ประมาณการใหม่กำไรจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ราว 9.7 หมื่นล้านบาท ลดลง 3.9% ซึ่งเป็นผลหลักมาจากธุรกิจปิโตรเลียมที่คาดราคาขายน้ำมันและค่าการกลั่นจะปรับตัวลดลงจากที่อยู่ในระดับสูงผิดปกติในปี 2565 จากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน แต่คาดจะยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับอดีต เพราะมองว่าจะเป็นลักษณะการทยอยปรับตัวลดลง แต่คาดจะเห็นการฟื้นตัวในส่วนของธุรกิจปิโตรเคมี แม้จะยังไม่โดดเด่นมากมาช่วยหนุนไว้

.

อย่างไรก็ตามในช่วงสั้น คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 1/66 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/65 รับอานิงสงค์จากราคาก๊าซ LNG ที่ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 4/65 ที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งคาดจะส่งผลให้กำไรจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติน่าจะเห็นการฟื้นตัว นอกจากนี้ค่าการกลั่นที่ยังอยู่ในระดับสูงตามฤดูกาล และการกลับมาเดินเครื่องเต็มที่ของโรงกลั่นที่ shutdown น่าจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานปกติของกลุ่มโรงกลั่นดีขึ้น

.

ด้านธุรกิจปิโตรเคมีคาดจะฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดประเทศของจีน ถึงแม้ PTTEP ที่คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 1/66 จะปรับตัวลดลงจากไตรมาส 4/65 กดดันจากทั้งปริมาณขายที่คาดจะปรับตัวลดลงเหลือราว 4.7 แสนบาร์เรลต่อวัน จาก 5.0 แสนบาร์เรลต่อวัน รวมถึงแนวโน้มราคาขายเฉลี่ยที่คาดจะปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบและราคาก๊าซฯ แม้ต้นทุนจะปรับตัวลดลงสู่ระดับปกติก็ตาม

 

 


JomFolk