การลงทุนแบบวัฏจักร ( Cyclical Investment )

                 การลงทุนแบบวัฏจักร ( Cyclical Investment ) เป็นการลงทุนตามรอบของธุรกิจที่เป็นวัฏจักร เช่น ธุรกิจแฟชั่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจเดินเรือ และธุรกิจโภคภัณฑ์ เป็นต้น

                 การลงทุนแบบวัฏจักร ( Cyclical Investment ) ที่ประสบผลสําเร็จในอดีต ( Success Story ) มีดังนี้คือ :

                 1) ปีเตอร์ ลินส์ ( Peter Lynch ) ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ผลิตถุงน่องสตรียี่ห้อ แอล เลค ( L'LEG ) : ปีเตอร์ ลินส์ ( Peter Lynch ) ค้นพบผลิตภัณท์นี้โดยการบอกเล่าจากลูกสาวตัวเองว่ามีผลิตภัณท์ออกไหม่และขายดีมากๆในห้างสรรพสินค้า ปีเตอร์ ลินส์ ( Peter Lynch ) จึงตามลูกสาวตัวเองไปดู แล้วก็ค้นพบความจริงตามที่ลูกสาวบอก ชาวอเมริกันในสมัยนั้นได้แห่แหนไปซื้อสินค้าที่ออกตลาดใหม่อย่างมืดฟ้ามัวดินด้วยความต้องการที่จะจับจองเป็นเจ้าของก่อนคนอื่น ปีเตอร์ ลินส์ ( Peter Lynch ) กลับมาบ้านแล้วศึกษาความเคลื่อนไหวของราคาและงบการเงินของบริษัทนี้เพิ่มเติม แล้วตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัทดังกล่าวทันที ปีเตอร์ ลินส์ได้ถือหุ้นของบริษัทนี้ไม่กี่ปีถัดมาแล้วขายหุ้นออกไปเมื่อเห็นว่าตลาดของผลิตภัณท์ตัวนี้อิ่มตัวแล้ว การลงทุนครั้งนี้ได้สร้างผลตอบแทนให้แก่ ปีเตอร์ ลินส์ ( Peter Lynch ) หลายเท่าตัว

                2) วอเร็น บัฟเฟ็ต ( Warren Buffett ) ลงทุนในบริษัท ปิโตร ไชน่า ( PetroChina ) ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตนํ้ามันและก๊าซธรรมชาติสัญชาติจีน ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกในขณะนั้น วอเร็น บัฟเฟ็ต ( Warren Buffett ) ซื้อหุ้นของบริษัท ปิโตร ไชน่า ( PetroChina ) เมื่อต้นปี ค.ศ 2003 เมื่อราคานํ้ามันเวสต์ เทกซัส ( West Texes ) อยู่ที่ 25 USD ต่อ Barrel วอเร็น บัฟเฟ็ต ( Warren Buffett ) ขายหุ้น ปิโตร ไชน่า ( PetroChina ) ที่ถืออยู่ในปี ค.ศ 2008 เมื่อราคานํ้ามันเวสต์ เทกซัส ( West Texes ) อยู่ที่ 120 USD ต่อ Barrel การลงทุนครั้งนี้ได้สร้างผลตอบแทนให้แก่ วอเร็น บัฟเฟ็ต 4 เท่าตัว

               การลงทุนแบบวัฏจักร ( Cyclical Investment ) ที่ผู้โพสต์ ขอนําเสนอเพื่อให้ทุกท่านที่สนใจติดตาม ดังนี้คือ :

               1) ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง : ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป จนถึงปี พ.ศ 2563 เนื่องจากนโยบายโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ 3 ล้านลา้นบาท ระหว่าง ปี พ.ศ 2558 ถึง ปี พ.ศ 2565

               2) วิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อ Fed Fund Rate ขึ้นไปยืนอยู่ที่ระดับ 4.00 - 4.25% ในปี 2564 : ถือเงินสดเพื่อซื้อหุ้นในราคาถูก

               3) ธุรกิจถ่านหิน : ตั้งแต่ปี พ.ศ 2565 ถึง ปี พ.ศ 2569 เนื่องจากเศรษกิจจีน น่าจะเป็นขาขี้นรอบใหญ่ ตั้งแต่ปี พ.ศ 2565 ถึง ปี พ.ศ 2569