วิเคราะห์ดีแต่เจ๊ง VS วิเคราะห์ไม่ดีแต่รวย
วิเคราะห์ดีแต่เจ๊งหมายถึงการวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทยและหุ้น 10 ตัวแรกว่าเป็นหุ้นพื้นฐาน หุ้นบลูชิพ หุ้นเน้นมูลค่า และหุ้นเติบโต แต่ปรากฎผลว่าขาดทุนดังนี้ คือ :
การปรับตัวของ Set Index และหุ้น 10 อันดับแรกจากจุดสูงสุดตั้งแต่ครึ่งแรกของปี พ.ศ 2561 จนถึงวันที่ 25 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 เป็นดังนี้ คือ :
1) Set Index = -13.98%
2) PTT = -25.21%
3) AOT = -1.93%
4) CPALL = -12.78%
5) ADVANC = +7.91% ( เป็นหุ้นตัวเดียวที่มีกําไร แต่มีกําไรที่น้อยมากอยู่ดี )
6) SCC = -32.95%
7) PTTEP = -22.44%
8) KBANK = -43.75%
9) SCB = -33.23%
10) BBL = -23.96%
11) PTTGC = -53.33%
12) ค่าเฉลี่ย = -23.24%
ส่วนผู้โพสต์ใช้หลักการ Long และ Short Set 50 Index Futures ตามการปั่นและทุบของทรัมป์ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นหลักการลงทุนที่ไม่ดี แต่ได้กําไรดีดังนี้ คือ :
Sak Index ประจําวันที่ 25 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 = 161.52 จุด
กําไรสะสมรวม = +161.52% ( วันที่ 25 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 )
1) โดน Automatic All Time Stop Loss S50H19 ที่ 1,070.0 จุด เมื่อ วันที่ 25 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562
2) กําไร/ขาดทุน = ( 1,070.0 - 1,078.0 - 0.93 ( Commission Fee and VAT )) x 200 / 10,298 = -17.34%
3) Automatic All Time Stop Loss <= 1,070.0 จุด
หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( www.tfex.co.th )
2) ผลตอบแทนของกองทุนประกันความเสี่ยงเรืองอนันต์ ( RUNAG-A-NUNT HEDGE FUND ) เป็นดังนี้ คือ :
2.1) ปี พ.ศ 2561 = +19.30%
2.2) ปี พ.ศ 2562 = ( +11.27% + 44.98% + 4.99% - 10.88%+151.31 -23.01% - 23.01%+34.88%+24.73% -20.89% -24.40% -9.19% +14.90% - 16.12% -17.34%)
= +142.22%
2.3) กําไรสะสมรวม = +19.30% +142.22% = +161.52%
2.4) วันที่ 4 กันยายน ปี พ.ศ 2562 เป็นวันแรกที่กําหนด Sak Index ที่ +189.27%
3) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Index Futures ตามการปั่นและทุบหุ้นของทรัมป์ได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook