ดอลลาร์บาทออปชัน เครื่องมือใหม่ใช้จัดการค่าเงิน
By ดร. รินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย)

TFEX เตรียมเปิดตัว “ดอลลาร์บาทออปชัน” เครื่องมือบริหารความเสี่ยงค่าเงินรูปแบบใหม่ ช่วยผู้ลงทุน–ผู้ประกอบการป้องกันความผันผวนและสร้างโอกาสทำกำไร ด้วยต้นทุนจำกัดและไม่ต้องวางมาร์จิน
หนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่ผู้ลงทุนสามารถใช้บริหารความเสี่ยงและสร้างโอกาสทำกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน คือ ‘ดอลลาร์ฟิวเจอร์ส’ (USD/THB Futures) ที่ซื้อขายใน TFEX ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาซึ่งค่าเงินบาทมีความผันผวน ดอลลาร์ฟิวเจอร์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนในการจัดการค่าเงิน ในเร็วๆ นี้ TFEX จะเปิดซื้อขายผลิตภัณฑ์ใหม่ “ดอลลาร์บาทออปชัน” (USD/THB Options)
ดอลลาร์บาทออปชัน เป็น “สิทธิ” ในการซื้อหรือขายดอลลาร์ฯ ในอนาคต ตามราคาที่ตกลงไว้ ดังนั้น ‘ผู้ซื้อ’ จึงสามารถใช้สิทธิได้ตามสัญญา แต่หากคิดว่าใช้สิทธิก็ไม่ได้ประโยชน์ก็สามารถปล่อยสิทธินั้นให้หมดอายุไป หรืออาจจะเลือกขายออปชันนั้นก่อนสัญญาครบกำหนดก็ได้ ดังนั้น สำหรับผู้ซื้อออปชันนั้น จึงไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องวางหลักประกันแบบฟิวเจอร์ส และผลขาดทุนสูงสุดที่จะเกิดขึ้น ก็จะไม่เกินเงินค่าซื้อดอลลาร์บาทออปชันที่เรียกว่าค่าพรีเมียม (Premium) ในทางกลับกัน ‘ผู้ขาย’ ออปชัน จะได้รับค่าพรีเมียมจากการขายดอลลาร์บาทออปชัน แต่ก็มีภาระผูกพันและมีโอกาสที่จะขาดทุนสูงกว่าค่าพรีเมียมที่ได้รับ และจำเป็นต้องวางหลักประกันตามที่ตลาดกำหนด
ดังนั้น สำหรับผู้เริ่มต้นซื้อขายดอลลาร์บาทออปชัน ซึ่งยังไม่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์นัก อาจเริ่มซื้อขายด้วยการซื้อออปชัน เพราะสามารถตัดความยุ่งยากเรื่องการวางหลักประกัน จำกัดผลขาดทุน และใช้เงินทุนไม่มากนัก ในขณะที่สามารถใช้ดอลลาร์บาทออปชันสร้างโอกาสทำกำไรหรือจัดการความเสี่ยงจากการคาดการณ์ทิศทางค่าเงินได้ ไม่ว่าจะกรณีที่คาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าหรืออ่อนค่า
เพื่อใช้เห็นภาพการใช้ดอลลาร์บาทออปชันแบบง่ายๆ ลองพิจารณาจากตัวอย่างต่อไปนี้ หากปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์ฯ ผู้ลงทุนคาดการณ์ว่าดอลลาร์ฯ จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับบาท จึงซื้อสิทธิในการซื้อคอลออปชัน (Call Options) ของดอลลาร์บาท ที่มีราคาใช้สิทธิ (Strike) ที่ 32.5 บาท โดยจ่ายค่าพรีเมียม 0.19 บาทต่อสัญญา หรือเท่ากับ 190 บาท (1 สัญญามีขนาดเท่ากับ 1,000 ดอลลาร์ฯ) ต่อมาหากดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น ราคาคอลออปชันจะเพิ่มขึ้น โดยหากสมมติว่าราคาเพิ่มเป็น 0.39 บาท ผู้ถือคอลออปชันก็ สามารถเลือกขายคอลออปชันและทำกำไร (0.39 - 0.19) x 1,000 = 200 บาทต่อสัญญา (คิดเป็นผลตอบแทน 105%) อย่างไรก็ตาม หากคาดการณ์ผิด เงินดอลลาร์ฯไม่แข็งค่าขึ้น ในกรณีนี้ราคาคอลออปชันก็จะปรับตัวลดลง สมมติให้ลดลงมาเหลือเท่ากับ 0.10 บาท กรณีเช่นนี้ ผู้ถือออปชันก็สามารถเลือกขายคอลออปชันออกไปเลย โดยจะขาดทุน (0.10-0.19) x 1,000 = -90 บาทต่อสัญญา หรือยังคงถือออปชันไว้เผื่อว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น ซึ่งในกรณีหลังนี้ หากค่าเงินไม่แข็งค่าขึ้นเลยตลอดอายุของคอลออปชัน ก็จะทำให้เกิดผลขาดทุนมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 190 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ซื้อคอลออปชันมา
นอกจากการหาโอกาสทำกำไรแล้ว ผู้ลงทุนที่มีพอร์ตลงทุนต่างประเทศก็สามารถใช้ดอลลาร์บาทออปชันป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินได้เช่นกัน เช่น ผู้ลงทุนที่ถือหุ้นในตลาดสหรัฐฯ หากกังวลว่าเงินดอลลาร์กำลังจะอ่อนลงขึ้นจนทำให้มูลค่าพอร์ตเมื่อแปลงกลับเป็นเงินบาทลดลง ก็สามารถซื้อพุทออปชัน (Put Options) ของดอลลาร์บาทไว้ เพื่อประกันความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินบาท หากเงินดอลลาร์อ่อนค่าจริง ผู้ลงทุนก็จะได้กำไรจากออปชันมาช่วยชดเชยการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนของพอร์ตลงทุน ทำให้ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนจะขึ้นอยู่กับผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ไปลงทุน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงค่าเงิน
สำหรับผู้ประกอบการที่มีความเกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออก ดอลลาร์ออปชันก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารความเสี่ยง ตัวอย่างเช่น ผู้ส่งออกที่รับรายได้เป็นดอลลาร์ฯ สามารถซื้อพุทออปชันของดอลลาร์บาทเพื่อประกันความเสี่ยงกรณีเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะที่ผู้นำเข้าที่ต้องจ่ายซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบเป็นดอลลาร์ฯ ก็สามารถซื้อคอลออปชันของดอลลาร์บาทเพื่อป้องกันความเสี่ยงกรณีเงินดอลลาร์แข็งค่า ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ดอลลาร์ออปชันได้อย่างสะดวก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารนำเข้าส่งออก ซึ่งแตกต่างจากการทำสัญญา Forward กับสถาบันการเงินที่มักต้องใช้เอกสารประกอบว่ามีการทำธุรกรรมต่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้ซื้อดอลลาร์ออปชันจะจ่ายเพียงค่าพรีเมียม (Premium) เต็มจำนวนในครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นต้นทุนสูงสุดที่จะขาดทุนได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องการวางหลักประกัน (Margin) หรือถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) การซื้อดอลลาร์ออปชันจึงใช้งานง่ายและสะดวก
ที่มา.. https://www.bangkokbiznews.com/blogs/finance/stock/1210492