
ปี 2018 นับว่าเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์ของยักษ์ใหญ่ วงการสื่อทีวีอย่าง BEC หรือที่รู้จักกันในนามของ “ช่อง3” มีผลประกอบการ “ขาดทุน”
แต่นั่นคงไม่ใช่เรื่องที่เหนือคาดเท่าใดนัก เพราะเทรนด์กำไร BEC ลดลงต่อเนื่อง 5 ปีติด จากเคยกำไรทุบสถิติ 5.5 พันลบ. เมื่อปี 2013 พลิกเป็นขาดทุน 330 ลบ.ในปี 2018 วงการทีวีดิจิทัลถูก “Disruption” จากการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี ผู้ประกอบการหลายรายเข้าขั้น “โคม่า” หลังประมูลใบอนุญาตมา ต้องแบกภาระค่าใบอนุญาต แต่สร้างรายได้ไม่ทัน เพราะพฤติกรรมผู้คนเปลี่ยนไปเสพคอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
ในสภาวะของการทำธุรกิจที่ยากลำบากในปัจจุบัน นอกจากปัจจัยภายนอก ที่ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า...ความอยู่รอดหรือ อยู่ไม่รอดขององค์กรมาจาก “วิสัยทัศน์” ของผู้บริหาร โดยเฉพาะกลุ่มผู้ก่อตั้ง ที่จะส่งผ่านค่านิยมและวัฒนธรรมไปยังพนักงาน ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่เป้าหมาย
ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการปรับตัวของ “ช่อง3” ภายใต้การบริหารงานของตระกูล “มาลีนนท์” มีการปรับโครงสร้างองค์กรอยู่บ่อยครั้งในระดับบริหาร ทั้งปรับ ,เปลี่ยน,แต่งตั้งคนใหม่
ย้อนไปเมื่อปี2017 มีการปรับทัพยกใหญ่ตลอดทั้งปี โดยในการประชุมบอร์ดทุกๆ เดือนจะมีวาระปรับตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงแทบจะทุกครั้ง และสถานการณ์ยังคงต่อเนื่องมาถึงปี 2018
ไทม์ไลน์ปี 2018
19 ม.ค.2018 นางสาว รัตนา มาลีนนท์ ลาออกจากหัวหน้าคณะผู้บริหารสาย การเงิน แต่งตั้ง นายพิริยดิส ชูพึ่งอาตม์ ดำรงตำแหน่งแทน
9 ก.พ.2018 เปิดตัวพาร์ทเนอร์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ร่วมกับ "LINE TV"
23 ก.พ.2018 นายกวิน กาญจนพาสน์ ลาออกจากกรรมการและกรรมการอิสระ
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ลาออกจากประธานกรรมการบริหาร
29 มี.ค.2018 เปิดตัว Mello แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเป็นทางการของบริษัท
30เม.ย.2018 เปิดตัวการออกอากาศคู่ขนานละคร "ลิขิตรัก The Crown Princess" กับแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Tencent Video
11 พ.ค.2018 นายวรวรรธ์ มาลีนนท์ ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ
4 มิ.ย.2018 เปิดตัวพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอลมีเดีย (JKN)
จะเห็นได้ว่าปี 2018 BEC ก็ยังมีการปรับเปลี่ยนทีมบริหารอยู่หลายครั้ง แต่ไม่บ่อยเท่าปี 2017 ส่วนในด้านธุรกิจก็มีการหา “พาร์ทเนอร์” เข้ามาเพิ่มอย่าง JKN และ LINE
ไทม์ไลน์ปี 2019
4 มี.ค.2019 แต่งตั้ง นายอริยะ พนมยงค์ เป็นกรรมการและ กรรมการผู้อำนวยการ มีผล 2 พ.ค.2019
แต่งตั้ง นายประชุม มาลีนนท์ เป็นประธานกรรมการบริหาร มีผล 2 พ.ค.2019
29 มี.ค.2019 ร่นวันให้ นายอริยะ พนมยงค์ ดำรงตำแหน่งเร็วขึ้นเป็น 18 เม.ย.
ฮือฮาสุด! ในช่วงต้นปี 2019 คือการดึงตัว “อริยะ พนมยงค์” มือดีจาก LINE (ประเทศไทย) มานั่งเก้าอี้ร้อน “กรรมการผู้อำนวยการ”
การเปิดทางของตระกูล “มาลีนนท์” ให้คนภายนอกในครั้งนี้ น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า เขาจะเข้ามา “ปลุกไข้” BEC ได้สำเร็จหรือไม่
BEC มีผู้ถือหุ้นรายย่อย 12,000 ราย ราคาหุ้นเป็นอย่างไร
ปี 2013 ราคาสูงสุด 79.50 และทำ All Time High
ปี 2014 ราคาสูงสุด 59.00 ต่ำสุด 41.00
ปี 2015 ราคาสูงสุด 55.75 ต่ำสุด 29.00
ปี 2016 ราคาสูงสุด 32.75 ต่ำสุด 16.40
ปี 2017 ราคาสูงสุด 25.00 ต่ำสุด 12.40
ปี 2018 ราคาสูงสุด 14.20 ต่ำสุด 4.72
ปี 2019* ราคาสูงสุด 8.15 ต่ำสุด 4.66 และทำ All Time Low
*ณ วันที่ 12/04/19
ราคาหุ้น BEC ลดลง 94% นับจาก All Time High ปี 2013
MarketCap. จาก 1.59 แสนลบ. เหลือแค่หลัก 1 หมื่นลบ.
หรือใน 6 ปี ราคาหุ้นร่วง 94% , MarketCap. ลด 1.45 แสนลบ.!
แต่ท่ามกลางสถานการณ์ราคาหุ้นที่มีแนวโน้มลดลง รายย่อยบาดเจ็บ แต่ในฝั่งของ “นักลงทุนรายใหญ่ชื่อดัง” อย่าง “ทวีฉัตร จุฬางกูร” ได้เข้ามาซื้อหุ้น BEC จนเขามี “รายชื่อ” ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในสัดส่วน 11.51% จากปีก่อนที่ถือแค่ 5% (อันดับ6) แต่ว่ายังน้อยกว่าหุ้นที่ถือครองโดยบุคคลใน “ตระกูลมาลีนนท์” ที่ยังครองสัดส่วนหุ้นใหญ่ในบริษัทกว่า 34%
ที่มา : https://www.efinancethai.com/stockfocus/holder.aspx?com_id=592&dateselect=29/03/19
ไทม์ไลน์ ของ BEC ปี 2019 ต่อจากนี้ จะเป็นอย่างไร ทั้งโครงสร้างภายใน, ราคาหุ้น และผลประกอบการ...นับว่าเป็นปีที่น่าสนใจและน่าจับตา โดยเฉพาะการเข้ามาบริหารงานของ “อริยะ” และประเด็นที่รัฐเปิดทางให้ผู้ประกอบการคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลได้.