สึนามิตลาดหุ้นสหรัฐฯ!!!
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำสถิติเป็นประวัติการณ์ ในการปรับตัวลดลงภายในหนึ่งวันมากที่สุดที่ระดับ 1,175.21 จุด หรือลดลง4.60% สำหรับการปรับตัวลดลงสูงสุดในวันเดียวก่อนหน้า คือวันที่ 29 กันยายน 2551 ที่ร่วงไป 777.68 จุดในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ แต่หากคิดเป็นร้อยละ ของการลดลงที่มากสุดภายในวันเดียวเกิดขึ้นเมื่อ Black Monday หรือเมื่อ วันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2530 ที่ลดลง 22.61%
ทั้งที่ในความเป็นจริงการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เหตุผลที่กล่าวอ้างกันว่า ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ปรับตัวสูงขึ้น อัตราการว่างงานที่ลดลงอย่างมาก ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น จะส่งผลให้ Fed อาจจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด นั่นแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯนั้นเติบโต และแน่นอนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนก็จะต้องเติบโตไปด้วยเช่นกัน ซึ่งควรจะเป็นข่าวดีไม่ใช่ข่าวร้ายใช่หรือไม่ จะบอกว่าหุ้นตกเพราะข่าวดีก็คงจะไม่ผิดนัก
แน่นอนคลื่นสึนามิที่ออกมาจากฟากฝั่งสหรัฐฯ ย่อมส่งผลมาถึงตลาดหุ้นบ้านเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วยเช่นกัน ภาพของการแย่งกันขายหุ้นของนักลงทุนที่ชุลมุนวุ่นวายฝุ่นตลบ เป็นสิ่งที่แสดงถึงอารมณ์ของตลาดในขณะนี้ได้ดีที่สุด แล้วเราจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตลาดในขณะนี้ หากยังมองอะไรไม่ชัดเจนน้ำยังขุ่น ฝุ่นยังตลบ ดึงตัวออกมารอดูจนน้ำหายขุ่น ฝุ่นจางลง แรงขายสะเด็ดน้ำ แล้วค่อยกลับเข้าลงทุนก็ไม่เสียหายอะไร ดีกว่าลุยไปข้างหน้าโดยมองไม่เห็นอะไร
แต่ถ้าหากจะคิดลงทุนก็ลองคัดเลือกหุ้นปลอดภัย ประเภทที่ให้ปันผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ พื้นฐานใช้ได้ก็ยังพอมีให้เลือกลงทุนกันได้ หากจะเล่นเก็งกำไร แนะนำว่าอยู่เฉยๆน่าจะดีกว่า เพราะบรรยากาศการลงทุนในรูปแบบการเก็งกำไรมันไม่เอื้อ ความผันผวน ที่พร้อมพลิกผันอย่างรวดเร็ว อาจจะทำให้การจับจังหวะเข้าลงทุน ผิดทิศผิดทาง โอกาสเสียมากกว่าได้กำไร
หากเป็นนักลงทุนที่เตรียมพร้อมมาอย่างดี และมองเห็นวิกฤตเป็นโอกาส ในช่วงเวลานี้ที่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบตลาดหุ้น แต่ก็ยังพอจะมีการลงทุนที่น่าสนใจอยู่ แต่ก็ไม่ใช่เห็นว่าใครลงทุนอะไรที่ว่าดี มีกำไร ก็ไม่คิดหน้าคิดหลังโดดร่วมวงเมามันไปกับเขา จำต้องพึงไตร่ตรองให้รอบคอบ หลักของการลงทุนแบบง่าย ๆ หากเป็นนักลงทุนที่แท้จริง เมื่อเลือกเฟ้นเห็นหุ้นที่มีพื้นฐานดีแข็งแกร่งเมื่อราคาลดต่ำลง มีผลตอบแทนคืนกลับในแง่ปันผลที่คุ้มค่า ก็สามารถที่จะเลือกลงทุนในหุ้นนั้น ๆ ได้แบบไม่ต้องวิตกกังวลต่อภาวะหรือสภาพหุ้นที่จะเป็นไปตามตลาดขณะนั้น ขอเพียงแต่ให้หุ้นที่เลือกมาเพื่อการลงทุนนั้นเป็นหุ้นที่ดีพร้อม มั่นคงทั้งในแง่ของผลประกอบการและผลตอบแทนคืนกลับก็พอ
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยก็คงจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุลได้ ในไม่ช้านี้ เพียงแต่นักลงทุนจะสามารถประคับประคองยืนหยัดมั่นคงไม่อ่อนไหวไปตามกระแสของข่าวสารปัจจัยแวดล้อม รู้จักอดทนรอคอยได้หรือไม่ หากนักลงทุนพร้อมที่จะอดทนได้ก็เชื่อว่า สุดท้ายแล้วก็จะประสบความสำเร็จดังหวังได้ในที่สุด ในยามที่ตลาดหุ้น มีความผันผวนสูงเช่นนี้ การเลือกการลงทุนที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่นักลงทุนจะต้องพึงกระทำอย่างยิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ครับ
สรุปการลงทุนในช่วงนี้ ถึงตลาดหุ้นจะยังคงมีความผันผวนไม่แน่นอนอยู่ หากแต่พิจารณาถึงการลงทุนรูปแบบอื่น ที่จะสามารถให้ผลตอบแทนคืนกลับที่ดีได้นั้น มองยังไงก็มีแต่ตลาดหุ้นนี่แหล่ะที่ยังดูดี เพียงแต่เราต้องปรับตัวให้เข้าต่อสถานการณ์ของตลาดในช่วงนี้ รูปแบบการเล่นเก็งกำไรคงไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนที่ดีควรจะเล่นในช่วงตลาดเป็นเช่นนี้ การลงทุนในตลาดหุ้นยังมีอีกหลายทางเลือกแล้วแต่ว่าเราจะเลือกและปรับให้เหมาะสมกับการลงทุนของเราได้หรือไม่