เปิดโผ 12 หุ้นเด่นรับอานิสงส์รัฐกระตุ้นศก.กลางปี

เปิดมุมมองโบรกฯ ต่อหุ้นที่คาดจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีของภาครัฐ ที่เตรียมอัดฉีดเงินกว่า 1.32 หมื่นล้านบาท ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการพยุงเศรษฐกิจผ่านการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นักวิเคราะห์มองหุ้นกลุ่มอสังหาฯ-ค้าปลีก-ท่องเที่ยว-โรงแรมได้ประโยชน์มากสุด ชู 12 หุ้นเด่น CPALL,BJC,ROBINS,HMPRO,SPALI,QH,PSH,AOT,ERW,CENTEL,MINT และ KTC
จากกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 62 โดยมาตรการที่ใช้เป็นการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 13,210 ล้านบาท และจะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยในปี 62 ขยายตัวได้ 3.9% ซึ่งมาตรการดังกล่าว ช่วยผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรคนจนรอบใหม่ เช่น แจกเงินคนพิการเพิ่ม 200 บาท , ช่วยค่าปุ๋ยเกษตรกร 1,000 บาท ,ช่วยค่าอุปกรณ์การศึกษา 500 บาท พร้อมพิ่มวงเงินในบัตรเป็น 500 บาท ส่วนแพ็คเกจลดหย่อนภาษีกระตุ้นใช้จ่าย เช่น ลดหย่อนภาษีกลุ่มท่องเที่ยว , ซื้อบ้านไม่เกิน 5 ล้านบาท , สินค้าโอท็อป หนังสือ อุปกรณ์การศึกษาและกีฬา รวมถึงการหนุนใช้ภาษีอิเล็กทรอนิกส์
*** บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ชู BJC,ROBINS,SPALI,ERW,KTC
แนะสะสม 5 หุ้นเด่น ที่คาดจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯในรอบนี้ โดย 5 หุ้นเด่นดังกล่าว ได้แก่ BJC อานิสงส์บวกโดยตรงจากการจับจ่ายใช้สอยสินค้าอุปโภคบริโภค ROBINS เน้นกระจายสาขาตามต่างจังหวัดเป็นหลัก / Valuation ไม่แพง SPALI แผนการเติบโตยังโดดเด่น และเข้าข่ายมีที่อยู่อาศัยที่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ERW สาขาโรงแรมกระจายตัวอยู่ทั้งในเมืองหลักและเมืองรอง และ KTC รับผลบวกจากการจับจ่ายใช้สอย เพื่อรับผลประโยชน์ทางภาษี
*** บล.กรุงศรี แนะ SPALI,QH,AOT,MINT,CENTEL,ERW,CPALL,HMPRO
มองภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อชดเชยการชะลอตัวของภาคการส่งออกเน้น 3 กลุ่มหลัก คือ อสังหาฯ, ค้าปลีก และ ท่องเที่ยว มองว่ามาตรการส่วนใหญ่เป็นมาตรการช่วงสั้นจึงส่งผลบวกต่อ GDP ไม่มากและคาดว่าตลาดจะตอบรับปัจจัยนี้ในกรอบจำกัดเช่นกัน แนะกลุ่มอสังหาฯ (SPALI, QH) กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) กลุ่มค้าปลีก (CPALL, HMPRO) อานิสงส์ครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
*** บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี ซื้อเก็งกำไร ERW,CENTEL,LPN,PSH,SPALI
แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ERW,CENTEL,LPN,PSH,SPALI ซึ่งเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประกาศออกมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยมี 2 มาตรการที่สำคัญ คือ 1) มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเป็นบวกกับ ERW, CENTEL และ 2) มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ เป็นบวกกับ LPN, PSH, SPALI เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่มีบ้านมูลค่าไม่เกิน 5 ล้านบาทอยู่ในพอร์ทมากกว่ารายอื่น
*** บล.เอเซียพลัส ชอบ ROBINS,ERW
ภาคการท่องเที่ยวรับมาตรการลดหย่อนภาษีทั้งเมืองหลัก เมืองรอง ชื่นชอบ ERW(FV@B9), CENTEL(FV@B52) , กระตุ้นการบริโภคทั้งเพิ่มเบี้ยให้ผู้พิการ ช่วยเหลือเกษตรกร ช่วยเหลือผู้ปกครองค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การศึกษา เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการในการซื้อสินค้าร้านธงฟ้า นำค่าใช้จ่ายในซื้อสินค้าเพื่อการศึกษาและกีฬา มาลดหย่อนภาษี นำค่าใช้จ่ายซื้อหนังสือ มาลดหย่อนภาษีเชื่อว่ามาตรการข้างต้นจะช่วยลดค่าครองชีพ และเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนดีต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ROBINS(FV@B70), BJC(FV@B61) และมาตรการช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้ประโยชน์จะเกิดขึ้นเฉพาะผู้ซื้อบ้านหลังแรก และส่วนที่ประหยัดภาษีขึ้นอยู่กับฐานภาษีของแต่ละราย แต่ฝั่งผู้ประกอบการได้อานิสงค์จากการระบายสต๊อกสินค้าคงเหลือ โดยเฉพาะในส่วนของคอนโดฯ ที่สร้างเสร็จพร้อมขายกว่า 8 หมื่นล้านบาท (รวบรวมจากผู้ประกอบการ 16 รายที่ฝ่ายวิจัยศึกษา) ชื่นชอบหุ้นที่มี Backlog ระดับสูง รวมถึงมีสต๊อกบ้านสร้างเสร็จพร้อมขาย, ราคายังมี upside และ Div Yield สูงกว่า 6% ได้แก่ ORI ([email protected]), PSH ([email protected]) และ LH ([email protected])
*** บล.ยูโอบี เคย์เฮียน เก็งหุ้น Valuation ไม่แพง เลือก AP,SPALI,PSH
ระบุ ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สู้การชะลอตัว ครม.อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวม 54 มาตรการย่อย 13,210 ล้านบาท และมาตรการทางภาษี (นำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษี) อีก 6 มาตรการย่อย ได้แก่ 1) มาตรการเพื่อการซื้อสินค้าโอท็อป 2) สินค้าเพื่อการศึกษา-กีฬา 3) ซื้อหนังสือและ e-book 4) มาตรการท่องเที่ยวเมืองหลัก 5) มาตรการท่องเที่ยวเมืองรอง 6) มาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์ ผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะส่งผลบวกต่อภาพรวมกำลังซื้อ แต่อาจไม่ส่งผลดีชัดเจนต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหากเก็งหุ้น Valuation ไม่แพง เลือก AP,SPALI,PSH
*** บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะ CPALL,BJC,ROBINS,ERW,CENTEL,SPALI,LPN,PSH
ให้ความเห็น ครม.ออกแพคเกจกระตุ้นศก. งบ 1.32 หมื่นลบ.ผ่านการกระตุ้นการจับจ่าย (เป็นบวกต่อ CPALL, BJC, ROBINS) ลดหย่อนภาษีไม่เกิน 1.5 หมื่นบ.ในเมืองหลักและไม่เกิน 2 หมื่นบ.ในเมืองรอง (เป็นบวกต่อ ERW, CENTEL) ค่าซื้อบ้าน/คอนโดหลังแรก มูลค่าไม่เกิน 5 ลบ. ลดหย่อนไม่เกิน 2 แสนบ. (SPALI, LPN, PSH มีบ้าน/คอนโด)
*** บล.เคจีไอ มองมาตรการกระตุ้นศก.ยังเล็กเพียง 0.1% ของ GDP แนะ ERW
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ ครม. อนุมัติเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา น่าจะช่วยประคองจิตวิทยาของตลาดหุ้นไทยได้ในระดับหนึ่ง แม้ว่าขนาดของมาตรการจะค่อนข้างเล็ก เพียง 0.1% ของ GDP ของไทยก็ตาม โดยแนะหุ้น ERW (เป้าพื้นฐาน 8.5 บาท) 2) ประเมินรับอานิสงส์ มาตรการลดภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยตรง และการขยายระยะเวลาฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว (VOA) ไปสิ้นสุด 31 ต.ค. 2562
*** บล.คันทรี่ กรุ๊ป ชู CPALL,QH
แนะหาจังหวะพิจารณากลุ่มค้าปลีก (BJC,CPALL,ROBINS) กลุ่มท่องเที่ยว (ERW,CENTEL,MINT) และ / หรือ Trading ระยะสั้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีโครงการต่ำ กว่า 5 ล้านเป็นรายได้หลัก (PSH,LPN,QH,SPALI) ทั้งนี้ ชู CPALL (ซื้อ/มูลค่าเหมาะสม 84 บาท) ,QH (ซื้อ/มูลค่าเหมาะสม 3.9 บาท)
*** บล.เออีซี แนะกลุ่มอสังหาฯ SPALI,ORI
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อานิสงส์บวกหลังรัฐบาลมีมาตรภาษีเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองให้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าใช้จ่ายที่ซื้อบ้านพร้อมที่ดินหรือคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 5ลบ. ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 2 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.- 31ธ.ค. 62 เลือกหุ้นอสังหาฯที่ Consensus คาดกำไรโตและยังมี Upside ดังนี้ SPALI และ ORI
*** บล.โนมูระ พัฒนสิน มอง SPALI ได้ประโยชน์มาตรการภาษีมากสุด
มาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าไม่เกิน 5 ลบ. หากซื้อจะนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ไม่เกิน 2 แสนบาท และให้ระยะเวลาถึง 31 ธ.ค.19 มองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มอสังหา เลือก SPALI เป็นหนึ่งในผู้ได้ประโยชน์มากกว่ากลุ่ม และเลือกเป็น top pick ของกลุ่มอสังหา โดยรวม story ดีกว่ากลุ่มฯ โดยผลกระทบจากมาตรการ LTV น้อยกว่ากลุ่ม ประกอบกับมีการ Balance พอร์ตที่ดี เป็นอสังหาแนวราบ 50%: คอนโด 50% ให้ราคาเป้าหมายปีนี้ 23.5 บาท