-------------------------------------------------------
บทความตอนที่ผ่านๆ มาอ่านได้จาก: http://www.chiangmaifx.com/price-patterns.html
www.facebook.com/275391639215535/photos/pcb.1603468543074498/1603467323074620/
-------------------------------------------------------
สเกลลอกาลิทึม (อัตราส่วน) เปรียบเทียบกับสเกลเลขคณิต (Arithmetic versus Logarithmic Scaling)
ในการนำความหมายของการวัดมาพิจารณาจะให้ความสำคัญกับการเลือกว่าจะใช้สเกลเลขคณิตหรือสเกลลอการิทึมเป็นอย่างมาก เนื่องเพราะมันเป็นวิธีการกำหนดระดับราคาเป้าหมายตามที่เป็นจริง ลักษณะของกราฟที่ใช้สเกลเลขคณิตจะมีแกนตั้งที่มีระยะห่างของจุดหรือเงินเท่าๆ กัน เช่น ทุกๆ 1 นิ้วจะเท่ากับ $2 ทั้งกราฟที่มีช่วง $ 2 ถึง $ 5 และในกราฟที่มีช่วง $ 100 ถึง $ 110
ทุกหน่วยวัดทั้งหมดจะถูกพล๊อตโดยใช้ระยะแนวตั้งเท่ากัน และราคาที่พล๊อตไว้บนสเกลอัตราส่วนหรือสเกลลอการิทึมจะแสดงเป็นระยะทางการเคลื่อนไหวของราคาเป็นเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน ดังนั้น ระยะ 1 นิ้ว อาจแทนการเคลื่อนไหวของราคา 20 % ที่ใดก็ได้ในกราฟ และโชคดีซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์เกือบทุกประเภทต่างมีสเกลทั้งสองแบบนี้ให้ผู้ใช้เลือกได้
ความสำคัญของการใช้สเกลลอการิทึมมีแสดงไว้ในรูปที่ 6-11 a และ b ซึ่งใน a เส้นราคาจะลากทะลุลงมาจากกรอบแนวรับของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า การกำหนดระยะห่างของแนวตั้งระหว่าง 200 ถึง 100 ลงมาทำให้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 0 ซึ่งแทบไม่มีโอกาสเลย แต่ในรูปที่ 6-11 b เป็นการลากเส้นแบบเดียวกันแต่เปลี่ยนมาใช้สเกลลอกาลิทึม ในกรณีนี้เราจะได้ราคาเป้าหมายที่ 50 ซึ่งดูสมเหตุสมผลมากกว่า
รูปที่ 6-11 ความหมายของการวัด (a) สเกลเลขคณิต (b) สเกลอัตราส่วน
หากรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ปรากฏเป็นรูปแบบการกลับตัวที่จุดต่ำสุด กฎการวัดก็ยังคงเหมือนกับรูปแบบของระยะการแจกจ่ายหุ้น (distribution) เพียงแต่การกำหนดราคาเป้าหมายทั้งแบบเดี่ยวและแบบหลายระดับ จะมีทิศทางเป็นขาขึ้น นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้หลักการนี้กับรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบต่อเนื่องได้เช่นกัน รูปที่ 6-12 แสดงเส้นราคามีการทะลุผ่านเส้นแนวโน้มแบบ upside ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่สร้างขึ้นระหว่างแนวโน้มขาขึ้น ในกรณีนี้ราคาสูงสุดจะยังไม่ถึงราคาเป้าหมายขาขึ้นของมันในทันที แต่จะทำการไต่ราคาขึ้นไประดับหนึ่งก่อนเล็กน้อย แล้วกลับลงมาพักตัวนี่คือเหตุผลที่ ราคาเป้าหมายใช้คำว่า “ท้ายสุด” ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่จะเข้าซื้อตอนราคาทะลุกรอบแนวโน้มไปแล้วเพราะคาดการณ์ว่าพวกเขาจะสามารถทำกำไรได้มากขึ้นหรือในทันทีเมื่อราคาเคลื่อนไปสู่ราคาเป้าหมาย (แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไปหรอก)
รูปที่ 6-12 การวัดราคาเป้าหมาย upside ของรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบต่อเนื่อง
------ จบบทความแปล Price Pattern ตอนที่ 17 ,www.chiangmaiFX.com ------