กลุ่มทรู รายงานกำไรสุทธิที่เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 2.9 พันล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2562 เทียบกับกำไร 1.1 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2562 และ 99 ล้านบาทใน ไตรมาส 3 ปี 2561 หนุนโดย EBITDA และกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.03 หมื่นล้านบาทและ 3.4 พันล้านบาท ตามลำดับ
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้เป็นผลมาจากรายได้จากการให้บริการที่เติบโต โดยธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต มีฐานผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าอุตสาหกรรม ค่าใช้จ่ายด้านการขายที่ลดลง อีกทั้งยังได้รับผลประโยชน์จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา กลุ่มทรูมีฐานผู้ใช้บริการเติบโตแข็งแกร่งและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้จากการให้บริการมีจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 7.86 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 5.4 พันล้านบาท ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2562
ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่มทรูยังคงมีฐานผู้ใช้บริการที่เติบโตสูงเหนืออุตสาหกรรม โดยเฉพาะฐานผู้ใช้บริการระบบรายเดือนของทรูมูฟ เอช ที่เพิ่มขึ้นสุทธิประมาณ 215,000 ราย ในไตรมาส คิดเป็น 43% ของอุตสาหกรรม
ทรูมูฟ เอช มีรายได้จากการให้บริการจำนวน 1.93 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2562 หนุนโดยรายได้รวมจากบริการเสียงและนอนวอยซ์ที่เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน และ 1% จากไตรมาสก่อน
ทรูออนไลน์ มีการทำแคมเปญร่วมกับกล่อง TrueID TV ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากผู้ใช้บริการ ส่งผลให้การเติบโตของรายได้บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตสูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 5.2% จากไตรมาสก่อนเป็น 6.6 พันล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2562
ทรูวิชั่นส์มีรายได้จากการให้บริการที่เติบโตจากไตรมาสก่อนได้อย่างต่อเนื่องเป็น 3.1 พันล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2562
ทรูดิจิทัลกรุ๊ป มุ่งนำเสนอนวัตกรรม บริการด้านดิจิทัลและโซลูชันแบบครบวงจร เพื่อสร้างการเติบโตในยุคดิจิทัล โดยแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง TrueID สามารถคงความเป็นผู้นำและขยายฐานผู้ใช้บริการได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เติบโตกว่า 15% จากไตรมาสก่อนเป็น 22.2 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2562