ตลาดหุ้นเนื้อหอม…ใครๆก็อยากเข้ามา
ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีลักษณะการสะสมแรง สะสมพลัง เปิดกรอบการลงทุนไว้กว้าง ๆ ให้นักลงทุนได้แสวงหาทำกำไรกันได้ ส่วนใครจะมีกำไรมาก กำไรน้อย หรือขาดทุน อันนี้คงอยู่ที่ความสามารถ รวมถึงกลยุทธ์ที่ใช้ว่าจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ หากเข้าถูกจังหวะก็กำไร หากผิดจังหวะก็ขาดทุน แต่ทั้งนี้หุ้นที่เข้าพัวพันด้วย ยังคงต้องเน้นหุ้นตัวใหญ่ พื้นฐานดี มีปันผล มือใหญ่เล่น หากพลาดพลั้งผิดจังหวะ ก็ยังถือเอาปันผลก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะแนวโน้มตลาดยังเป็นขาขึ้น ติดหุ้นเหล่านี้ความเสี่ยงค่อนข้างจำกัด
วันนี้มีนักลงทุนหน้าใหม่เดินหน้าเข้าสู่ตลาดหุ้นกันอย่างคึกคัก ด้วยความคาดหวังที่จะเข้ามาไขว่คว้า หาความมั่งคั่งออกไปจากตลาดหุ้น ที่ต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่หอมหวลชวนให้หลงใหลใฝ่หา เข้ามาจริงๆครับ เนื่องจากการเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร การศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุนในตลาดหุ้นมีอยู่อย่างมากมาย หลากหลายช่องทาง และที่สำคัญตลาดหุ้นยังเป็นแหล่งทำมาหาเงินที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า น่าเสี่ยงน่าลุ้นเข้ามาในภาวะที่ การสร้างผลตอบแทนที่เป็นดอกเบี้ยจากการฝากเงินไว้กับธนาคารดูจะไม่ตอบสนองความต้องการของเหล่านักลงทุนหน้าใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถเหล่านี้นัก เช่น หากการฝากเงินกับธนาคารเพื่อหวังดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี สู้ซื้อหุ้นของธนาคารที่เราจะฝากเงินนั้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผลที่ร้อยละไม่ต่ำกว่า 4-5 ต่อปี ไม่ดีกว่าหรือ แถมยังได้ความเป็นเจ้าของกิจการ จากการเป็นผู้ถือหุ้นอีกด้วย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การเดินเข้ามาสู่ตลาดหุ้นนั้นไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ยังแฝงไว้ด้วยหนามแหลมที่พร้อมจะทิ่มตำ สร้างความเจ็บปวด เสียหายให้กับผู้ที่ประมาท โลภมาก และขาดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่นักลงทุนไม่ว่าจะหน้าใหม่ หรือหน้าเก่า ที่จะอยู่รอดได้จนประสบความสำเร็จต้องใส่ใจให้ความสำคัญอย่างมากด้วยเช่นกัน
ที่จริงแล้วหากเราคิดที่จะลงทุนในหุ้นแล้วคงไม่มีใครอยากเสียหายหรอกครับ เพียงแต่ในการเลือกซื้อหุ้นของเรายังขาดการวางแผนที่ดีและกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนเท่านั้นเอง ฟังดูเหมือนจะง่ายๆแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถประสบความสำเร็จ ดังนั้น หากต้องการจะลงทุนในหุ้นในขณะนี้นั้น ก็ต้องทำการบ้านกันหน่อย ต้องไปดูว่าหุ้นตัวไหนมีผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมามีกำไรมาก ๆ และจ่ายเงินปันผลในอัตราสูง และคาดการณ์ได้ว่าบริษัทนั้นมีความสามารถที่จะเติบโตได้อย่างสวยงามในอนาคต หากพบแล้วก็ต้องลงไปดูให้ลึกอีกว่าราคาหุ้นในขณะนี้นั้นได้ลงมาต่ำกว่าราคาพื้นฐานที่ควรจะเป็นหรือไม่ เพราะในช่วงนี้ถึงตลาดจะเป็นขาขึ้น แต่ก็ยังมีหุ้นหลายตัวที่ราคายังต่ำกว่าพื้นฐาน หรือราคาเพิ่งจะเริ่มขยับ เพียงแต่เราสามารถประเมินรู้ถึงมูลค่าราคาของหุ้นที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคตได้ ก็ไม่ยากเลยที่เราจะสามารถทำกำไรให้เติบโตเป็นเท่าตัว ยิ่งถ้าหากค้นพบหุ้นดังว่าแล้วก็สามารถทยอยเข้าซื้อสะสมจนพอใจแล้วอดทนถือรอคอยให้ผลตอบแทนนั้นคืนกลับมาตามที่เราวางแผนและตั้งเป้าหมายเอาไว้ได้ครับ
ดังนั้น เราจึงควรจะมีการวางแผนและกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนสำหรับการลงทุนของตัวเองไว้ แล้วคอยประเมินผลงานการลงทุนของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้แก้ไขปรับปรุงส่วนที่ผิดพลาด ถ้าทำได้ตามแผนแล้วจะเห็นโอกาสในการทำกำไรให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ พอร์ตโตขึ้นเรื่อย 1 เด้ง 2 เด้ง ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ ตัวเราเองก็จะสุขสบายไม่เครียด ไม่ต้องเห็นพอร์ตเป็นตัวแดงอยู่ร่ำไป
วันนี้เราสามารถเลือกหุ้นได้ถูกตัวถูกจังหวะ มีวินัย รู้จักบริหารความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนได้อย่างเต็มที่แล้วหรือยัง หรือลองถามตัวเองดูสิครับ เวลาซื้อหุ้นมาแล้วมีกำไรแค่ช่องสองช่องก็รีบขาย เพราะกลัวว่ามันจะลง แต่พอขายแล้วมันดันขึ้นต่อก็มานั่งเสียดายว่าทำไมรีบขายหมู หนำซ้ำพอมันขึ้น ๆ ก็ยังตามไปซื้อกลับด้วยความเสียดายในราคาที่สูงเกินไปแล้ว ตอบได้หรือเปล่าครับว่าในตอนนั้น ทำไมต้องรีบขาย ก็คงต้องย้อนกลับไปมองดูว่าเบื้องต้นแล้ว ในการเลือกหุ้นของเราว่าได้ผ่านการพิจารณาวิเคราะห์มาแล้วว่าหุ้นแบบไหนที่น่าซื้อ แล้วจะซื้อที่ราคาเท่าไร แต่พอเห็นราคาหุ้นที่วิ่งขึ้น ก็ขาดวินัย ขาดสมาธิหลุดออกจากหลักคิดที่ถูกต้องไป