World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

—สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกเปิดปรับตัวผสมผสานในวันนี้ (14 ส.ค.) ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอติดตามข้อมูลการจ้างงานจากออสเตรเลียที่จะเปิดเผยในวันนี้

-- สำนักข่าว Ukrinform รายงานเมื่อวันพุธว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีแห่งยูเครนระบุว่า บรรดาผู้นำจากยุโรปและสหรัฐฯ เห็นพ้องในหลักการ 5 ข้อสำหรับการเจรจากับรัสเซีย

ในการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ซของเยอรมนีที่กรุงเบอร์ลิน เซเลนสกีย้ำว่า ยูเครนต้องมีส่วนร่วมโดยตรงในกระบวนการยุติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน

เขากล่าวว่า ทุกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับยูเครนควรหารือกับยูเครนโดยเฉพาะ พร้อมเรียกร้องให้มีการเตรียมการสำหรับการเจรจาไตรภาคีระหว่างยูเครน รัสเซีย และสหรัฐฯ

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เตือนว่า รัสเซียจะเผชิญกับผลลัพธ์ที่รุนแรงอย่างมาก หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงภายในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาหวังจะใช้การประชุมสุดยอดกับปธน.ปูตินในวันศุกร์นี้เพื่อวางแผนการประชุมรอบที่สองอย่างรวดเร็วกับ ผู้นำรัสเซีย ซึ่งจะรวมทั้งประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน

-- ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวว่า เขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในวันพุธ ก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในวันศุกร์นี้

ปธน.เซเลนสกีกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ได้ยืนยันให้การรับประกันความมั่นคงของยูเครนในช่วงหลังสงครามกับรัสเซีย

ผู้นำยูเครนกล่าวว่า คำมั่นสัญญาของปธน.ทรัมป์ทำให้เขามีความหวังว่าการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.ปูตินจะนำไปสู่ความคืบหน้าในการยุติสงครามกับรัสเซียที่ดำเนินมานานกว่าสามปีครึ่ง

อย่างไรก็ดี ปธน.เซเลนสกีปฏิเสธที่จะตอบโดยตรงว่า เขาจะยอมรับการสูญเสียดินแดนเพื่อแลกกับสันติภาพหรือไม่

-- สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) เปิดเผยว่า อุปทานน้ำมันโลกจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่คาดทั้งในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส เพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่การผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัสมีการขยายตัวเช่นกัน

ทั้งนี้ IEA ระบุในรายงานเดือนส.ค.ว่า อุปทานน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2568 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.1 ล้านบาร์เรล/วัน และจะเพิ่มขึ้นอีก 1.9 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2569

-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 900,000 บาร์เรล

-- สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 1.50%

"ผมคิดว่าเราสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้หลายครั้ง โดยเริ่มจากการลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนกันยายน และไม่ว่าจะดูจากโมเดลไหน ล้วนบ่งชี้ว่าเราน่าจะลดอัตราดอกเบี้ยราว 1.501.75%" เบสเซนต์กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ Bloomberg Surveillance

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.

-- ข้อมูลเศรษฐกิจและเหตุการณ์สำคัญในวันนี้ (14 ส.ค.) ได้แก่ จีนเปิดเผยยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนเดือนก.ค., เกาหลีใต้เปิดเผยราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนก.ค. และอัตราว่างงานเดือนก.ค.,

ออสเตรเลียเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ค., อังกฤษเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2568 (ประมาณการเบื้องต้น), ฝรั่งเศสเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค., อียูเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย. และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2568 (ประมาณการครั้งที่ 2) และสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.