ห้องเม่าปีกเหล็ก

รีบาวด์ระยะสั้น ระยะยาวยังดิ่งนรก!

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
50 views
รีบาวด์ระยะสั้น ระยะยาวยังดิ่งนรก! :
เพราะฟองสบู่โลกแตกแล้ว ทําให้ดอกเบี้ย Fed Fund Rate เป็น ขาลงรอบใหญ่ และน่าจะมีผลทําให้ Set Index จะไป 800 จุด และ Down Jones จะไป 12,660 จุด เพราะฉะนั้น จะต้อง Short Set 50 Index Futures หรือ Options จึงจะได้เงิน! :
 
ความสัมพันธ์ระหว่างแนวโน้มของ Fed Fund Rate และแนวโน้มของตลาดหุ้นไทย ในการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในอดีตเป็นดังนี้ คือ :
 
1) วันที่ 22 มิถุนายน ปี ค.ศ 1999 : Set Index = 545 จุด และ Fed Fund Rate = 6.5%
2) วันที่ 14 พฤจิกายน ปี ค.ศ 2001 : Set Index = 267 จุด และ Fed Fund Rate = 1.00% ( ฟองสบู่ดอทคอม )
3) วันที่ 29 ตุลาคม ปี ค.ศ 2007 : Set Index = 915 จุด และ Fed Fund Rate = 5.25%
4) วันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ 2008 : Set Index = 380 จุด และ Fed Fund Rate = 0.25% ( วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ )
5) วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2018 :  Set Index ปรับตัวขึ้นไปทําจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 1,852 จุด ในขณะเดียวกันกับดอกเบี้ยเฟดทําจุดสูงสุดในขาขึ้นรอบใหญ่ในรอบล่าสุดนี้ที่ 2.50% ระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 และลดลงมาเป็น 2.25% เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 และ 2.00% เมื่อวันที่ 18 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ตามลําดับ
 
6) วันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป : Fed Fund Rate = 0.00% และ Down Jones ???
 
เปอร์เซนต์การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทยในช่วง วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ = ( 380 - 915 ) / 915 x 100 = -58.47%
เพราะฉะนั้น คาดการณ์เปอร์เซนต์การลดลงของตลาดหุ้นไทยในช่วงฟองสบู่โลกแตกในปี พ.ศ 2562 - 2564 = ( 800 - 1,852 ) / 1,852 x 100 = -56.80%
 
จากข้อมูลข้างต้น จุดตํ่าสุดของ Set Index น่าจะอยู่ที่ 800 จุด ในช่วงปลายปี พ.ศ 2564
 
ความสัมพันธ์ระหว่างแนวโน้มของ Fed Fund Rate และ แนวโน้มของ Down Jones ในการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในอดีตเป็นดังนี้ คือ :
 
1) เดือน มีนาคม ปี พ.ศ 2543 : Down Jones = 11,732 จุด และ Fed Fund Rate = 6.50%
2) เดือน ตุลาคม ปี พ.ศ 2546 : Down Jones = 7,717 จุด และ Fed Fund Rate = 1.00% ( ฟองสบู่ดอทคอม )
3) เดือน มิถุนายน ปี พ.ศ 2549 : Down Jones = 14,167 จุด และ Fed Fund Rate = 5.25%
4) วันที่ 9 มีนาคม ปี ค.ศ 2552 : Down Jones = 6,547 จุด และ Fed Fund Rate = 0.25% ( วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ )
5) วันที่ 11 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 : Down Jones ทําจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 27,398 จุด ในขณะเดียวกันกับดอกเบี้ยเฟดทําจุดสูงสุดในขาขึ้นรอบใหญ่ในรอบล่าสุดนี้ที่ 2.50% ระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม ปี พ.ศ 2561 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 และลดลงมาเป็น 2.25% เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 และ 2.00% เมื่อวันที่ 18 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ตามลําดับ
 
6) วันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป : Fed Fund Rate = 0.00% และ Down Jones ???
 
เปอร์เซนต์การปรับตัวลดลงของดาวโจนส์ในช่วง วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ = ( 6,547 - 14,167 ) / 14,167 x 100 = -53.79% 
เพราะฉะนั้น คาดการณ์ดาวโจนส์ในช่วงฟองสบู่โลกแตกในปี พ.ศ 2562 - 2564 ก็น่าจะอยู่ที่ 27,398 x ( 1 - 0.5379 )  = 12,660 จุด ในช่วง ปลายปี พ.ศ 2564
 

การ Short Set 50 Index Futures หรือ Options น่าจะได้ผลตอบแทนดังนี้ คือ :

1) สมมุติจุดที่ Short Set 50 Derivatives คือที่ 1,679 จุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของ Set Index ในรอบล่าสุด

2) จุดที่ปิดสถานะ Short Set 50 Index Futures หรือ Options ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 800 จุด ในช่วงปลายปี พ.ศ 2564 

3) กําไรคํานวนได้ดังนี้คือ : ( 1,679 - 800 - 0.93 ) x 200 / 8,550 x 100 = +2,053.96%

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก ( Yahoo Finance ) และ ( www.settrade.com )
                 2) การคํานวนดังกล่าวข้างต้นเป็นการคํานวนคร่าวๆเท่านั้น เพราะเวลาคํานวนจริงจะต้องใช้ Set 50 Futures หรือ Options มาคํานวน
                 3) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook

 


ศักดิ์