ห้องเม่าปีกเหล็ก

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 65

โดย โน๊ต
เผยแพร่ :
103 views

สรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 65

SET ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีแค่ 0.11%

DELTA ขึ้นเบอร์ 2 บจ.มูลค่ามากสุดในตลาดหุ้นไทย

.

ปิดตลาดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการซื้อขายตลาดหุ้นไทยปี 2565 โดยปีนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ยากลำบากสำหรับเหล่านักลงทุนไม่ว่าจะเป็นทั้งหน้าใหม่หน้าเก่า นักลงทุนสาย VI หรือว่านักลงทุนสายเก็งกำไร เพราะตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนมาโดยตลอดทั้งปี อย่างเช่นเรื่องของสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซีย และยูเครน รวมไปถึงการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งปัจจัยต่างๆในประเทศ

.

SET ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นปีแค่ 0.11%

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดของปีที่ระดับ 1,713 จุด ในวันที่ 18 ก.พ. และทำจุดต่ำสุดของปีที่ 1,533 จุด ในวันที่ 15 ก.ค. ขณะที่ในวันสุดท้ายของปี (30 ธ.ค.) SET ปิดตลาดที่ระดับ 1,668 จุด เพิ่มขึ้น 7.46 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.45 % ดังนั้นส่งผลให้ตั้งแต่เปิดทำการซื้อขายตั้งต้นปีจนถึงวันสุดท้ายของปี SET ให้ผลตอบแทนแค่เพียง 0.11%

.

ต่างชาติลุยซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 2.02 แสนล้านบาท

สำหรับประเภทการซื้อขายของนักลงทุนแต่ละประเภทในงวดปี 2565 พบว่า นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยไปกว่า 202,694 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศมีสถานะเป็นขายสุทธิ 150,276 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยก็มีสถานะเป็นขายสุทธิตลาดหุ้นไทยกว่า 39,243 ล้านบาท และนักลงทุนประเภทบัญชีหลักทรัพย์มีสถานะเป็นขายสุทธิ 3,420 ล้านบาท

.

DELTA ขึ้นแท่นเบอร์ 2 บจ.มูลค่ามากสุด

ขณะที่บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA วันนี้แผลงฤทธิ์ต่อเนื่องราคาหุ้นทำจุดสูงสุดเป็นครั้งแรกที่ระดับ 876 บาทต่อหุ้น แต่อย่างไรก็ตามปิดตลาดที่ระดับราคา 830 บาทต่อหุ้น และที่สำคัญราคาหุ้นที่ 830 บาทนั้น ทำให้ DELTA มีมูลค่าบริษัทมากสุดเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดหุ้นไทย รองจากอันดับที่หนึ่งคือ AOT และแซงหน้า PTT ที่เป็นอันดับที่ 3

.

สรุปเหตุการสำคัญของตลาดหุ้นในปี 65

1.สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนทวีความรุนแรงมากขึ้น

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ประกาศกร้าวส่งกองทัพบุกเข้าสู่ ดอนบาส ดินแดนของยูเครน ส่งผลต่อวงการตลาดหุ้นทั่วโลกพากันร่วงยกแผงทันที จากการที่นักลงทุนเทขาย ส่วนราคาน้ำมันก็ได้พุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่ง ผลตอบแทนปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนต่างก็วิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย

.

2.สหรัฐอเมริกาเกิดภาวะ Technical Recession

เศรษฐกิจสหรัฐได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกลดลง 1.6% และในไตรมาสที่สองลดลง 0.9%

.

3.FED เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันมากถึง 4 ครั้ง

ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันมากถึง 4 ครั้ง เพื่อเป็นการต่อสู้กับสภาวะเงินเฟ้อที่สหรัฐกำลังจะเข้าสู่ “ภาวะถดถอยทางเทคนิค”

.

4.เจ็บทุกโบรก “หุ้น MORE” ป่วนวงการหุ้น

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2565 เมื่อหุ้น MORE มีการซื้อ-ขายที่ผิดปกติ โดยมีมูลค่าสูงถึง 7,181 ล้านบาท สูงที่สุดในตลาด ทั้งที่ไม่ใช่หุ้นใน SET100 โดย “อภิมุข บำรุงวงศ์” ผู้ที่ส่งคำสั่งซื้อ ไม่มีการจ่ายเงินค่าซื้อหุ้น ทำให้หลายโบรกเกอร์ได้รับความเสียหายอย่างมาก

.

5.รัฐเก็บภาษีขายหุ้น รายย่อยประท้วงหยุดเทรด Vol.หาย

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2565 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักการเก็บภาษีขายหุ้น โดยจะเริ่มเก็บจริงวันที่ 1 เม.ย.2566 ส่งผลให้มีการรวมตัวของนักลงทุนรายย่อย ที่จะรวมพลังหยุดเทรด 1 วัน เพื่อแสดงพลังคัดค้านการเก็บภาษีขายหุ้นที่ไม่เป็นธรรม

.

บุคคลรวยที่สุดในตลาดหุ้นไทยแห่งปี 65

รายชื่อนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี เจ้าของธุรกิจโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดของไทยอย่าง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ประกอบกับเป็นเข้าของธุรกิจโทรคมนาคมเบอร์หนึ่งของไทย คือ AIS โดยจากการสำรวจพบว่า “สารัชถ์” มีมูลค่าการถือครองหุ้นรวมกว่า 230,452 ล้านบาท

 

 


โน๊ต