มูลค่าตลาดของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีวูบไปกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ไม่ใช่เพียงตลาดหุ้นไทยเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากการที่เงินออกจากตลาดทุนในปริมาณมากในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยักษ์ใหญ่ของสหรัฐก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี จากการสำรวจบพบว่า มูลค่าเงินที่หายไปจากกลุ่มนี้มีมูลค่ามากถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านล้านบาท !!!
CNN Business ได้รายงานว่า ในช่วงที่ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นโดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีได้รับผลกระทบโดยเงินไหลออกจากหุ้นกลุ่มนี้ รวมแล้วมากถึง $1.1 ล้านล้าน จากช่วงเวลาที่มีราคาสูงที่สุด โดยหุ้นกลุ่มนี้ประกอบนำโดย Apple, Amazon, Microsoft, Google owner Alphabet, Facebook และ Netflix
.
โดยหุ้นกลุ่มนี้เคยขึ้นไปสูงมากในช่วงต้นปี ก่อนที่จะราคาจะเริ่มทยอยร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ราคาได้ปรับลดลงมามากกว่า 10% จากช่วงเวลาที่ Peak หรือบางตัวได้ปรับลดลงถึง 20% หรือมากกว่า
.
นักลงทุนได้ประเมินราคาหุ้นในกลุ่มนี้ใหม่ ซึ่งแต่ก่อนเคยเป็นกลุ่มหุ้นที่มี Impact อย่างมากในตลาด Wall Street เพื่อให้สะท้อนกับมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นมากขึ้น โดยนักลงทุนได้มีความกังวลเกี่ยวกับความต้องการของ Gadget ที่มีราคาสูงอย่างของ Apple ได้มีปริมาณลดน้อยลง โดย Supplier ของบริษัทได้เปิดเผยว่า ยอดขายของ Apple ได้ปรับลดลงจากปีก่อน อีกทั้ง Bloomberg ยังได้รายงานว่า สินค้าจากประเทศจีนในกลุ่ม China’s Foxconn Technology ได้แบ่งสัดส่วนยอดขายออกไปจาก Apple ซึ่งมีผลให้ยอดขายของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
.
ขณะที่ Facebook (FB) และ Google (GOOGL) ก็ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นของรัฐบาล ในการโฆษณาซึ่งถือเป็นรายได้หลักของบริษัท
แล้วนักลงทุนเอายังไงกันต่อ?
David Smith ในฐานะประธานอาวุโสการลงทุนตลาดทุนในประเทศของ Bailard ได้กล่าวว่า “มีหุ้นเติบโตที่น่าสนใจจำนวนมากที่มีส่วนลดในช่วงเวลานี้ และสิ่งเหล่านี้เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราต้องการเป็นเจ้าของ”
.
Smith ยังได้กล่าวอีกว่า นอกจากหุ้นในกลุ่ม Technology แล้ว หุ้นในกลุ่ม Semiconductor ยังเป็นหุ้นในกลุ่มที่มีมูลค่าน่าสนใจอีกด้วย
.
ตามข้อมูลของ Morning Star กองทุนได้เข้าไปถือ Texas Instrument (TXN). Nvidia (NVDA) และ Broadcom (AVGO) ท่ามกลางหุ้นอื่นๆ อีกใน Top Lists อีกจำนวน 25 บริษัท เมื่อตอนสิ้นเดือนที่ผ่านมา
.
Phillips ได้กล่าวว่า “มันอาจจะเร็วไปสำหรับความชัดเจนในภาวะตลาดตอนนี้ ซึ่งมีความผันผวนอย่างมาก แต่เขาได้เสริมว่า เขาได้ซื้อหุ้น Amazon เพราะเข้าคิดว่า หุ้นตัวนี้ถูกขายมากเกินไป (Panic Sell) โดยไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าที่แท้จริง ตลอดช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา
.
นอกจากนั้น ยังมีเหตุผลอีกเหตุผลหนึ่งที่หุ้นในกลุ่ม Tech มีโอกาสกลับตัวได้ เช่น การควบรวมกิจการแบบ Horizon โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าการเติบโตของกำไรและภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลง
.
Daniel Ives นักวิเคราะห์ของ Wedbush Securities กล่าวว่า จากรายงานล่าสุดพบว่า การขายออกของหุ้นกลุ่ม Software ดังกล่าว นำไปสู่การซื้อขายที่มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตลาดที่สร้างผลกำไรอย่างงดงาม ยกตัวอย่างเช่น IBM (IBM) ซึงมีมูลค่าลดลงเหลือเพียง $34 ต่อหุ้น
.
นอกจากนั้น Ives ยังกล่าวอีกว่า ตลาด Cloud ได้กลับมาแข่งขันกันร้อนแรงอีกครั้ง หลังจาก Alphabet ซึ่งเพิ่งได้ว่าจ้าง Oracle’s (ORCL) เพื่อให้ดูแลระบบ Cloud ของ Google ได้ประกาศสงครามกับเจ้าตลาดอย่าง Microsoft และ Amazon ซึ่งได้มีระบบ Cloud มาก่อนหน้านี้แล้ว.... คงต้องดูต่อไปว่า ตลาดนี้ใครจะสามารถอยู่รอดได้ต่อไป
อ้างอิง: https://edition.cnn.com/