ห้องเม่าปีกเหล็ก

4 หุ้นตัวตึงธีม Undervalued

โดย ลำหับ
เผยแพร่ :
225 views

4 หุ้นตัวตึงธีม Undervalued

P/E ต่ำ การเงินแกร่ง กำไรยังเติบโต

.

 

ช่วงที่สงครามการค้ายังคงไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ ตลาดหุ้นก็ยังคงแกว่งตัวไปมาเสมือนรอดูสถานการณ์ ซึ่งเกิดจากความกังวลของนักลงทุนที่มาจากความไม่แน่นอนจากปัจจัยรอบด้าน ทำให้การเลือกลงทุนเป็นไปอย่างเข้มข้นมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด ซึ่งเชื่อว่าคงมีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่มองหาหุ้นที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและยังให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ดังนั้น Wealthy Thai จึงได้หยิบยกเอากลยุทธ์การลงทุนสำหรับสายเน้นถือระยะยาวมาฝาก

.

โดยบทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุ ความไม่แน่นอนของนโบบายการค้าของสหรัฐฯ ยังทําให้ SET ปรับขึ้นได้จํากัด กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนําให้ “Selective Buy” ทั้งนี้ หนึ่งในธีมที่น่าสนใจคือหุ้น Undervalued ซึ่งซื้อขาย PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD ขณะที่ปี 2568 คาดกําไรยังเติบโตได้ดีจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง แนะนํา GULF, MTC, CBG, SPRC

.

เริ่มด้วยคำแนะนำ “OUTPERFORM” บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 70.00 บาท มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจาก Bond Yield ที่ปรับลงและคาดเป็นหุ้นเป้าหมายของกองทุน ThaiESGX หลังมี SETESG Rating “AAA” ขณะที่ครึ่งปีแรก 2568 คาดกําไรยังแข็งแกร่งจากขยายกําลังผลิต ส่วนปี 2568 กําไรปกติจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.47 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

.

นอกจากนี้ Valuation ของ GULF น่าสนใจมากขึ้น โดยอัตราส่วน PE ปี 2568 ลดลงจากระดับ 32 เท่า ก่อนควบรวมกิจการมาอยู่ที่ 29 เท่า นอกจากนี้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่คาดหวังก็เพิ่มขึ้นจาก 1.9% มาอยู่ที่ 2.3% คาดการณ์ถึง Sentiment เชิงบวกจากวงจรอัตราดอกเบี้ยขาลงทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลดีต่อ GULF เนื่องจากธุรกิจของบริษัทต้องใช้เงินทุนจํานวนมาก ทําให้จำเป็นต้องจดหาเงินทุนด้วยการกู้ยืมค่อนข้างสูง (ปกติแล้วสัดส่วนหนี้สินต่อทุนจะอยู่ที่ 3:1) ดังนั้น จึงคงมุมมองเชิงบวกต่อความแข็งแกร่งของผลประกอบการในระยะ 1-2 ปีข้างหน้าของ GULF

.

เช่นเดียวกับ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ที่ได้รับคำแนะนำ “OUTPERFORM” พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 51.00 บาท มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากตลาดความคาดหวัง กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมวันพุธนี้ ขณะที่ไตรมาส 1/68 คาดกําไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และ 13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนปี 2568 คาดกําไรเติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อที่เติบโตดี credit cost ที่ลดลง อีกทั้งมองเป็นหนึ่งในเป้าหมายกองทุน ThaiESGX จากมี SETESG rating ระดับ AAA ทั้งนี้ คาดว่ากําไรสุทธิปี 2568 จะเติบโตดีที่ 16% ในปี 2568 ซึ่งเป็นผลมาจากสินเชื่อที่เติบโตดีที่ 13% NIM ที่แคบลง 23 bps และ credit cost ที่ลดลง 21 bps โดยอัตราส่วน PE ปี 2568 อยู่ที่ 13.83 เท่า

.

พร้อมทั้งแนะนำ “OUTPERFORM” บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 80.00 บาท อ้างอิง PE เป้าหมายที่ 24 เท่า (-1.25SD ของ PE เฉลี่ย 5 ปี) โดยคาดการณ์ว่ากําไรสุทธิปี 2568 จะเติบโต 14.8% มาอยู่ที่ 3.26 พันลบ. โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เติบโต 10% มาอยู่ที่ 2.3 หมื่นลบ. และอัตรากําไรขั้นต้นที่กว้างขึ้น 20bps สําหรับภาษีความหวานระยะที่ 4 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2568 แม้ว่าจะกดดันให้อัตรากําไรขั้นต้นของผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของ CBG เองปรับตัวลดลง 1% แต่ CBG จะปรับสูตรเพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับการประหยัดจากขนาดน่าจะช่วยลดผลกระทบต่ออัตรากําไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยได้ภายในช่วงปลายไตรมาส 2/68

.

อีกทั้งแนะนำ “OUTPERFORM” บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 6.60 บาท โดยอิงกับ PBV (ปี 2568) ที่ 0.7 เท่า หรือเท่ากับระดับ -2SD ของ PBV เฉลี่ย 5 ปี ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายได้รวมเอาความไม่แน่นอนของธุรกิจโรงกลั่นนํ้ามันสืบเนื่องมาจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อและอุปทานใหม่ทั่วโลกเข้ามาไว้ในประมาณการแล้ว ราคาเป้าหมายดังกล่าวคิดเป็น EV/EBITDA ได้ที่เพียง 5.1 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย 9.8 เท่าของบริษัทที่ประกอบธุรกิจเดียวกันในตลาดภูมิภาค อย่างไรก็ดี คาดว่าค่าการกลั่นที่แข็งแกร่งขึ้นและราคานํ้ามันที่มีเสถียรภาพมากขึ้นจะเป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยสนับสนุนกําไรในปี 2568 ให้เติบโต อยู่ที่ระดับ 1,737 ล้านบาท ทั้งนี้ คาด P/E, core ที่ 13.5 เท่า

 

 

ที่มา.. Facebook Wealthy Thai 


ลำหับ