ส่องอาณาจักร GULF
อาจฟันกำไรรวมกัน 5.6 หมื่นลบ.ในปี 66

.
“สารัชถ์ รัตนาวะดี” บุคคลที่นักลงทุนไทยได้ติดตามความเคลื่อนไหว และข่าวคราวอย่างใกล้ชิด ทั้งในบทบาทของการเศรษฐีหุ้นไทย และหัวเรือใหญ่ในการนำทัพธุรกิจ GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) อีกด้วย
.
โดยในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงได้ทำรวบรวมความน่าสนใจของหุ้นในเครือ GULF มาฝากนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น INTUCH, ADVANC และ THCOM ซึ่งล่าสุดนักวิเคราะห์ออกมาประเมินว่าปี 2566 GULF จะมีกำไร 17,453 ล้านบาท เติบโต 52.9% ส่วน INTUCH คาดอยู่ที่ 10,273 ล้านบาท ลดลง 1.8%
.
ขณะที่ ADVANC นักวิเคราะห์คาดกำไรที่ 27,919 ล้านบาท โต 7.3% และ THCOM นักวิเคราะห์คาด 426 ล้านบาท โต 914.2% จากปีก่อนหน้า หากเป็นไปตามที่ประเมินเท่ากับว่าทั้ง 4 บริษัทจะมีกำไรรวมกันกว่า 56,071 ล้านบาท ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีปัจจัยพื้นฐานอย่างไร บทความนี้มีความตอบแล้ว
.
เริ่มจาก GULF บทวิเคราะห์ของบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์แนวโน้มกําไรไตรมาส 1/66 จะชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า ตามปัจจัยฤดูกาลของลมโครงการ BKR2 และ GGC และมีการลดสัดส่วนใน BKR2 ลงครึ่งหนึ่ง แต่หากเป็นช่วงเดียวกันปีก่อนคาดว่าจะเติบโตสูง จากโครงการ GSRC หน่วยที่ 4 เพิ่งเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/65
.
ส่วนไตรมาส 2/66 คาดว่ากําไรปกติจะทําระดับสูงสุดใหม่ได้ จากการรับรู้ส่วนแบ่งกําไรจากโครงการ Jackson เต็มไตรมาส นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้า IPP โรงใหม่ของ GPD หน่วยที่ 1 ขนาด 660 เมกะวัตต์ (ถือ 70%) เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในวันที่ 31 มี.ค. ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้เต็มไตรมาส
.
สำหรับคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2566 คาดการณ์จะอยู่ที่ 17,453 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 52.9% เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงโดยรวมเป็นบวกมากกว่าลบต่อผลประกอบการ ราคาหุ้นอ่อนตัวลงตามกลุ่มโรงไฟฟ้าจากประเด็นกังวลการคัดเลือกโครงการพลังงานทดแทนในประเทศที่อาจล่าช้าออกไปจากการร้องศาลปกครอง แต่มอง GULF กระทบน้อยสุด จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 62.25 บาท
.
ขณะที่ INTUCH บทวิเคราะห์ของบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ได้คาดการณ์กำไรปี 2566 ที่ 10,273 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 1.8% เนื่องจากกำไรของ ADVANC ยังถูกกดดันจากการรวมงบของ TTTBB ที่คาดว่าดีลจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/66
.
แต่อย่างไรก็ดีในปี 2567 คาดกำไรจะอยู่ที่ 10,952 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 6.6% ผลบวกจาก ADVANC จะได้รับประโยชน์การรวมตลาดมือถือและตลาดบรอดแบรนด์เต็มปีเป็นปีแรก จึงแนะนำ “Trading Buy” และให้ราคาเป้าหมายที่ 80 บาท
.
ด้าน ADVANC บทวิเคราะห์ของบล.กรุงศรี ได้คาดการณ์กำไรปี 2566 ที่ 27,919 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 7.3% เพราะเริ่มเห็นสัญญาณบวกจากการแข่งขันด้านราคาที่ลดความรุนแรงลง และผลจากการเลื่อนรวม 3BB เข้ามาในงบรวมของบริษัทจากปลายไตรมาส 1/66 เป็นปลาย 2/66 ด้วย ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิในปี 2566 ดีขึ้นราว 300 ล้านบาท
.
ดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 250 บาท เนื่องจากหุ้น ADVANC เป็นธีมการฟื้นตัวของกำไร และการเป็นหุ้น laggard ในแง่ของราคาหุ้นเมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่ม
.
สุดท้าย THCOM บทวิเคราะห์ของบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดการณ์กำไรปี 2566 ที่ 426 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 914.28% เนื่องจากกิจการในลาวขาดทุนน้อยลงและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะลดลงจากที่ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับพนักงานที่สูงเหมือนปีก่อน
.
ด้านกรณีรายงานความเห็นของที่ปรึกษาการเงินอิสระให้ความเห็นว่าผู้ถือหุ้นควรอนุมัติการเข้าลงทุนดาวเทียมดวงใหม่ 3 ดวง มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะมีกำไรราว 2.5 พันล้านบาทภายในปี 2575 มองว่าประมาณการค่อนข้างอนุรักษ์นิยมเกินไปและไม่สะท้อนศักยภาพการทำรายได้ที่แท้จริงที่น่าจะเกิดขึ้น
.
อย่างไรก็ดียังคง คำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 18.90 บาท แม้ว่าเชิงกลยุทธ์หุ้นขาดปัจจัยหนุนระยะสั้น เพราะกว่าจะยิงดาวเทียมต้องรออีกสองปี แต่ระยะยาวประเมินว่ามูลค่าของ THCOM น่าสนใจและหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นไปได้อีกอย่างมีนัยสำคัญ หาก THCOM ปิดลูกค้าหลักได้สำเร็จ