อย่ายัดเยียดด้วยคำว่า “แบ่งปัน”
เมื่อคนเราอยู่ในตำแหน่งต่างกันหรือมีประสบการณ์และมุมมองต่างกัน ย่อมมีความคิดและความเชื่อต่างกัน ย่อมมีสิ่งที่มองว่าถูกต้องแตกต่างกัน เราจึงไม่อาจบอกได้ว่าความคิดไหนถูกต้อง ความคิดไหนผิด คนเรามีสิทธิ์เลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อความคิดใด ๆ ได้ แม้แต่ทุกอย่างที่เขียนในกระทู้นี้
สิ่งที่เราเชื่อว่าถูกเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องจริง ๆ แต่อย่าพยายามยัดเยียดความเชื่อนั้นให้คนอื่น จงเข้าใจว่าทุกคนมีความคิดและความเชื่อเป็นของตัวเอง
“มากเกินไปไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ดี”
ทำอะไรทำด้วยความสุข และทำให้เต็มที่ แต่ต้องรู้ว่าอะไรประมานไหน เราควบคุมคนอื่นไม่ได้แต่เราควบคุมตัวเองได้
ฝึกตนสอนตนไม่ได้ แล้วจะไปสอนคนอื่นทำไม?
อย่าคิดแต่จะยัดเยียดความคิดความเชื่อของตนให้คนอื่นแต่ไม่เคยทบทวนจัดการกับความคิดของตน
การพยายามเอากรอบความคิดของตนไปยัดเยียดให้ผู้อื่นคิดตามเรา ทำตามเรา หรือหวังผลตามที่ใจเราต้องการเป็นสิ่งที่ทำแล้ว.....ไม่เกิดประโยชน์อันใด .... รังแต่จะเป็นการสร้างความทุกข์และอกุศลให้เกิดขึ้นภายในจิต
ดังนั้น ......ปล่อยวางเสียบ้าง ทำจิตใจให้สบาย ๆ และเมื่อปรารถนาสิ่งใดให้สร้างด้วยเหตุและผล..ให้โดยไม่ต้องไปยัดเยียด
การยัดเยียดมี ๒ อย่าง คือ ยัดเยียดเนื้อหา กับ ยัดเยียดความคิด การยัดเยียดเนื้อหา คือการทำแบบซ้ำๆทำแบบเดิมๆ คือเอามาให้อ่านเข้าไปๆในเนื้อหาแบบเดิมซ้ำๆ ส่วนการยัดเยียดความคิด ก็เป็นเรื่องของการยัดเยียดหรือยัดใส่ความเชื่อส่วนตัวแบบซ้ำๆย้ำๆเข้าไปในเนื้อหาที่นำมาให้อ่าน
การยัดเยียดเนื้อหาก็ตาม การยัดเยียดความคิดก็ตาม ถ้ารู้จักให้ให้เป็น จะทำให้ผู้รับสามารถนำไปคิดต่อยอดก่อให้เกิดประโยชน์เป็นฐานข้อมูลทางความคิด แต่การให้ที่มากจนล้นของข้อมูลเดิมๆที่ซ้ำซากย่อมนำไปสู่ผลเสียคือทำให้รู้สึกว่าไม่เคารพความคิดและดูถูกภูมิปัญญาของผู้รับ
อย่าทำกันแบบนกแก้วนกขุนทองจนเลอะเทอะเปรอะไปหมด คนรับเขาคิดเป็นและรู้จักคิด เขาจะยิ่งดีใจและรู้สึกขอบคุณเมื่อพบเนื้อหาที่หลากหลายได้เป็นฐานข้อมูลของความคิดเก็บไว้ใช้
อย่าทำแบบเห็นแแก่ตัว คิดถึงแต่ผลที่คาดหวัง ทว่า ขอให้เป็นการกระทำการแบ่งปันที่คิดถึงประโยชน์ของผู้อื่นด้วย
ทำใจโล่งๆ เบาๆ ให้ความสุข ความสนุก เป็นอารมณ์หล่อเลี้ยงการแบ่งปันโดยไม่ต้องยัดเยียดให้จนเกินไปนัก...
สาธุ
ไม่ต้องกดไลน์ ไม่ต้องกดแชร์ ไม่ต้องกดติดตาม
นายสะอาด