"เสี่ยป๋อง" วิพากษ์ภาพเทคนิค SET... ชี้ยังไม่ใช่จังหวะช็อปของถูก
ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ดูแล้วไม่ค่อยสดใส หลังถูกแรงเทขายหนักอีกรอบ ซึ่งเมื่อปิดตลาดฯ พบว่ายังคงเป็นนักลงทุนสถาบันที่ขายสุทธิไปกว่า 3.2 พันล้านบาท สวนทางนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนทั่วไปที่ทยอยซื้อกันมาอย่างต่อเนื่อง
และจากการดัชนีหุ้นไทยยังคงเป็นลักษณะผันผวนในทิศทางขาลงเช่นนี้ การพิจารณาสัญญาณเทคนิคประกอบการลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
Money Channel ต่อสายพูดคุยกับ คุณวัชระ แก้วสว่าง หรือ "เสี่ยป๋อง" เซียนหุ้นเทคนิคมืออาชีพที่มีพอร์ตระดับพันล้านบาท ได้บอกถึงภาวะหุ้นไทยในช่วงนี้ว่า ถ้าจะประเมินสัญญาณเทคนิคภาพของ SET INDEX ระยะสั้นถือว่ากราฟโดยรวมไม่สดใส เพราะกราฟได้ปรับตัวร่วงลงบริเวณเส้นค่าเฉลี่ยที่ไม่ควรจะหลุด เบื้องต้นมองแนวรับระยะสั้นไว้ 3 บริเวณ แนวรับแรกที่ 1,530 จุด ซึ่งเป็นแถวบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน และแนวรับถัดไปคือ 1,484 จุด ซึ่งเป็นบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน และสุดท้ายคือแถว 1,437 จุด ซึ่งเป็นแถวบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
อย่างไรก็ดี "เสี่ยป๋อง" บอกว่า แม้ว่า SET จะยังลงไม่ถึงเส้น 200 วัน แต่ได้ให้ความสำคัญกับแนวรับหลักที่บริเวณ 1,450 จุดมากกว่า เพราะเป็นกรอบแนวรับหลักของกรอบขาขึ้นในภาพใหญ่ โดยถ้าหากหลุดแนวรับบริเวณดังกล่าว จะสร้างแรงกดดันทาง Sentiment ให้กับภาพการลงทุนของหุ้นไทยในระยะกลาง
เขาแนะนำนักลงทุนว่าถ้าจะเข้าไปเก็งกำไรสั้น หรือลงทุนในระยะกลาง ควรให้แรงขายบางลงก่อน เพราะการที่ SET ลงในรอบนี้ถือว่ามีแรงขายหนาแน่นมาก จึงมีภาวะความเสี่ยงที่สูง
"ตอนนี้ผมก็ยังงงๆกับตลาดหุ้นเหมือนกัน ซึ่งส่วนตัวก็ไม่อยากให้มันหลุด 1,450 จุด เพราะถ้า SET จะเป็นขาขึ้นจริงต้องไม่ควรหลุดบริเวณนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่าก็ได้เริ่มทยอยลดพอร์ตลงไปบ้างแล้วช่วงแรกก็แถว 1,530 จุด ซึ่งตอนนี้ผมก็ว่าหุ้นไทยไม่ได้แพง แต่แรงขายยังคงออกมาเยอะ ผมก็กำลังรอจังหวะเมื่อแรงขายซาๆลงก่อน ถึงจะกลับเข้าไปซื้อหุ้นอีกรอบ ซึ่งก็คงจะเป็นหุ้นใหญ่ที่ผมจะเข้าไปซื้อ"
ด้านฝ่ายวิจัยฯ บล.เคที ซีมิโก้ บอกว่า ในวันพรุ่งนี้(9 ก.ย.)มีโอกาส SET จะปรับตัวลดลงได้อีก เพราะยังไม่เห็นสัญญาณซื้อเข้ามาชัดเจน แนะนำ นักลงทุน Wait & See พร้อมให้แนวรับ 1,450-1,440 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,475 จุด นอกจากนี้ ไปจับตาปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะในค่ำคืนนี้(8 ก.ย.)ที่ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB จะมีการประชุมกัน โดยต้องจับตาว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมอีกหรือไม่
***********************************************
ชัยรัตน์ พุ่มมาลา ทีม Business&Finance, Money Channel