ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่งออกไทยพุ่งสูงสุดในช่วงเวลาทอง

โดย หญิงแม้น
เผยแพร่ :
98 views

ส่งออกไทยพุ่งสูงสุดในช่วงเวลาทอง

- ยอดส่งออกของไทยเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 2.865 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้น 15.5% YoY จากคอมพิวเตอร์/ส่วนประกอบและแผงวงจร โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ

- เรายังคงคาดการณ์ที่ว่ายอดส่งออกจะชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 68 และปี 69 แม้ว่าการส่งออกจะเติบโต 15% ในช่วงครึ่งแรกของปี 68 จากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง

- เราคาดว่าจะมี downside มากว่า upside จาก SET Index ล่าสุด โดยนักลงทุนได้รวมอัตราภาษีศุลกากรต่ำกว่า 30% ของสหรัฐฯ ไว้ในราคาแล้ว

Investment highlights

- ยอดส่งออกของไทยยังคงแข็งแกร่งในเดือน มิ.ย.2568 ยอดส่งออกของไทยเดือน มิ.ย.2568 อยู่ที่ 2.865 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15.5% YoY แต่ลดลง 7.7% QoQ หากไม่รวมทองคำ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน และอาวุธ ยอดส่งออกจะเติบโต 15.6% YoY ชะลอตัวลงจาก 20.3% YoY ในเดือน เม.ย.2568 เนื่องจากผู้ส่งออกเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพื่อรับมือกับภาษีศุลกากรในอัตรา 36% ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.2568 โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์/ส่วนประกอบ และแผงวงจร ขณะที่ในเชิง QTD ยอดส่งออกเติบโต 15.0% YoY จากการเติบโตที่แข็งแกร่งในเดือน มิ.ย. ในทางกลับกัน สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังคงรักษาโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากผลไม้ ทั้งสด/แช่แข็ง/แปรรูป (หนุนโดยผลผลิตทางการเกษตรที่สูง) และไก่เนื้อ

- ยอดนำเข้าเดือน มิ.ย.2568 เติบโตสอดคล้องกับยอดส่งออกที่แข็งแกร่ง ยอดนำเข้าของไทยเดือน มิ.ย.2568 เพิ่มขึ้น 13.1% YoY เป็น 2.759 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ โดยยอดนำเข้าที่ไม่รวมทองคำและเครื่องประดับเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะยอดนำเข้าวัตถุดิบ ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.2% YoY ประเด็นสำคัญคือการฟื้นตัวอย่างมากของยอดนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 22.3% YoY หลังจากหดตัว 6.1% YoY ในเดือนก่อนหน้า การฟื้นตัวดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญของเซมิคอนดักเตอร์/ไดโอด และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทั้ง 2 รายการ เพิ่มขึ้น 21.7% YoY พลิกจากที่ลดลง 12.9% YoY ในเดือนก่อนหน้า และด้วยโมเมนตัมที่แข็งแกร่งนี้ การเติบโตเชิง YoY ของกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์คาดว่าจะยังคงดำเนินต่อไปในเดือนหน้า

- ย้อนกลับไปดูก่อนการขึ้นภาษีศุลกากร หลังจากที่สหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 25% ในเดือน ก.ค. และทั้ง 2 ประเทศเพิ่มภาษีนำเข้าในเดือน ส.ค. อัตราภาษีศุลกากรที่แท้จริงสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นจาก 3.5% ในเดือน ก.ค.2561 เป็น 11.5% ในเดือน ธ.ค.2562 สอดคล้องกับที่ยอดส่งออกของจีนที่แตะระดับจุดสูงสุดในเดือน ต.ค.2561 (+14.3% YoY) แต่ลดลงเป็น -20.7% YoY ในเดือน ก.พ.2562 ขณะที่การเติบโตของ GDP ชะลอตัวลงจาก 6.5% ในปี 2561 เป็น 5.9% ในปี 2562 ในขณะเดียวกัน ประมาณการ EPS ของ SET ลดลงจาก 95.1 บาท ในเดือน ธ.ค.2561 เป็น 86.6 บาท ในปี 2562 จาก GDP และการส่งออกที่อ่อนแอลง โดยมีการปรับลดประมาณการกำไรครั้งใหญ่ในกลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มธุรกิจการเกษตร

มุมมองการลงทุน

เราคงมุมมองที่ว่ายอดส่งออกจะชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปี 2568 แม้ว่ายอดส่งออกจะเติบโต 15% ในครึ่งแรกของปี 2568 แต่เราเชื่อว่าโมเมนตัมการส่งออกจะชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปีจากอุปสงค์ที่พุ่งสูงขึ้นจากช่วงต้นปีที่เริ่มลดลง หากอิงตามรูปแบบในอดีต ซึ่งภาษีศุลกากรมีแนวโน้มที่จะมีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบภายใน 6 เดือน หลังจากประกาศใช้ เรายังคาดการณ์ว่ายอดส่งออกอาจหดตัวลงในปี 2569 อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าบางกลุ่มธุรกิจจะยังคงแข็งแกร่งแม้จะอัตราภาษีศุลกากรใหม่จะถูกบังคับใช้ โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร (GFPT) กลุ่มโรงพยาบาล (PR9) และกลุ่ม ICT (TRUE และ ADVANC) ซึ่งน่าจะยังคงแสดงให้เห็นถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งต่อไป

 


หญิงแม้น