ภาพรวมไม่ดี แต่ไม่ได้แย่ไปกว่าคาด
Art of Strategy 13 พ.ย.62
- เมื่อคืนทั่วโลกจับจองไปที่การขึ้นเวที Economic Club ที่ New York ของ ปธน.ทรัมป์ เนื้อหาไม่มีอะไรมากไปกว่าการกล่าวโทษทุกคนทั้ง การค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน การดำเนินงานของ Fed และการทำงานของรัฐบาลสมัยโอบามา อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ ได้มีการกล่าวถึง การทำข้อตกลงการค้าระยะที่1 ว่าใกล้จะบรรลุในเร็วๆนี้ และขู่เพิ่มด้วยว่าจะขึ้นภาษีแบบเต็มรูปแบบถ้าดีลดังกล่าวล่มลง
- การทำข้อตกลงการค้าระยะที่ 1 ยังไม่มีอะไรใหม่ ตลาดซึ่งรับรู้เรื่องนี้มานานนาจะเข้าสู่ปรับฐานต่อไป อย่างไรก็ตามการปรับฐานของตลาดหุ้นทั่วโลก น่าจะเป็นแค่การย่อก่อนขึ้นต่อ
- การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยในงวดไตรมาส 3 เลยกล่างทางมาแล้ว ล่าสุดรายงานงบมาประมาณ 290 บริษัท คิดเป็น market cap กว่า 70% ของทั้งตลาด มีกำไรสุทธิ 1.82 แสนล้านบาท -4%QoQ และ -20.2% YoY แม้ภาพรวมกำไรจะค่อนข้างต่ำ แต่ก็ไม่ได้แย่ไปกว่าที่ตลาดคาดมากนัก โดย 101 บริษัทที่มีการคาดการณ์กำไร มีกำไรรวม 1.57 แสนล้านบาท ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย 1.3%
- แนวโน้มผลประกอบการมีความเสี่ยงที่จะไปไม่ถึง 2.5 แสนล้านบาท ดูทรงแล้วอย่างเก่งก็แค่ 2.2 แสนล้านบาท ทำให้ภาพกำไรทั้งปี มีความเสี่ยงที่ปี 2562 จะมีกำไรสุทธิรวมแค่ 9.3 แสนล้านบาท ใกล้เคียงปี 2561 นั่นก็หมายถึงกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้ไม่ได้โตไปจากปีที่แล้ว เพิ่มความเสี่ยงในการถูกปรับลดประมาณการกำไรปีหน้าที่ระดับ 1.06 ล้านล้านบาท อาจถูกตลาดปรับลงมาเหลือ 1.03 – 1.04 ล้านล้านบาท
- QH KAMART BCH MINT BLA SIRI BEM ANAN BDMS CPALL คือ กลุ่มหุ้นที่มีการประกาศผลประกอบการวานนี้แล้วดีกว่าตลาดคาด ส่วนที่แย่กว่าคาดจะมี M CKP PTT CENTEL WORK TKN RATCH จะสังเกตุได้ว่ากลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศอย่างอสังหาฯ และค้าปลีก มีผลประกอบการที่ดีกว่าคลาดคาดไว้ ส่วนกลุ่มที่แย่หลักๆจะเป็นพลังงาน ภาพแบบนี้สะท้อนถึงทิศทางเศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ได้ย่ำแย่จนเกินไปนัก
- ยังคงมอง SET Index จะพักตัวไม่ต่ำกว่า 1,617 จุด ก่อนที่จะดีตัวขึ้นอีกครั้ง เพื่อไปทดสอล 1,640 และ 1,672 จุด
- กลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ พลังงาน PTT ธนาคาร KBANK BBL SCB และกลุ่มผลประกอบการเด่น BEM CPALL RS TRUE SAWAD CHG BCH AMATA STPI PLANB เป็นตัวเด่นในสัปดาห์นี้
ประกิต สิริวัฒนเกตุ