ห้องเม่าปีกเหล็ก

ราคาหุ้น TTW ต่ำสุดรอบ 10 ปี

โดย พายุ
เผยแพร่ :
195 views

ราคาหุ้น TTW ต่ำสุดรอบ 10 ปี

สัญญาขายน้ำใกล้หมดอาจกระทบกำไร 30%

.

TTW หนึ่งในหุ้นตำนานในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ใครว่าเป็นหุ้นพิมพ์นิยม ได้รับสัมปทานการผลิตน้ำประปา และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 2 ในบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 2,030,759,929 หุ้น หรือคิดเป็น 24.98 % ของหุ้นทั้งหมด

.

ทั้งนี้ TTW กำลังเจอช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยราคาหุ้นในวันที่ 27 ต.ค. มาอยู่ที่ 8.50 บาท ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2555 ที่ 8.50 บาท หรือ กว่า 10 ปี จากความท้าทายเมื่อสัญญาขายน้ำของ บริษัท ประปาปรุมธานี จำกัด หรือ (PTW) กับการประปาภูมิภาค กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 ต.ค.2566 หรืออีก 1 ปีข้างหน้า ทำให้เกิดแรงขายออกมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้น TTW ลดลงในรอบ 6 เดือนกว่า 20% แม้ก่อนหน้านี้ บริษัทจะออกมาเปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถต่อสัญญาได้ เนื่องจากตามเงื่อนไขสามารถต่อสัญญาได้อีก 2 ครั้งเป็นระยะเวลา 10 ปี ก็ตาม

.

ไทมไลน์การต่อสัญญาไม่ชัดเจน

บล.เอเซีย พลัส มองว่า TTW มีความเสี่ยงจากการต่อสัญญา PTW ปัจจุบันยังไม่มี TIMELINE ที่ชัดเจน โดยสัญญาจะหมดอายุลงใน 14 ต.ค. 2566 ซึ่งปัจจุบันทางบริษัทฯอยู่ในขั้นตอนส่งเรื่องต่อสัญญาไปยังการประปาส่วนภูมิภาค กปภ. และอยู่ระหว่างการพิจารณาสัญญาของทางภาครัฐ โดยยังไม่มีกำหนด timeline ที่ชัดเจนว่าจะสามารถรู้ผลการต่อสัญญาครั้งนี้ได้ในช่วงใด

.

ซึ่งในมุมมองของทางบริษัทฯ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 และหากไม่สามารถต่อสัญญาดังกล่าวได้ คาดจะส่งผลให้ รายได้และกำไรปรับตัวลงราว 30% จากฐานเดิมตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมการต่อสัญญาใหม่ไว้ในประมาณการ

.

อย่างไรก็ตาม บล.เอเซีย พลัส ให้คำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 10.00 บาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิงวด ไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 13.8% จากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 932.8 ล้านบาท ทำระดับสูงสุดรายไตรมาสของปี65 หนุนหลักจากส่วนแบ่งกำไร CKP ที่เข้าสู่ช่วง High season แม้ภาพรวมธุรกิจน้ำประปาจะอ่อนตัวจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามค่าสารเคมีและค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นก็ตาม ช่วงไตรมาสที่ 4 คาดกำไรสุทธิลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า จากการเข้าสู่ low season ของฤดูกาลใช้น้ำ และส่วนแบ่งกำไร CKP ที่ผ่านพ้นช่วง Peak มาแล้ว

.

ทั้งนี้ บล.เอเซีย พลัส ปรับไปใช้ ราคาที่เหมาะสม ณ สิ้นปี 66 ด้วยวิธี DCF ที่ 10.0 บาท/หุ้น (ปี 65 ที่ 12.3 บาท) อิงเฉพาะสัญญาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่รวมการต่อสัญญาโครงการ PTW เนื่องจากไม่มี timeline ที่ชัดเจน ซึ่งหากไม่สามารถต่อสัญญาใหม่ได้จะส่งผลต่อกำไรและปันผลที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามหากได้สัญญาใหม่ถือเป็น upside ส่วนเพิ่มต่อประมาณการและ FV ปัจจุบัน ช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับฐานสะท้อนความไม่ชัดเจนในการต่อสัญญา PTW ไปแล้วระดับหนึ่ง จนคาด down side ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นผู้ที่มีหุ้นอยู่สามารถถือรับปันผลสม่ำเสมอ ปีละ 6.9%

.

บล.กรุงศรี แนะนำ ขายในหุ้น TTW ด้วยราคาเป้าหมาย 8.00 บาท เพราะมีความเสี่ยงที่ยังไม่ได้ข้อสรุปหลัง 15 ต.ค. บริษัทจะเจรจากับกปภ.อย่างเป็นทางการเรื่องการต่อสัญญาซื้อน้ำของ PTW เราเชื่อว่าจะใช้เวลา สัญญาซื้อน้ำปัจจุบันจะหมดอายุ 14 ต.ค. 2023 นอกจากนี้จำนวนซื้อน้ำขั้นต่ำและราคาขายน้ำสำหรับกำลังการผลิตส่วนขยาย 100,000 ลบ.ม/วันของ TTW (กระทุ่มแบน) ยังไม่มีการสรุป

.

สำหรับคาดกำไร ไตรมาสที่ 3 สูงที่สุดตามฤดูกาล ประมาณการกำไร TTW ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็น 929 ล้านบาท เนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจาก CKP สูงขึ้น (ฤดูฝน) TTW มีความเสี่ยงการต่อสัญญาขายน้ำของ PTW (สัญญาหมดอายุ 14 ต.ค. 2023) และราคาขายน้ำส่วนต่อขยายของ TTW ยังไม่สรุป เนื่องจากไม่มีโครงการใหม่ DCF จะลดลงเรื่อยๆ เพื่อสะท้อนมูลค่าพื้นฐานของบริษัท เราใช้ค่าเฉลี่ย DCF สำหรับอายุสัมปทานที่เหลือ และรวมโรงไฟฟ้าหลวงพระบางแล้ว (1 บาท/หุ้น) เราปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 8 บาทจาก 11.5 บาท ราคาหุ้นปรับลง 18% ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่ความเสี่ยงและผลตอบแทนยังไม่คุ้มค่า ปรับคำแนะนำเป็น ขาย

 


พายุ