อวสาน " ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ "

การเดินทางเข้าพบและให้ปากคำกับตำรวจกองปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด หลังการจับกุม นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือบูม ดารานักแสดง ในคดีฟอกเงิน เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ฉายาเจ้าพ่อตลาดหุ้นที่สื่อมวลชนขนานนามนั้น ไม่ธรรมดาจริงๆ

เพราะแม้ยังไม่มีข่าวพาดพิงกับขบวนการต้มตุ๋นนักลงทุนชาวฟินแลนด์ วงเงินเกือบ 800 ล้านบาท แต่นายประสิทธิ์ เหมือนกับนกรู้ เหมือนมีพรายกระซิบ หรือมีเส้นสายวงในแจ้งเบาะแส โดยมีที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายอย่างดี 

และมีการติดต่อประสานงานกับตำรวจกองปราบปรามล่วงหน้า เพื่อให้นายประสิทธิ์ชิงเปิดตัว เข้าพบตำรวจ ดับกระแสข่าวที่กำลังร้อน ก่อนมีหมายเรียกหรือหมายจับ

นายประสิทธิ์ร่วมขบวนการต้มตุ๋นนักลงทุนชาวฟินแลนด์หรือไม่ เกี่ยวข้องขนาดไหน จงใจในการกระทำความผิด หรือติดร่างแหในคดีโดยไม่เจตนา อยู่ที่ผลการสอบสวนของตำรวจ

นายประสิทธิ์คลุกคลีมานาน แต่ชื่อเสียงเริ่มกระฉ่อนในช่วงประมาณสิบกว่าปีที่ผ่านมา ในฐานะเจ้าหน้าที่มาร์เก็ตติ้ง หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดที่มีลูกค้ารายใหญ่ในมือ

แต่พฤติกรรมของนายประสิทธิ์ถูกจับตามาตลอด และเพิ่งจะมีคดี ถูกลงโทษจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขณะที่รั้งตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด 

และถูกห้ามเป็นผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ 2 ปี ในความผิดฐานละเลยการตรวจสอบดูแลระบบงานในการทำความรู้จักลูกค้า และการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าและการกำกับดูแลการทำธุรกรรมของลูกค้า

คดีฉ้อโกงเงินนักลงทุนชาวฟินแลนด์และฟอกเงิน อาจทำให้ชีวิตนายประสิทธิ์ เด็กหนุ่มจากหาดใหญ่ ซึ่งกอบโกยความมั่งคั่งจากตลาดหุ้นมาพุงปลิ้น ต้องตกนรกทั้งเป็น

นายประสิทธิ์เริ่มต้นจากการดูแลนักลงทุนรายใหญ่ที่จังหวัดสงขลา ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าสู่อาชีพมาร์เก็ตติ้ง ไม่ได้สังกัดบริษัทโบรกเกอร์ใด แต่ดิ้นรนขวนขวาย จนสอบได้ใบอนุญาตเป็นพนักงานมาร์เก็ตติ้ง จนชื่อเสียงเริ่มโด่งดัง และเป็นที่ต้องการตัวของโบรกเกอร์หลายแห่ง เพราะมีลูกค้ารายใหญ่ในมือ

ธุรกิจหลักทรัพย์ว่ากันด้วยตัวเลข เป้าหมายวอลุ่ม หรือมูลค่าการซื้อขาย เจรจาตกลงกันด้วยผลประโยชน์สูงสุดล้วน ๆ ไม่มีคำว่าความภักดีในองค์กร ไม่ต้องคำนึงถึงจริยธรรม คุณธรรม หรือแม้แต่สำนึกความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้ลงทุน

นายประสิทธิ์สร้างชื่อที่หาดใหญ่อยู่พักหนึ่ง ก่อนผันตัวเองเข้ามาในกรุงเทพ ฯ และเหมือนกับติดปีก เพราะภายในเวลาไม่กี่ปี ได้ก้าวมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของบริษัทโบรกเกอร์ และย้ายไปย้ายมาในโบรกเกอร์หลายแห่ง แล้วแต่โบรกเกอร์ไหนยื่นเสนอเงื่อนข้อเสนอที่ดีกว่า

ตลอดเวลากว่า 10 ปี บนเส้นทางธุรกิจหลักทรัพย์และประสบการณ์ในตลาดหุ้น นายประสิทธิ์เห็นสัจธรรมมามาก เห็นในด้านมืดของตลาดหุ้น เห็นวิธีการกอบโกยความร่ำรวย เห็นการทำธุรกรรมสีเทา ๆ สัมผัสคนในทุกรูปแบบ รู้จักคนมากมาย คนดีก็มี คนเลวร้ายคงไม่น้อย 

และประสบการณ์ การได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส ได้ปฏิสัมพันธ์ หรือใช้บริการคลุกคลี กับกลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ ในตลาดหุ้น อาจเป็นช่องทางสู่การเป็นมหาเศรษฐีระดับแนวหน้า เมื่อเทียบกับผู้บริหารบริษัทโบรกเกอร์ด้วยกัน

ฉายาเจ้าพ่อตลาดหุ้น อาจเป็นการให้ราคาที่สูงเกินจริงไปหน่อย เพราะนายประสิทธิ์ ไม่ได้ยิ่งใหญ่ระดับเจ้าพ่อตลาดหุ้น แต่เป็นเพียงผู้บริหารโบรกเกอร์ ที่มีเส้นสาย มีเครือข่าย มีลูกค้ารายใหญ่ในมือ ซึ่งอาจเป็นเพราะสามารถตอบสนองการให้บริการอย่างประทับใจ

มูลค่าของนายประสิทธิ์ ไม่ได้อยู่ที่ความเก่ง แต่อยู่ที่มีนักลงทุนรายใหญ่ใน สามารถต่อรองผลประโยชน์กับบริษัทโบรกเกอร์ได้แทบทุกแห่ง

เช่นเดียวกัน ฉายาซีอีโอหมื่นล้านบาทนั้น อาจเกินเลยสักหน่อย เพราะนายประสิทธิ์ โลดแล่นในวงการธุรกิจหลักทรัพย์ประมาณ 20 ปี ถ้ามีเงินหมื่นล้านบาท จะต้องมีรายได้เฉลี่ยปีละ 500 ล้านบาท

ปีละ 500 ล้านบาท นายประสิทธิ์ เสกเป่าหรือเนรมิตมาจากไหน ถ้าทำอาชีพสุจริตไม่ผิดจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพและภายใต้กฎหมาย

ถ้ารวยระดับ 1,000 ล้านบาท มีความเป็นไปได้ 

แต่ถ้ามีเงินระดับ 1,000 ล้านบาท ก็น่าสนใจเหมือนกันว่า นายประสิทธิ์ มีช่องทางการทำเงินอย่างไร เงินทองหลั่งไหลมาจากไหนบ้าง เพื่อยกเป็นกรณีศึกษา และเป็นวิทยาทานให้คนที่อยากประสบความสำเร็จ ในการกอบโกยความร่ำรวยจากตลาดหุ้น

เพียงแต่นายประสิทธิ์ พร้อมจะเปิดเผยความสำเร็จ และช่องทางการทำเงินอย่างโปร่งใส เพื่อเป็นวิทยาทานต่อสาธารณชนหรือไม่เท่านั้น แม้จะสร้างภาพเป็นนักบุญใจกุศล ชอบทำบุญทำทานก็ตาม

วิบากที่นายประสิทธิ์เผชิญ เป็นไปตามวิถีทางการดำเนินชีวิต ที่อาจห้อมล้อมกับคลุกคลีกับผู้คนที่มีพฤติกรรมสีเทา ๆ และหิวกระหายในความมั่งคั่ง จนสุดท้ายต้องพาตัวเองเข้าไปติดบ่วงกรรม

สิบกว่าปีที่ผ่านมา “ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในวงการธุรกิจหลักทรัพย์มาตลอด แต่คนในแวดวงธุรกิจหลักทรัพย์เท่านั้น ที่รู้จักตัวตนของนายประสิทธิ์เป็นอย่างดี

ไม่มีใครจะคิดว่านายประสิทธิ์จะมีวันนี้ วันที่ชะตาชีวิตซีอีโอค่าตัวแพงที่สุดในวงการโบรกเกอร์ต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561

                 2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com