ห้องเม่าปีกเหล็ก

CK ความเสี่ยงระยะสั้นจำกัด

โดย ขบวนสุดท้าย
เผยแพร่ :
108 views

CK ผลกระทบจากเหตุถนนยุบรวมในราคาแล้ว ความเสี่ยงระยะสั้นจำกัด

CK รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ที่ 1.74 พันลบ. หากไม่รวมกำไรพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนจำนวนและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 841 ลบ.กำไรปกติอยู่ที่ 898.4 ลบ. (+32% YoY, +23% QoQ) สูงกว่าคาดของเรา 20% กำไรที่ออกมาดีกว่าคาดมาจากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยที่สูงกว่าที่คาดไว้ กำไรปกติช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 คิดเป็น 125.4% ของประมาณการทั้งปีของเราสะท้อนถึงความเสี่ยงขาขึ้น

 

 

ประเด็นสำคัญ

CK จัดการประชุมนักวิเคราะห์ประจำไตรมาส 3/2568 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

1) ความเสียหายจากเหตุถนนยุบบริเวณการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงยังอยู่ระหว่างการพิจารณาและจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำไรและผลขาดทุน (P&L) ในระยะสั้น เนื่องจาก CK ได้บันทึกต้นทุนการซ่อมแซมวัสดุก่อสร้างและอะไหล่ต่างๆ ไว้ในสินทรัพย์แล้ว

2) โครงการทางพิเศษ 2 ชั้น คาดว่าจะได้รับอนุมัติในต้นปี 2569 ซึ่งจะทำให้ CK มียอด backlog เพิ่มขึ้นเป็น 2 แสนลบ.

3) โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (ระยะที่ 2) เงื่อนไขของโครงการใกล้เคียงกับโครงการรถไฟรางคู่

โดย CK คาดว่ารัฐบาลจะเปิดประมูล 2-3 สัญญา จากทั้งหมด 7 สัญญา มูลค่าโครงการรวม 3.2-6.6 หมื่นลบ. ในไตรมาส 1/2569

 

เหตุถนนยุบบนเส้นทางรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง

CK ระบุว่าเหตุถนนยุบดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อ P&L เนื่องจากต้นทุนซ่อมแซมถูกบันทึกเป็นวัสดุก่อสร้างและอะไหล่ในสินทรัพย์ และจะถูกหักล้างบางส่วนด้วยค่าสินไหมทดแทนประกันภัย โดยส่วนเกินจะรับรู้ในภายหลัง บริษัทฯ เคยใช้วิธีบัญชีนี้ในโครงการขนาดเล็กก่อนหน้านี้ แต่ผู้สอบบัญชีต้องอนุมัติอีกครั้ง โครงการโดยรวมไม่ได้ล่าช้าเนื่องจากความคืบหน้าของโครงการเร็วกว่ากำหนด นับตั้งแต่ถนนยุบเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ราคาหุ้น CK ลดลง 29% คิดเป็นมูลค่าตลาดที่ขาดทุน 8.5 พันลบ. (เทียบกับมูลค่าโครงการ 1.5 หมื่นลบ.)

ปรับเพิ่มประมาณการกำไร

เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568-70 ขึ้น 48% 14% และ 6% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึง อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงกว่าคาด โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการระบบราง ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ที่สูงกว่าคาด และการไม่มีส่วนแบ่งผลขาดทุนจากโครงการหลวงพระบางหลังจากการขายหุ้นในไตรมาส 3/2568

แนวโน้ม

เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 4/2568 จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY ตามรายได้และ GPM ที่เพิ่มขึ้นจาก backlog แต่จะลดลง QoQ เนื่องจากไม่มีรายได้จากเงินปันผลของ TTW และส่วนแบ่งกำไรจาก CKP และ BEM ที่ลดลง สำหรับปี 2569 รายได้คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย YoY จากการเร่งก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง รถไฟรางคู่ และรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม โดยยังคงรักษา GPM ที่สูงไว้ได้ หลังจากไตรมาส 4/2568 จะมีการเรียกเก็บภาษี GMT ส่งผลให้ภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นประมาณ 50 ลบ. ต่อปี

มุมมอง KS

แนะนำ “ซื้อ” TP เป็น 23.40 บาท เพื่อสะท้อนมูลค่าสินทรัพย์สุทธิที่สูงขึ้นหลังจากปรับปีฐานการประเมินมูลค่าหุ้นจากสิ้นปี 2568 ไปเป็นสิ้นปี 2569 เราคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานของ CK จะยังคงแข็งแกร่งในปี 2569 โดยได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องและสัดส่วนโครงการใกล้เคียงกับปี 2568 แม้ว่าปัญหาถนนยุบบริเวณการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงยังคงมีความไม่แน่นอน แต่ CK มีประกันภัยคุ้มครองเต็มรูปแบบสำหรับโครงการมูลค่า 1.5 หมื่นลบ. จนถึงปัจจุบัน ต้นทุนการซ่อมแซมยังคงต่ำกว่า 100 ลบ. เราเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนถึงผลกระทบจากถนนยุบนี้แล้ว

ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ:

1) ต้นทุนโครงการก่อสร้างที่บานปลาย

2) ความไม่แน่นอนทางการเมือง

3) ความเสี่ยงในการก่อสร้างรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม

 

 


ขบวนสุดท้าย