หัวเลี้ยวหัวต่อ พ.ศ. 2568 ความมั่นคงของไทยในความเปราะบางของโลก
By กฤษฎา บุญเรือง
ภายในไทยเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกคนพยายามหาทางแก้และปรับตัวให้อยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจที่สุ่มเสี่ยงและนับวันกลายเป็นปัญหาล้อมกรอบแคบทุกครอบครัวและบุคคล ตลาดหุ้นไทยร่วง ความเชื่อมั่นในการลงทุนน้อย รายได้จากการท่องเที่ยวไม่ตรงตามเป้า และการส่งออกยังอยู่ในภาวะกังวลว่าจะอยู่รอดหรือไม่

รัฐบาลไทยจะไปรอดหรือไม่ หลังจากนโยบายใหญ่ทำแล้วทำอีกแต่ไม่เห็นผล นายกรัฐมนตรีจะแสดงสปิริต
โดยการลาออก หรือจะยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจกันใหม่
พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่กำลังทะเลาะเบาะแว้งชิงไหวชิงพริบกันอยู่ และฝ่ายค้านที่กำลังรอจังหวะใช้กระแสความนิยมขึ้นมาเป็นเจ้าภาพเสนอตัวเป็นผู้นำรัฐบาลชุดต่อไป
หรือทหารที่กำลังปกป้องชายแดน และความขัดแย้งที่เห็นได้ชัดกับรัฐบาลพลเรือน จะใช้เป็นข้ออ้างของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจและความผันผวนทางการเมืองมายึดอำนาจโดยอ้างว่าจำเป็นต้องรักษาความสงบอีกครั้งหรือไม่
เรื่องภายในไทยเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกคนพยายามหาทางแก้และปรับตัวให้อยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจที่สุ่มเสี่ยงและนับวันกลายเป็นปัญหาล้อมกรอบแคบทุกครอบครัวและบุคคล
ตลาดหุ้นไทยร่วง ความเชื่อมั่นในการลงทุนน้อย รายได้จากการท่องเที่ยวไม่ตรงตามเป้า และการส่งออกยังอยู่ในภาวะกังวลว่าจะอยู่รอดหรือไม่
หรือปัญหาภายนอกจะใหญ่กว่าภายใน?
ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงทั่วโลกก็คงจะไม่มีอะไรเกินกว่าข่าวการโจมตีระหว่างกันของอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งผ่านมาเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์และยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะไปในทิศทางใด จะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นวงกว้างถึงขั้นเป็นสงครามที่มีประเทศอื่นเข้ามาร่วมด้วย หรือบางคนว่าเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นแล้ว เพียงแต่บางคนยังไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง หรือเป็นสงครามจำกัดภายในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งก็ยังน่ากลัวเนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญที่สุดของโลกก็ว่าได้
อิสราเอลซึ่งอยู่ภายใต้รัฐบาลขวาจัดกำลังถูกวิจารณ์ว่า มีเจตนาทำสงครามโดยไม่ยอมหยุด ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือเปลี่ยนจากบวกเป็นลบ หลังจากวิกฤติการก่อการร้ายในเดือนตุลาคม ปีค.ศ. 2023 ที่ทำให้โลกเห็นใจ และครั้งนั้นมีแรงงานไทยในอิสราเอลเป็นจำนวนมากได้รับเคราะห์ไปด้วย แต่การปฏิบัติเชิงรุกเพื่อควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จในฉนวนกาซ่าของอิสราเอลนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกว่าเป็นการทำลายล้างเกินขอบเขตและข้ามเส้นของมนุษยธรรม การประณามต่อรัฐบาลอิสราเอลนั้นเริ่มกลายเป็นกระแสขณะที่ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่ในประเทศต้องการให้ยุติการใช้กำลังและกลับสู่ภาวะสงบแบบเดิมโดยเร็วที่สุด
การตัดสินใจรุกโจมตีอิหร่านแบบช็อคโลกในครั้งนี้ กลุ่มผู้นำของอิสราเอลอ้างว่า เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ป้องกันไม่ให้ภัยมาถึงทุกตัว เนื่องจากอิหร่านใกล้ที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว และหากไม่ทำตอนนี้ก็จะสายเกินไป
ข้ออ้างนี้ถูกต่อว่าโดยประชาคมโลกว่าเป็นข้ออ้างฉวยโอกาสระหว่างที่อิหร่านและพันธมิตรกำลังอ่อนแอ เพื่อทำลายเสถียรภาพของประเทศที่อิสราเอลคิดว่าเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง และอาจมีจุดประสงค์แฝง คือ การล้มการปกครองที่นำโดยผู้นำศาสนาอิสลามและกลายเป็นการเปลี่ยนสมดุลย์อำนาจในภูมิภาคในที่สุด
สหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในระหว่างการถกเถียงภายในประเทศว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรในเรื่องนี้ ฝ่ายขวาจัดสุดโต่งกลัวสงครามที่ไม่สิ้นสุด เตือนให้จำบทเรียนของการออกไปทำสงครามหลายครั้งและได้ไม่คุ้มเสีย และอยากดึงทุกอย่างกลับมารวมฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของประเทศ ขณะที่ฝ่ายขวาโดยทั่วไปยังชั่งใจอยู่ว่าจะคุ้มหรือไม่ เพราะคิดว่าการเข้าร่วมสนับสนุนทางการทหารต่ออิสราเอลเพื่อโจมตีอิหร่านนั้น ได้ประโยชน์ทางการเมืองระหว่างประเทศที่อเมริกาไม่ต้องลงมือปฏิบัติการด้วยตัวเอง แต่ก็จะนำมาสู่ภาพลักษณ์ของการเคียงคู่กับอิสราเอลเพื่อโค่นล้มและเปลี่ยนแปลงการปกครองของอิหร่าน และจะทำให้สหรัฐมีอิทธิพลแทรกแซงเข้าไปหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องการผลิตและส่งออกพลังงานปิโตรเลียมซึ่งปัจจุบันจีนเป็นลูกค้าใหญ่ที่สุดของอิหร่าน
การตอบโต้ของอิหร่านโดยอาวุธและโดรนทำลายเป้าหมายสำคัญในอิสราเอลต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายวันเป็นครั้งแรกที่โลกได้เห็นว่าอิสราเอลไม่สามารถที่จะใช้เทคโนโลยี Iron Dome ป้องกันการโจมตีทางอากาศได้ 100% อย่างที่เคยหวังไว้
เรื่องนี้จึงนำมาสู่ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นโดยตรงกับไทย เนื่องจากแรงงานชาวไทยที่อยู่ในอิสราเอลนั้นมีตัวเลขเป็นทางการจากกระทรวงแรงงานประมาณ 40,000 คน และนอกจากนี้อาจจะมีอีกกว่า 10,000 คนที่อยู่นอกระบบ และคนกลุ่มนี้อยู่ในภาวะอันตรายต่อชีวิต และการประกอบอาชีพซึ่งจะเป็นปัญหา ตั้งแต่ไม่มีรายได้ส่งมาเลี้ยงครอบครัว หรือชำระหนี้สิน หรือได้รับบาดเจ็บล้มตาย ทำให้กลายเป็นภาระของครอบครัว หรืออาจกลายเป็นนโยบายด่วนของรัฐบาลไทยที่ต้องทำเป็นสิ่งฉุกเฉิน ขนย้ายโดยใช้ภาษีอากรของรัฐเช่นประมาณสองปีที่แล้ว
กระทรวงต่างประเทศของไทยและกระทรวงแรงงานของไทยออกมาแถลงการณ์แยกกัน และกลุ่มข้าราชการของทั้งสองกระทรวงวิพากษ์วิจารณ์กันว่า มีการประสานงานน้อยมาก และอาจจะเป็นการชิงไหวชิงพริบกันด้วย เนื่องจากเป็นการเมืองต่างพรรค และเป็นปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อวิกฤตตุลาคม 2023
หากสถานการณ์ในอิหร่านรุนแรงถึงขั้นเป็นสงครามใหญ่ และมีผู้เสียชีวิตล้มตายมาก หรืออาจมีการใช้อาวุธนิวเคลียร์โดยอิสราเอล หรือมีพันธมิตรอื่นเช่นรัสเซียเข้ามาช่วยเหลืออิหร่าน และต่อมากลายเป็นการทำสงครามพันธุ์ผสม เช่น การใช้สารเคมี หรือเชื้อโรค หรือไซเบอร์ หรืออื่นๆเพื่อป้องกันตนเองหรือโจมตีอิสราเอล ก็จะเป็นความเสียหายกระจายไปทั่วโลก
ผู้นำการเงินการธนาคารของโลกติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ซ้ำเติมกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง และเรื่องใหญ่เป็นโจทย์ที่ยังค้างอยู่ คือ นโยบายภาษีอากรของ Trump 2.0 ที่อยู่ในการผ่อนปรนชั่วคราวและจะกลับมาเป็นอัตราสูงขึ้นหากเจรจากันไม่สำเร็จในอีกไม่กี่สัปดาห์
บางครั้งก็จะมีข่าวประปรายว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนนั้นเป็นไปด้วยดีและมีโอกาสที่จะผ่อนหนักให้เป็นเบา เริ่มค้าขายกันในสินค้าบางส่วนที่ทั้งสองฝ่ายถือว่าเป็นความจำเป็น และอัตราภาษีจะไม่รุนแรงอย่างที่เคยประกาศไว้ แต่หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นทุกครั้งก็จะมีการ ออกมาแก้ข่าวว่ายังไม่ได้คืบหน้าไปถึงไหนและต่างฝ่ายต่างกล่าวหากันว่าละเมิดสิ่งที่ตกลงกันไว้
การประชุมเด่นที่เห็นล่าสุดนั้นคือการประชุมของกลุ่ม G7 ที่แคนาดา ซึ่งสหรัฐอเมริกาถือโอกาสประกาศข่าวดีว่า ได้ตกลงเรื่องภาษีศุลกากรกับสหรัฐอาณาจักรเรียบร้อยแล้ว และเป็นตัวอย่างที่ดีให้ประเทศอันอื่นใช้เป็นแนวทาง ส่วนรายละเอียดนั้นยังต้องศึกษากันต่อไป อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญหลายกลุ่มวิจารณ์ว่าเป็นเพียงการแสดงมากกว่าจะเป็นรายละเอียดอย่างจริงจัง ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลอเมริกันชุดนี้ลดลงมากจนแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว
สถานการณ์นอกประเทศซ้ำเติมกับการเมืองที่ผันผวนในประเทศ นำมาสู่คำถามว่า เราควรจะตัดสินใจเศรษฐกิจส่วนตัวและในครอบครัวอย่างไร วิกฤตปัจจุบันนั้นรุนแรงมากแค่ไหน จะดีขึ้นหรือไม่ หรือจะเลวร้ายต่อไปอีกนาน สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือเรายึดหลักการกระจายความเสี่ยง ประหยัดมัธยัสถ์ ดูแลเรื่องที่สำคัญตามลำดับก่อนหลังไปอีกระยะหนึ่งครับ
ที่มา.. https://www.bangkokbiznews.com/blogs/finance/stock/1185857