ห้องเม่าปีกเหล็ก

“Credit Rating” สิ่งที่ นักลงทุนหุ้นกู้ ควรรู้

โดย จอมโจรลูแปง
เผยแพร่ :
305 views

“Credit Rating” สิ่งที่ นักลงทุนหุ้นกู้ ควรรู้ - BillionMoney

 

หากพูดถึงการลงทุนในหุ้นกู้

นอกจากผลตอบแทนดอกเบี้ยที่เราจะได้รับแล้ว

สิ่งสำคัญกว่านั้นก็คือ โอกาสที่เราจะได้รับเงินต้นคืน

ซึ่งหนึ่งในข้อมูลที่จะบอกเราว่า หุ้นกู้ที่เราไปลงทุนนั้น มีความเสี่ยงที่จะโดนเบี้ยวหนี้แค่ไหน

ก็คือ “Credit Rating” หรือ “อันดับความน่าเชื่อถือ”

แล้ว Credit Rating มันคืออะไร

BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ

หุ้นกู้ คือ ตราสารหนี้ประเภทหนึ่ง ที่มีผู้ออกคือบริษัทเอกชนที่ต้องการกู้ยืมเงิน จากผู้ที่มาซื้อหุ้นกู้

โดยจะมีการจ่ายผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยตามที่ตกลงกัน รวมถึงจะชำระเงินต้นคืนเมื่อครบกำหนด ให้กับผู้ถือหุ้นกู้

และสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับการลงทุนในหุ้นกู้ก็คือ Credit Rating

ซึ่งเป็นการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ออกหุ้นกู้ เพื่อสะท้อนถึงคุณภาพของหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทนั้น ๆ รวมไปถึงความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้

โดย Credit Rating จะถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ

1. Investment Grade หรือ กลุ่มน่าลงทุน (AAA ถึง BBB-)

2. Speculative Grade หรือ กลุ่มเก็งกำไร (BB+ ถึง D)

สำหรับการดูอันดับความน่าเชื่อถือ ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน

ซึ่ง Credit Rating ก็จะไล่ไปตั้งแต่ความเสี่ยงระดับต่ำสุด คือระดับ AAA

ไปจนถึงความเสี่ยงระดับสูงสุด ซึ่งก็คือ ระดับ D หรือระดับที่บริษัทได้ผิดนัดชำระหนี้ไปแล้ว

โดยทั่วไปแล้วบริษัทที่มีความเสี่ยงต่ำ จะมีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้น้อย

อัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทนั้น ๆ ก็จะอยู่ในระดับต่ำ

ในทางกลับกัน บริษัทที่มีความเสี่ยงสูง ก็จะมีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้มากกว่า

ซึ่งหากจะดึงดูดนักลงทุน ให้ยอมแลกกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

บริษัทผู้ออกหุ้นกู้ก็จะกำหนดอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้ให้สูงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่า พันธบัตรรัฐบาลจะไม่มี Credit Rating แม้จะเป็นตราสารหนี้เหมือนกับหุ้นกู้ก็ตาม

เพราะรัฐบาลมีความน่าเชื่อถือมากที่สุดในประเทศ จึงพูดได้ว่าพันธบัตรรัฐบาลเป็นตราสารหนี้ที่ไม่มีความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit risk free)

แล้วสงสัยกันไหมว่า ใครเป็นคนจัด Credit Rating ?

หน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือ จะเรียกกันว่า “Credit Rating Agency”

ในประเทศไทยจะมี 2 ผู้จัดอันดับ ได้แก่

- บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

- บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ขณะที่ในต่างประเทศนั้นจะมี 3 ผู้จัดอันดับหลัก ได้แก่

- Moody's

- S&P

- Fitch Ratings

ทั้งสามรายนี้จะถูกเรียกว่า “The Big Three Credit Rating Agencies” ถือเป็นสถาบันการจัดอันดับที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดโลกรวมกันกว่า 95%

โดยบริษัทจัดอันดับ Credit Rating จะมีการจัดอันดับที่คำนึงถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ดังนี้

- ความเสี่ยงของผู้ออกหุ้นกู้ ว่ามีลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัท ผลประกอบการ รวมถึงปัจจัยภายนอกที่มากระทบกับบริษัท เพื่อดูความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท

- และความเสี่ยงของตัวหุ้นกู้เอง ว่ามีเงื่อนไขเป็นอย่างไร เช่น หุ้นกู้ด้อยสิทธิหรือไม่ด้อยสิทธิ หุ้นกู้มีประกันหรือไม่มีประกัน สิทธิในการไถ่ถอนก่อนกำหนดของผู้ออกหุ้นกู้ หรือสิทธิในการเลื่อนจ่ายดอกเบี้ย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม Credit Rating ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ตามปัจจัยต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบกับบริษัท

สุดท้ายแล้ว ก็ต้องบอกว่า Credit rating สามารถสะท้อนความเสี่ยง ของการลงทุนในหุ้นกู้ได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

ซึ่งยังมีประเด็นความเสี่ยงอื่น ๆ ที่เราต้องพิจารณาประกอบการลงทุนอีกด้วย..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ รู้ไหมว่า หุ้นกู้บางประเภทก็ไม่มีการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ “Non-Rated Bond”

โดยในประเทศไทยก็มีหุ้นกู้ประเภทนี้ออกมาเสนอขาย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนบางประเภท เช่น นักลงทุนสถาบัน หรือนักลงทุนที่มีเงินลงทุนสูง (High Net Worth)

และแม้หุ้นกู้ประเภทนี้จะมีความเสี่ยงที่สูง แต่ก็มักจะให้ผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน..

 

 


จอมโจรลูแปง