ห้องเม่าปีกเหล็ก

โศกนาฏกรรมหุ้นความงาม

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
65 views

ยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า เพราะเหตุใด หุ้น บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด ( มหาชน ) หรือ BEAUTY จึงถูกถล่มขายจนแหลกลาญ ราคาทรุดลงสร้างจุดต่ำสุด นับแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งที่เคยเป็นหุ้นที่ดี มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

การเทขายหุ้น BEAUTY ตั้งแต่เปิดฉากตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากถูกลากขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดในรอบ 1 ปี ที่ราคา 23.70 บาท/หุ้น ในวันที่ 30 เมษายน 2561 โดยราคาทรุดลงต่อเนื่อง

ล่าสุดวันที่ 4 กรกฎาคม ปิดที่ 9.10 บาท/หุ้น ถูกทุบลงติดฟลอร์ 30 % โดยปรับตัวลงจากจุดสูงสุดประมาณ 60 % และ เปิดตลาดในวันที่ 5 กรกฎาคม ก็ยังถูกกระหน่ำขาย ราคาทรุดหนักลงไปอีก

ไม่มีข่าวร้ายที่ส่งผลกระทบกับ BEAUTY อย่างชัดเจน ส่วนข่าวลือต่าง ๆ นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ได้ออกมาแถลงปฏิเสธข่าวลือทั้งหมดแล้ว

แต่ไม่อาจหยุดยั้งแรงขายได้ ไม่อาจเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา

ผู้ถือหุ้น BEAUTY จำนวน 19,803 รายอยู่ในภาวะตกสวรรค์ ไม่มีใครตั้งตัวหนีการดิ่งเหวของราคาหุ้นได้ทัน และไม่มีใครคิดว่า หุ้นธุรกิจความงามตัวนี้ จะถูกทุบจนยับเยิน

ความเคลื่อนไหวในด้านลบของ BEAUTY มีเพียงการทยอยระบายหุ้นออกของกลุ่ม “ไกรภูเบศ” เท่านั้น 

ช่วงที่หุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2555 หลังจากนำหุ้นเสนอขายนักลงทุนทั่วไปในราคา 8 บาท จากพาร์ 1 บาท ( ปัจจุบันปรับพาร์เหลือ 10 สตางค์ ) กลุ่มไกรภูเบศถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 70 % ของทุนจดทะเบียน แต่ทยอยขายออก จนปัจจุบันถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 20 % ของทุนจดทะเบียน

โดยกลุ่มไกรภูเบศโกยเงินไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท

หุ้นในกลุ่มความงามหรือธุรกิจเครื่องสำอาง เป็นหุ้นยอดนิยมของนักลงทุนกลุ่มล่าสุด นับแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ราคาปรับตัวยืนเหนือราคาจองทั้งสิ้น นักวิเคราะห์เชียร์กันตามกระแสสนั่นหวั่นไหว และผลประกอบการบริษัทกลุ่มความงามเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะ BEAUTY ซึ่ง 3 ปีย้อนหลัง กำไรสุทธิเติบโตตลอด รวมทั้งไตรมาสแรกปีนี้

แต่หลังจากหุ้นกลุ่มความงามรุ่นพี่อย่าง BEAUTY ถูกถล่มจนราคาทรุดจมดิน หุ้นกลุ่มความงามรุ่นน้องที่เข้าจดทะเบียนตามมาก็เจอลูกหลงไปด้วย ถูกเทขายไล่เป็นลูกระนาด

หุ้นบริษัท ดู เดย์ ครีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ซึ่งเพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 25 ธันวาคม 2560 ราคาจอง 53 บาท และเคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ 121 บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 แต่หลังจากนั้นราคาปรับตัวลง และ ถูกเทขายหนักในเวลาไล่เลี่ยกับการที่ BEAUTY ถูกถล่ม จนราคาหลุดจองไปเรียบร้อย

ล่าสุดวันที่ 4 กรกฎาคมลงมาปิดที่ 51.75 บาท และเช้าวันที่ 5 พฤษภาคมยังถูกเทขายต่อ

ส่วนหุ้น บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD ซึ่งเข้ามาซื้อขายหมาด ๆ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ราคาจอง 9.30 บาท/หุ้น และเคยขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดที่ 15.90 บาท แต่ถูกถล่มพร้อม ๆ กับหุ้นกลุ่มความงามตัวอื่น โดยปิดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ 12.90 บาท และ เช้าวันที่ 5 กรกฎาคมก็ยังถูกทุบรูดลงต่อ

หุ้นกลุ่มความงาม ขณะนี้ไม่เหลือความงดงามใด ๆ จากที่เคยเป็นหุ้นกลุ่มยอดนิยมที่นักลงทุนแห่เข้าไปเก็งกำไร กลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนกำลังขายหนีตายออกมา โดยเฉพาะ BEAUTYที่สังหารรายย่อยตายเป็นเบือ และเหลือเชื่อว่า ยังไม่มีใครรู้สาเหตุของการถูกถล่ม

BEAUTY ได้จุดชนวนโศกนาฏกรรมในหุ้นกลุ่มความงาม และตลาดหลักทรัพย์ควรเข้าไปค้นหา ทำความจริงให้ปรากฏว่า

มีใครอยู่เบื้องหลังการทุบ BEAUTYหรือไม่ มีใครที่รู้ข่าวร้ายในหุ้นตัวนี้ และชิงขายหุ้นก่อน 

 

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่  5 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2561

                 2)โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com

 



 


ศักดิ์