ณ ตอนนี้ ในกรุงเทพคงจะไม่มีเรื่องไหนดังไปกว่าเรื่อง รถไฟฟ้า BTS เสีย ทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถเดินทางได้ นี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า รถไฟฟ้า BTS กลายมาเป็น "หัวใจ" ของการเดินทางในกรุงเทพไปซะแล้ว ต่อให้ BTS จะเสียยังไงคนก็ยังต้องกลับมาใช้อยู่เหมือนเดิม อาจจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้มีทางเลือกในการเดินทางมากนัก
ในเรื่องตลาดทุนแล้ว หุ้น BTS ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์จากหุ้น Turn Around กลายมาเป็นหุ้นเติบโตที่มีปันผลโดดเด่นไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าใครติดตามหุ้น BTS อยู่ตลอดเวลาจะเห็นว่า BTS มีการเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจอยู่เรื่อยๆ จนมาลงเอยที่ 4 ธุรกิจใหญ่ คือ
1. ธุรกิจขนส่งมวลชน - รถไฟฟ้า BTS
2. ธุรกิจสื่อโฆษณา - VGI
3. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ - ผ่านบริษัท U City
4. ธุรกิจบริการ - ธุรกิจบัตรแรบบิท พัฒนาซอฟแวร์ในเครือ และเชฟแมนห้องอาหารจีนซึ่งได้ขายกิจการออกไปแล้ว
ในปี 2560 ที่ผ่านมา BTS มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากการให้บริการขนส่งมวลชน โดยรถไฟฟ้า BTS คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 64% รองลงมาเป็นสื่อโฆษณาประมาณ 27% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 5% และธุรกิจบริการอีก 3%
ในอนาคต BTS จะทำอะไรต่อไป ?
ธุรกิจขนส่งมวลชน ต้องยอมรับว่ามีโปรเจคขนาดใหญ่รออยู่ และจะเป็นตัวเร่งผลประกอบการให้ BTS เติบโตได้อีก ส่วนต่อขยายเส้นทางสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ที่จะเปิดให้บริการได้ตลอดสายช่วงเดือน
ธ.ค. 2561 รวมถึงเส้นทางสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) ซึ่งคาดกันว่าจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการช่วงต้นปี 2562
ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจกลุ่มนี้ถือว่าน่าสนใจหลังจากที่ BTS ทยอยเก็บสัดส่วน VGI เพิ่มมากขึ้นบ่งบอกว่ามีความมั่นใจในระดับหนึ่ง ซึ่งผู้บริหารตั้งเป้าไว้ว่าจะมีรายได้แตะ หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจนี้อยู่ในช่วงการปรับโครงสร้าง ทำให้กำไรและรายได้ค่อนข้างผันผวน ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์อีกสักระยะหนึ่ง โดยผู้บริหารจะใช้ U Cityเป็นแกนหลัก
นักวิเคราะห์ว่าอย่างไร
บล. บัวหลวง แสดงความเห็นถึงหุ้น BTS ว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/61 เติบโตได้ดีโดยเฉพาะธุรกิจขนส่ง และสื่อโฆษณา ทำให้ทั้งปียังเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ให้ราคาเหมาะสม 11.7 บาทต่อหุ้น แนะนำ "ซื้อ"
บล. เคจีไอ วิเคราะห์ไว้ว่า"แนวโน้มดูสดใส" โดยเฉพาะธุรกิจรถไฟฟ้าและสื่อโฆษณา ธุรกิจรถไฟฟ้าสามารถขึ้นราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 1.4% จากปีที่แล้วเฉลี่ยทั้่งปี โครงการก่อสร้างสายสีชมพูและเหลืองจะเป็นตัวผลักการเติบโตของ BTS ให้มีมากขึ้น ธุรกิจสื่อมี MACO มาช่วยเสริม และ VGI เองก็ยังดูสดใสต่อไปอีก ให้ราคาเหมาะสมที่ 11.2 บาทต่อหุ้น
บล.ฟิลลิป แนะนำว่า ธุรกิจของ BTS ยังดูดี โครงการส่วนต่อขยาย ธุรกิจสื่อ VGI ที่มีแนวโน้มดูดีอีกทั้งได้ซื้อเคอรี่เข้ามาทำ Synergy กับ VGI จะเป็นตัวผลักดันในอนาคต ให้ราคาเหมาะสม 10.6 บาทต่อหุ้น แนะนำ "ซื้อ"
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) วิเคราะห์ว่ากำไรของ BTS ในปี 2561 จะเติบโตก้าวกระโดดและการปันผลให้กับผู้ลงทุนอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คาดว่าน่าจะให้ผลตอบแทนประมาณ 4.3% แนะนำ "ซื้อ" หุ้น BTS โดยปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 11 บาท
จากอดีตที่ผ่านมา กำไรของ BTS ค่อนข้างผันผวน ทำให้P/E ของหุ้นแกว่งตัวตั้งแต่ 20-50 เท่า ดังนั้นการหันไปดู P/BV อาจจะตรงประเด็นกว่า หุ้น BTS จะมีค่า P/BV อยู่ประมาณ 2 เท่า และปันผลอยู่ราวๆ 3-4% ในขณะที่ Net Margin ของบริษัทถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมากประมาณ 25-30%
ถ้าเราดูจาก IAA Consensus นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่จะแนะนำ ซื้อ หุ้น BTS โดยให้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 10.8 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 10.1 บาท ซึ่งก็ยังสูงกว่าราคาหุ้น BTS ณ ปัจจุบันที่ 9 บาทอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของนักวิเคราะห์ .. ประเด็นสำคัญอยู่ที่นักลงทุนจะมองหุ้น BTS เป็นอย่างไร ถ้ามองว่าเป็นบริษัทที่ผูกขาด คนกรุงเทพไม่ได้มีตัวเลือกมากนักในการเดินทาง พื้นฐานดี กำไรยังดีอยู่ การลงรอบนี้ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่จะเข้าลงทุน
ในทางกลับกัน ถ้านักลงทุนมองว่า BTS เป็นบริษัทที่ใช้เงินลงทุนสูง กำไรที่ดูไม่แน่ไม่นอน และในสายตาของผู้บริโภคที่ดูไม่ค่อยจะดีนัก ตรงนี้ก็อาจจะเป็นความเสี่ยงได้
แต่สิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้จริงๆ คือ BTS คือหัวใจของการเดินทางของคนกรุงเทพไปแล้วจริงๆ ....