ห้องเม่าปีกเหล็ก

CP Group day

โดย ELEVEN7
เผยแพร่ :
90 views

KS Corporate Day : CP Group day

 

เราจัดงาน “CP Group Day” ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศและบริษัท 3 แห่ง ได้แก่ CPALL CPAXT และ CPF เราเชื่อว่าภาพโดยรวมจากการประชุมครั้งนี้เป็นไปในเชิงบวก โดยมีแนวโน้มการบริโภคที่ดีสำหรับผู้ค้าปลีก (CPALL และ CPAXT) และสถานการณ์อุปทานที่ตึงตัวของ CPF

 

CPALL

 

ผู้บริหารมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มในปี 2568 โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะเป็นบวกต่อเนื่อง และตั้งเป้าการเติบโตของอัตรากำไรที่ 20-30bps โดยการเติบโตดังกล่าวจะได้รับแรงหนุนจากยอดขายผลิตภัณฑ์พร้อมดื่ม (RTD) และอาหารพร้อมรับประทาน (RTE) ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสัดส่วนยอดขายบุหรี่ที่ลดลง CPALL มีแผนขยายธุรกิจออนไลน์ผ่านกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคแบบแพ็คใหญ่ “All Grocer” เพื่อเพิ่มยอดขายและกำไรจากทางออนไลน์ในปีนี้

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังตั้งเป้าเร่งจัดส่งสินค้าที่สั่งทางออนไลน์ โดยตั้งเป้าที่จะจัดส่งภายในวันถัดไป สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้ ผู้บริหารระบุว่าการควบคุมต้นทุนยังคงมีประสิทธิภาพ โดยค่าใช้จ่ายเติบโตในอัตราที่ช้ากว่ารายได้ นอกจากนี้ ผู้บริหารไม่ได้แสดงความกังวลอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับโอกาสการเปลี่ยนแปลงเจ้าของแฟรนไชส์ที่อาจเกิดขึ้น โดยเน้นว่าสัญญาแฟรนไชส์ 7-Eleven ในประเทศไทยเป็นแบบไม่มีอายุ และการแก้ไขใดๆ จะต้องได้รับความยินยอมจากทั้ง 2 ฝ่าย

 

CPAXT

 

บริษัทฯ มีมุมมองเชิงบวกต่อความสำเร็จของยอดขายนอกร้าน โดยขึ้นแท่นผู้ค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคออนไลน์อันดับ 1 จากข้อมูลของ Euromonitor ขณะที่ CPAXT รายงานว่ายอดขายออนไลน์เชิง YTD ของบริษัทฯ บรรลุเป้ายอดขายแบบ omnichannel ในปี 2568 ที่ 22% ของรายได้รวมแล้ว โดย SSSG ของเดือน มี.ค. ยังคงเป็นบวกในระดับตัวเลขหลักเดียวต่ำ แม้ว่าการดำเนินงานในประเทศไทยจะค่อยๆ เติบโต แต่การดำเนินงานในมาเลเซียเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งขับเคลื่อนโดยการเน้นที่กลุ่มอาหารสดมากขึ้น และลดอัตราการสูญเสียของสินค้า

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับโครงการ "The Happitat" โดยอาคารสำนักงานและห้างสรรพสินค้าที่ให้บริการอาหารจะเปิดให้บริการในไตรมาส 4/2568 โดยมีสัดส่วน LOI แล้วที่ 50% สำหรับพื้นที่สำนักงาน พื้นที่ค้าปลีกและ "Club Store" ของ Lotus’s คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 1/2569 สำหรับการผนึกกำลังจากการควบรวมกิจการนั้น ความคืบหน้าเป็นไปตามแผน แม้เราจะคาดว่าบริษัทฯ จะได้รับผลประโยชน์ส่วนใหญ่ในครึ่งหลังของปี 2568 ก็ตาม

 

CPF

 

ผู้บริหาร CPF ยืนยันว่าแนวโน้มการดำเนินงานในปี 2568 ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์อุปทานสุกรที่ตึงตัวในภูมิภาคและความต้องการส่งออกไก่เนื้อที่ฟื้นตัวขึ้น ในขณะเดียวกัน ราคาธัญพืชยังคงเอื้อประโยชน์ต่อผู้ผลิตปศุสัตว์ ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ราคาผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้นและต้นทุนธัญพืชที่ลดลงทำให้ความสามารถในการทำกำไรของ CPF เพิ่มขึ้น

 

ขณะที่การดำเนินงานโดยรวมดีขึ้น แม้ว่าธุรกิจในประเทศจะเริ่มทำกำไรได้เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ในไตรมาส 4/2567 การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในหลายประเทศ รวมถึงเวียดนามและกัมพูชา ทำให้ราคาสุกรพุ่งสูงขึ้น และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะใช้เวลา 6-9 เดือนจึงจะกลับสู่ภาวะปกติ ผู้บริหารยังเน้นสัญญาณเชิงบวกจากรัฐบาลเวียดนามเกี่ยวกับความคืบหน้าของกระบวนการจดทะเบียนของ C.P. Vietnam Corp ซึ่งล่าช้ามาเป็นเวลานาน 3-4 ปี เราเชื่อว่าการจดทะเบียนของ C.P. Vietnam Corp จะเป็นปัจจัยสำคัญในการลดภาระหนี้ของ CPF แม้ว่าระยะเวลาจะยังไม่แน่นอนก็ตาม

 

คงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL CPAXT และ CPF ด้วยราคาเป้าหมายที่ 78.0 บาท 38.5 บาท และ 28.4 บาท ตามลำดับ โดย ณ ปัจจุบัน หุ้นทั้ง 3 ตัว ซื้อขายที่เกือบ 2.0SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ CPALL ประมาณ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ CPAXT เล็กน้อย และ 0.3SD สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ CPF

 

 


ELEVEN7