-------------------------------------------------------
บทความตอนที่ผ่านๆ มาอ่านได้จาก: www.chiangmaifx.com/…/93-article-by…/808-price-patterns.html
www.facebook.com/275391639215535/photos/pcb.1603468543074498/1603467323074620/
-------------------------------------------------------
จากตัวอย่างใน Chart 5-1 ของ Mexico Fund คุณจะเห็นว่าปริมาณการซื้อขายค่อยๆ หดตัวลง เมื่อราคาไต่ระดับขึ้นไปจนในที่สุดลักษณะลบทางเทคนิคนี้ก็ถูกยืนยัน เมื่อราคาหลุดจากแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ในช่วงมีนาคม/พฤษภาคม
Chart 5-1 ราคารายวันของ Mexico Fund ระหว่างปี 1995-1996
- ราคาที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในขณะที่ปริมาณการซื้อขายมีแนวโน้มลดลง (รูปที่ 5-4) เป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพราะมันแสดงถึงแนวโน้มที่อ่อนแรงและไม่น่าไว้ใจอันเป็นลักษณะของตลาดหมี ถ้าพบกราฟที่มีลักษณะเช่นนี้ ก็แสดงว่าเราพบหลักฐานชิ้นหนึ่งที่บ่งชี้ว่านี่เป็นตลาดขาลงหรือตลาดหมีแล้วแน่นอน นอกจานี้ปริมาณการซื้อขายยังช่วยชี้วัดความกระตือรือร้นของผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อปริมาณการซื้อขายหดตัวแต่ราคากลับเพิ่มขึ้น ลักษณะแบบนี้ย่อมมาจากผู้ขายยังไม่อยากขาย แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ในที่สุดแนวโน้มก็จะไปถึงราคาที่ผู้ขายอยากจะขาย หลังจากนั้นราคาจะถูกลากขึ้นไปในขณะที่อยู่ในเส้นแนวโน้มขาลง เห็นได้จากปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่ราคาเริ่มลดลง
รูปแบบนี้จะแสดงในรูปที่ 5-5 ซึ่งคุณจะเห็นว่าปริมาณการซื้อขายเริ่มสูงขึ้นในขณะที่ราคาเริ่มลดลง ในสถานการณ์เช่นนี้มันไม่จำเป็นต้องมีปริมาณซื้อขายสูงตลอดเส้นที่เป็นขาลงอย่างในกราฟ แค่กราฟแท่งของปริมาณซื้อขายสูงขึ้นอีกสักสองสามแท่งหลังจากราคาผ่านจุดสูงสุดก็พอ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนี่ยังถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ปกติมาก
รูปที่ 5-4 ราคาที่สูงขึ้นในขณะที่ปริมาณซื้อขายลดลงในภาวะตลาดขาลง
รูปที่ 5-5 ราคาที่ลดลงในขณะที่ปริมาณการซื้อขายสูงขึ้นในภาวะตลาดขาลง
รูปที่ 5-6 เราจะเห็นลักษณะการเปลี่ยนแปลงปริมาณการซื้อขายระหว่างตลาดกระทิงและตลาดหมี ส่วน Chart 5-2 เป็นกราฟของ Coors ที่แสดงการไล่ราคารอบสุดท้ายพร้อมกับแนวโน้มการลดลงของปริมาณการซื้อขาย เมื่อราคาหลุดแนวรับด้านล่างของเส้นแนวโน้ม ปริมาณซื้อขายก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในกรณีนี้เราได้กำหนดปริมาณการซื้อขายของตลาดหมีอยู่ค่าหนึ่งที่จะมีค่าอื่นๆ ตามมาในทันที Chart 5-3 สำหรับ Radio Shack แสดงการไล่ราคาหลายครั้งในตลาดหมีที่ราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในขณะที่ปริมาณการซื้อขายลดลง
รูปที่ 5-6 ลักษณะปริมาณการซื้อขายที่มีการเปลี่ยนแปลงในตลาดกระทิงและตลาดหมี
Chart 5-2 ราคารายวันของ Coors ในระหว่างปี 2000-2001
Chart 5-3 ราคารายวันของ Radio Shack ในระหว่างปี 2000-2001
- บางครั้งทั้งราคาและปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และเป็นการเพิ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป ที่จะมีระยะการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตอนท้ายแบบเอ็กโพเนนเชียลหลังจากการแนวโน้มนี้จบลงทั้งปริมาณการซื้อขายและราคาก็จะปรับตัวลงอย่างแรงพร้อมกัน การเคลื่อนไหวแบบนี้เรียกว่า exhaustion move และเป็นลักษณะของการกลับตัวของแนวโน้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีแรงหนุนจากรูปแบบราคาสักหนึ่งหรือสองแท่ง (จะกล่าวถึงในบทต่อๆ ไป) ความสำคัญของการกลับตัวของแนวโน้มขึ้นอยู่กับขนาดการเพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้และระดับการเพิ่มปริมาณการซื้อขาย เห็นได้ชัดว่า exhaustion move ที่ใช้เวลา 4-6 วันในการพัฒนาจะไม่มีความสำคัญเท่ากับ exhaustion move ที่ใช้เวลาเป็นสัปดาห์ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า parabolic blow-off และมีลักษณะดังในรูปที่ 5-7 แต่น่าเสียดายที่ exhaustion move หรือ blow-off ทั่วไปไม่ได้แยกแยะออกได้ง่ายและชัดเจนอย่างนี้ (ใช่เรื่องง่ายที่จะกำหนดเส้นแนวโน้มหรือรูปแบบราคาให้ชัดเจน) ดังนั้นเราถึงไม่สามารถระบุระยุสิ้นสุดแนวโน้มได้จนกว่าจะถึงช่วงเวลาหรือหลังจากที่ปริมาณการซื้อขายและราคาได้เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุดแล้ว
รูปที่ 5-7 Volume and a parabolic blow-off
------จบบทความแปล Price Pattern ตอนที่ 9, www.chiangmaiFX.com------