ห้องเม่าปีกเหล็ก

ครึ่งปีแรก 'คนไทยกุมเงิน-กุมมือ'

โดย missวิมลรัตน์
เผยแพร่ :
23 views

ครึ่งปีแรก 'คนไทยกุมเงิน-กุมมือ' ใช้จ่ายลดลง ดูเชิงไม่รีบช้อป

By สาวิตรี รินวงษ์

ครึ่งปีแรกคนไทยมีความสุขทรงตัว 3 เดือนข้างหน้ายังไม่ฟื้น ด้านการใช้จ่ายลดลงทุกช่วงวัยเกือบทุกภาค เข้าสู่โหมด "กุมเงิน-กุมมือ" เน้นดูไม่รีบช้อป เก็บเงินสำรองใช้ฉุกเฉิน

สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) เผยผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคฉบับที่สามประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2568 ทั้งการใช้จ่าย ดัชนีความสุข รวมถึงแนวโน้มการใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ผ่านกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงจำนวน 1,200 คน อายุ 20-59 ปี จาก 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ

ผ่านครึ่งปีแรก 2568 พบว่าดัชนีความสุขของคนไทยอยู่ในระดับ “ทรงตัว” ด้วยคะแนน 64 เท่ากับช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุผลเพราะสถานการณ์โลกยังไม่น่าไว้วางใจ และยังไม่มีโมเมนต์ได้ปลดล็อกอารมณ์ เหมือนปีที่แล้ว ซึ่งมีทั้งกระแส T-POP และการบูมของ Soft Power

ทั้งยังเผชิญปัญหาด้านอื่น ๆ มากมายรายล้อมสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหว จนทำให้เกิดตึกถล่ม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีมุขใหม่ๆหลอกลวงผู้คนได้ตลอดเวลา รวมถึงการจับตาการกลับมาของประธานาธิบดีสหรัฐฯที่มาพร้อมนโยบายเขย่าเศรษฐกิจการค้า อาจเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและทั่วโลกโดยเฉพาะนโยบายขึ้นภาษีนำเข้า

 

 

สำหรับ 3 เดือนข้างหน้า แนวโน้มผู้บริโภค 52% หรือเพิ่มขึ้น 1% บอกว่าจะสุขเท่าเดิม และ 41% อัตราลดลง 1% มองว่าจะสุขมากชึ้น และ 7% มองว่าแนวโน้มความสุขน้อยลง

ด้านการใช้จ่ายตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมิถุนายน 2568 เมื่อคนไทยต้องฝ่าฟันทุกอุปสรรค เจอศึกหนักจากประเด็นเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น เรื่องมาตราการกำแพงภาษีนำเข้าจากสหรัฐ และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้มีแนวโน้มใช้จ่ายอยู่ที่ 63 คะแนน ลดลง 2 คะแนน เทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมาอยู่ระดับ 65 คะแนน สะท้อนภาพชัดเจนว่าคนไทยยังระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายมากขึ้น ซื้อเฉพาะของจำเป็น ซื้อของฮีลใจแต่ในขณะเดียวกันก็ยังเก็บเงินสำรองจ่ายสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

ทั้งนี้ นิยามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคือคนไทยหลาย ๆ คนอยู่ในภาวะ “กุมเงิน-กุมมือ” เพื่อเตรียมพร้อมรับตั้งรับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ซึ่งในช่วงเวลาแบบนี้ แบรนด์เองควรจะต้องเริ่มออกมาช่วยผู้บริโภคชาวไทยเพื่อกระตุ้นให้ออกมาใช้ชีวิตเติมความสุขให้กับตนเองและครอบครัว

“ครึ่งปีแรก คนไทยไม่รีบช้อป ขอซุ่มอยู่ในโหมดดูเชิง เพราะเจอทั้งข้าวของแพง เศรษฐกิจผันผวน แผ่นดินไหว คนไทยเลยกุมมือแน่น ใช้จ่ายน้อยลงกว่าปีที่แล้ว แม้จะเข้าเทศกาลเปย์ประจำปี ตั้งแต่ตรุษจีน สงกราต์ ก็ยังไม่มีฟีลเสียเงิน พอเจอแผ่นดินไหวเดือนเมษายน ยิ่งโยกเงินไปดูแลบ้าน ซ่อมแซมก่อนช้อป พอมาถึงเซลล์กลางเดือนหรือ Mid-Month Sale เดือนมิถุนายน เลยกลายเป็นแค่งานเน้นไปส่องไม่เน้นสอย”

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ครึ่งปีหลังโมเมนตัวอาจกลับมาได้ จากมีเทศกาลสำคัญ เช่น วันแม่ ช่วงหยุดยาวเดือนตุลาคม ต่อเนื่องไปถึงปีใหม่

 

 

แนวโน้มความต้องการใช้จ่ายภาพรวมลดลง เจาะลึกหมวดสินค้าที่ต้องการช้อป 10 ประเภท เป็นดังนี้

กลุ่มที่คาดว่าใช้จ่ายลดลง ได้แก่ เสื้อผ้าลดลง 2% เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านลดลง 3% ผลิตภัณฑ์ความงามลดลง 1% ท่องเที่ยวภายในประเทศลดลง 3% ทานอาหารนอกบ้านลดลง 2% และช้อปรองเท้า กระเป๋าลดลง 1% ส่วนที่ “ทรงตัว” คือโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ขณะที่หมวดสินค้าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ได้แก่ อาหารเพิ่มขึ้น 8% ของใช้จำเป็นเพิ่มขึ้น 5%

ทั้งนี้ ความเห็นจากผู้บริโภคที่ทำการสำรวจ ให้เหตุผลน่าสนใจ ตัวอย่างเพศหญิงอายุ 28 ปี อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ระบุว่า กิเลสยังเยอะเหมือนเดิม แต่ต้องมีสติมากขึ้นตอนช้อป เพราะคิดไปเผื่ออนาคตตอนสิ้นเดือนด้วย , เพศหญิงอายุ 43 ปี อาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ ระบุว่า เศรษฐกิจแบบนี้ค่าครองชีพแพงขึ้นมาก เลยพยายามลดค่าใช้จ่ายกับของชิ้นใหญ่ที่งดเที่ยวก่อน, เพศหญิง อายุ 32 ปี อาศัยอยู่ที่สระบุรี ระบุว่า เล็งโปรฯของใช้จำเป็นเน้นซื้อมาตุนไว้ เช่น น้ำยาซักผ้ามือ 1 แถม 1 อีก 2 เดือนค่อยซื้อใหม่ ช่วยประหยัดได้มาก , เพศชาย อายุ 22 ปี อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ บอกว่า คิดว่าคงใช้มือถือเครื่องนี้ไปยาวๆอีกสักพัก ยังไม่มีแพลนซื้อใหม่ และเพศชาย อายุ 54 ปี อาศัยอยู่ที่ขอนแก่น บอกว่า เน้นจัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง ถ้าอะไรที่ฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นก็เอาไว้ก่อน

 

 

นอกจากนี้ แนวโน้มการใช้จ่ายภาพรวมยังลดลงทุกช่วงอายุ ได้แก่ อายุ 20-29 ปี ต้องการใช้จ่ายลดลง 2% อายุ 30-39 ปี ต้องการใช้จ่ายลดลง 2% อายุ 40-49 ปี ต้องการใช้จ่ายลดลง 1% และอายุ 50-59 ปี ต้องการใช้จ่ายลดลง 4% มากสุด และผู้บริโภคเกือบทุกภาคต้องการใช้จ่ายลดลง โดยภาคกลางลดงมากสุด 6% -Itmujภาคใต้ที่ต้องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 3% เพราะมีอานิสงส์จากซีรีย์เดอะ ไวท์ โลตัส ผู้คนต้องการตามรอยคอนเทนต์โปรด

จากผลสำรวจข้างต้น อรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ และชิษณุพงศ์ บุญสวัสดิ์กุลชัย เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) จึงแนะนำแบรนด์วางแผน ปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้

1.จับใจผู้บริโภคหลังแผ่นดินไหวด้วยความสบายใจที่ตรงจริตแต่ละวัย

สำหรับวัย 20 - 29 ปี วัยนี้เพิ่งเริ่มใช้ชีวิต บ้าน คอนโดหลังแรก ต้องมั่นใจเรื่องความปลอดภัย แบรนด์อสังหาฯ ควรชูจุดแข็งด้านโครงสร้างและการรับประกัน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค

วัย 30 - 39 ปี ตั้งสติเพราะต้องมีสตางค์ ในช่วงวัยนี้สนใจเรื่องการเงิน แบรนด์สินค้าจำเป็นควรออกโปรเพื่อช่วยลดภาระให้ต่อผู้บริโภค เช่น "คุณจ่าย เราช่วย"

วัย 40 - 49 ปี ติดตามข่าวสารใกล้ชิดเพื่อคลายกังวล เพราะวัยนี้ตามข่าวใกล้ชิด อยากใช้เวลากับครอบครัว แบรนด์ควรออกแคมเปญที่ช่วยสานสัมพันธ์ครอบครัว หรือลุ้นชิงโชคให้ครอบครัวได้ไปเที่ยวและใช้เวลาร่วมกัน

วัย 50 - 59 ปี รุ่นใหญ่ ใจต้องนิ่ง ซึ่งช่วงวัยนี้จะเน้นวางแผนการรับมือชีวิต แบรนด์ประกันภัยควรสร้าง Workshop ให้วัยเก๋า ได้เรียนรู้การรับมือเพื่อปล่อยวางและมีความสุขกับช่วงเวลาของวัยเกษียณ

2.ฟื้นฟูความสุขของคนไทย ด้วยแคมเปญ “หน่วยกู้ใจ” การตลาดแบบ Feel Good เพื่อช่วยฟื้นพลังใจให้คนไทยยิ้มได้ ด้วยแนวคิด “หน่วยกู้ใจ” แบบเคลื่อนที่ โดยแบรนด์ต่าง ๆ สามารถ collab กับ อินฟลูเอนเซอร์ หรือศิลปิน T-Pop เพื่อจัดตั้งทีมหน่วยกู้ใจที่จะไปเซอร์ไพรส์แฟน ๆ หรือคนไทยในพื้นที่ที่ได้รับแจ้งว่ามีความเครียดอยู่สูง เช่น ป้ายรถเมล์, สถานีรถไฟฟ้า, สี่แยกไฟแดงที่รถติด, ตึกออฟฟิศ หรือ มหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะพาคนของใจไปเซอร์ไพรส์แล้วยังสามารถทำ Voucher หรือ Coupon ส่วนลดพิเศษของแบรนด์ไปแจกเพื่อสร้างยอดขายไปพร้อมกัน

 

เนื้อหาที่มาจาก..  https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1186222

 


missวิมลรัตน์