โบรกเผยหุ้นร้านอาหารไตรมาส 4/68 ยังฟื้นตัวจำกัด แม้เข้าสู่ไฮซีซั่น
- แนวโน้มกลุ่มร้านอาหารไตรมาส 4/68 คาดว่าจะดีขึ้น q-q จากปัจจัยบวกด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัว, จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และเป็นช่วง High season ของการจับจ่าย
- อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวยังถูกจำกัด เนื่องจากบางบริษัท เช่น AU และ OKJ ยังมีอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบในระดับสูง ทำให้คาดว่ากำไรจะยังคงหดตัว y-y
- ราคาหมูที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นในเดือน พ.ย. ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันด้านต้นทุนของกลุ่มในไตรมาส 4/68
- บล.ลิเบอเรเตอร์ คงน้ำหนักการลงทุน "น้อยกว่าตลาด" เนื่องจากแนวโน้ม SSSG ของบางบริษัทยังน่าเป็นห่วง และแนะนำลงทุนเฉพาะผู้นำกลุ่ม โดยเลือก MAGURO เป็นหุ้นเด่น
จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มร้านอาหารกำไรไตรมาส 3/68 สวยแค่บางบริษัท โดย SSSG ของ MAGURO ติดลบน้อยลงเหลือ -2.7% จาก -9.8% ในไตรมาส 2/68 และกำไรสุทธิขยายตัวทั้ง q-q และ y-y ต่อแม้มีรายการพิเศษมากดดัน ส่วน SSSG ของ M พลิกเป็นบวก +5.4% แล้ว อย่างไรก็ดีกำไรสุทธิหดตัวทั้ง q-q และ y-y จากการแข่งขันในธุรกิจสุกี้ชาบูที่ยังดุเดือด
ส่วน SSSG ของ AU และ OKJ ยังติดลบลึกที่ -21.3% และ -23.0% ตามลำดับ โดยผู้บริหาร OKJ เผย SSSG ช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 4/68 ฟื้นตัวเล็กน้อย QTD แต่เรามองว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/68 จะยังฟื้นตัว q-q ไม่มาก
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟิ้นแล้วเป็น 53.2 จุดในเดือน พ.ย. หลังทำจุดต่ำสุดในเดือน ส.ค. (ที่มา : UTCC) เรามองเป็น “บวก” ต่อทั้งกลุ่ม อย่างไรก็ดีดัชนีในปัจจุบันยังต่ำกว่าเมื่อเดือน ม.ค.2568 ที่ 59.0 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตั้งแต่การแพร่ระบาดของ COVID-19
สำหรับนักท่องเที่ยวไตรมาส 4/68 ฟื้นช่วง 2 เดือนแรกจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัว +5.7% q-q เป็น 5.5 ล้านคน เนื่องจากเป็น High season หลักๆจากเป็นชาวยุโรป +44.3% q-q เป็น 1.5 ล้านคน เรามองจะส่งผล “บวกเล็กน้อย” ต่อกลุ่ม โดยเฉพาะที่มีสาขาใน กทม. เป็นส่วนใหญ่ อาทิ MAGURO, ZEN, AU และ OKJ
โดยแนวโน้มไตรมาส 4/68 ทั้งกลุ่มจะดีขึ้น q-q จากดัชนีผู้บริโภคที่กำลังฟื้น สะท้อนภาพศก. ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว, นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น q-q และเป็นช่วง High season ที่คนออกมาจับจ่ายก่อนเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ดีเราคาดกำไรของบางบริษัทที่ SSSG ยังติดลบลึก จะยังหดตัว y-y ขณะที่ราคาหมูเดือนพ.ย. เริ่มปรับขึ้น +16.3% จากเดือนต.ค. ซึ่งทำจุดต่ำสุดของปี เป็นแรงกดดันกลุ่มในไตรมาส 4/68
อย่างไรก็ตาม เราคงน้ำหนักน้อยกว่าตลาด แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัว และไตรมาส 4/68 เป็น High season แต่แนวโน้ม SSSG ของบางบริษัทยังน่าเป็นห่วง เราจึงแนะนำลงทุนเฉพาะผู้นำของกลุ่มเราชอบเพียง MAGURO ซื้อ 30.75 บาท จาก SSSG ในไตรมาส 3/68 ที่ติดลบน้อยกว่าคาดที่ -2.7% ปลุก SSAMTHING TOGETHER ที่ซบเซาในช่วงก่อนหน้าด้วยการทดลองเปลี่ยนร้านเป็นรูปแบบบุฟเฟ่ต์ 2 สาขา ซึ่งมีกระแสตอบรับดี และยังขยายแบรนด์ใหม่ต่อเนื่อง ปัจจุบันขยายสาขาได้ครบ 53 สาขาตามแผนแล้ว และสิ้นปีเตรียมเปิด TONKATSU AOKI เพิ่มอีก 2 สาขา นอกเหนือจากแผน ปัจจุบันเทรดที่ PEG 26E ต่ำเพียง 0.46x เราคาดแนวโน้มปี 2569 สดใส
ที่มา.. https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1212120