เรื่องนี้ไมเ่กี่ยวกับหุ้น แต่อาจมีคนเล่นหุ้นบางคนที่ค้างชำระค่าโทรศัพท์มือถือ หรือค่าใช้บริการเครือข่าย ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรืออาจเห็นว่าเป็นเพียงเงินจำนวนเล็ก ๆ หลักร้อย หลักพันนิด ๆ แล้วคิดปล่อยเลยตามเลย หรือเพียงแค่ไม่พอใจการให้บริการ ก็ทึกทักไม่จ่ายเงินเอาดื้อ ๆ บ้างก็คิดเองว่า เงินจำนวนนิดหน่อย ไม่จ่ายก็ไม่เห็นเป็นไร เจ้าหนี้เป็นบริษัทใหญ่โต ไม่มาสนใจทวงกับเงินแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ นี่หรอก
พอเวลาผ่านไป จากแกล้งลืมไม่จ่าย กลายเป็นลืมไปจริง ๆ ว่า ครั้งหนึ่งตัวเองเคยติดหนี้ค่าบริการและหนีหนี้
เคส “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” มีตัวอย่างความหายนะให้เห็นจนเป็นข่าวโด่งดัง ถึงขั้นถูกยึดที่ดิน ทำเอาหมดตัวมาแล้ว ซึ่งเคสแบบนี้ บางคนอาจมองว่าทำกันเกินไป ติดหนี้ไม่เท่าไร ทำไมต้องให้จ่ายหนักเกินมูลหนี้
แต่ในมุมกฎหมายมองว่า เป็นเหตุเป็นผลอันสมควร กฎหมายยุติธรรมแล้ว เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย และยังเป็นเคสตัวอย่างประเภทเขียนเสือให้ลูกหนี้ทุกคนกลัว ไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่างอีกด้วย
ในเรื่องนี้ นักกฎหมายอย่างคุณธเนศณัฏฐ์ สุคนธพันธ์ ให้ข้อมูลเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องกับลูกหนี้ทั้งหลาย จะได้เลิกเข้าใจผิด จนทำให้เรื่องเล็ก ๆ บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป บอกเล่ากันเป็นข้อ ๆ ตามนี้
1. ความเชื่อ : ใช้ไม่ครบสัญญาก็ได้ แค่โดนเรียกเก็บค่าบริการไม่เกิน 2 เดือน
ถ้าเลิกใช้ก็เอาซิมการ์ดออก หรือถอดปลั๊กอุปกรณ์ไปเลย ผู้ให้บริการจะระงับสัญญาณและยกเลิกสัญญาไปเอง และเรียกเก็บค่าบริการได้อีกไม่เกิน 2 เดือนหลังเลิกใช้
ความจริง : ใช้ไม่ครบสัญญา ค่าบริการยังคงเดินตลอด
ผู้ให้บริการไม่สามารถระงับสัญญาณหรือยกเลิกสัญญาบริการเองได้ หากปล่อยทิ้งซิมการ์ดหรือปลดอุปกรณ์ไว้เฉย ๆ ค่าบริการรายเดือนก็จะเดินไปเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาของสัญญาที่ทำไว้ จึงควรใช้บริการให้ครบตามสัญญา หากจะยกเลิก ควรติดต่อแจ้งให้ผู้ใหบริการคืนอุปกรณ์ตามเงื่อนไข และชำระค่าบริการให้ครบถ้วน
2. ความเชื่อ : ซื้อเครื่องติดสัญญา เลิกใช้ก่อนก็ได้ ไม่ถูกฟ้อง
เอาเครื่องไปปลดล็อกและเปลี่ยนซิมได้เลย ไม่ต้องสนใจว่าตอนซื้อทำสัญญาไว้นานเท่าไร เพราะยังไงการดำเนินคดีมีอายุความแค่ 2 ปี
ความจริง : ผู้ให้บริการสามารถทวงหนี้และดำเนินคดีได้
ผู้ให้บริการมีสิทธิดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ตั้งแต่การติดตามทวงถามให้ชำระหนี้หรือเงินต่าง ๆ จนถึงการฟ้องร้องดำเนินคดี
3. ความเชื่อ : ถ้าได้รับจดหมายทวงหนี้ ฉีกทิ้งได้เลย
ไม่ว่าจะได้รับใบแจ้งหนี้จากผู้ให้บริการ หรือจดหมายทวงหนี้จากสำนักงานกฎหมาย ให้ฉีกทิ้งได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาอ่าน
ความจริง : การฉีกจดหมายทวงหนี้ ไม่ได้ช่วยให้หนี้ถูกยกเลิก
ผู้ให้บริการสามารถติดตามทวงถามได้เอง หรือมอบหมายให้ทนายความติดตามทวงถามหนี้ก็ได้ เป็นสิทธิตามกฎหมาย ยิ่งถ้าปล่อยให้มีการทวงหนี้จากทนายความแล้ว ก็จะมีหน้าที่ต้องเสียค่าติดตามทวงถาม และดอกเบี้ยผิดนัดชำระเงินเพิ่มขึ้นจากค่าบริการที่ค้างชำระด้วย
4. ความเชื่อ : ค้างค่าโทร/ค่าเน็ต เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ถูกฟ้อง
ค้างค่าโทร/ค่าเน็ต แค่ไม่กี่พันบาท ผู้ใช้บริการจะไม่ฟ้อง เพราะเสียเวลาและโอกาสได้เงินแทบไม่มี
ความจริง : ผู้ให้บริการสามารถฟ้องคดีลูกหนี้รายย่อย
ผู้ให้บริการมีสิทธิในการติดตามหนี้อยู่แล้วตามกฎหมาย รวมถึงการฟ้องคดีแม้จะมีทุนทรัพย์เพียงแค่ 3,000 บาท และถ้าถูกดำเนินคดีฟ้องร้องแพ้คดี ก็จะต้องเจอภาระหนักขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งค่าบริการ ค่าปรับ ค่าดอกเบี้ย ค่าทวงถาม ค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล และมาตรการต่าง ๆ ตามกฎหมาย
5. ความเชื่อ : หนี้ขาดอายุความแล้ว ไม่ต้องจ่ายก็ได้
ถ้าหนี้ขาดอายุความ 2 ปีแล้ว ไม่ต้องจ่ายก็ได้ ทุกอย่างจะจบเอง
ความจริง : เจ้าหนี้มีสิทธิติดตามทวงถามหนี้ได้เสมอ
สิทธิการติดตามทวงถามหนี้เป็นสิทธิของเจ้าหนี้ แม้ขาดอายุความก็ยังคงคิดตามทวงถามได้ การเจรจาขอผ่อนผันกับผู้ใช้บริการ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
เรื่องหนี้ มีบทสรุปง่าย ๆ ว่า “เป็นหนี้ ต้องจ่าย”
จะได้ไม่ต้องมีเจ้ากรรมนายเวรคอยตามทวง
เพราะหนี้ทุกชนิดไม่ว่าหนี้เงินหรือหนี้กรรม
ต่างมีดอกเบี้ยต้องชำระด้วยกันทั้งสิ้น