คุยหุ้นนอกออกสู่โลกกว้าง : Future of Banking

คุยหุ้นนอกออกสู่โลกกว้าง : Future of Banking

ที่มา : Seminar knowledge by Amorn

By Chatree Rojana-arpa คุณโรจน์ , Vithan Un คุณอั้น, Sarawadee Vichayanotai คุณเอ

-------------------------------

คุณโรจน์ ผู้จัดclub house คุยหุ้นนอกออกสู่โลกกว้าง บอกว่า
เราจัดมารอบที่10แล้ว แชร์มุมมอง วิธีวิเคราะห์หุ้นในต่างประเทศแต่ไม่เน้นเชียร์ซื้อขาย
แต่เป็นการเรียนรู้ Business model ไม่ได้พูดถึงValuation
บริษัทที่ดี แต่อาจไม่ใช่เป็นการลงทุนที่ดี ถ้าราคาแพงเกินไป

คุณ อั้น เจ้าของเพจ Bottomliner , Line Bottomliner ห้องข่าวสาร หุ้นต่างประเทศ
หัวข้อ Future banking : สินเชื่อ และ ระบบ payment ที่เราต้องปรับตัว

คุณโรจน์ เกริ่นเรื่องระบบPaymentให้ผู้ฟังเข้าใจ
เดิมที่ระบบFuture banking เป็นการเชื่อมระหว่างคนสองกลุ่ม คือ ผู้ฝากเงิน และ ผู้ต้องการใช้เงินทุน
เกิดมาตั้งแต่ยุคกลาง ของไทย มีธนาคารขนาดใหญ่ เช่น กสิกรไทย กรุงไทย
การเปลี่ยนแปลง เริ่มมีการทำแบบonline ทำให้การทำธุรกรรมonlineเกิดขึ้นรวมถึงการจองหุ้นผ่านonline

คุณอั้น จาก BottomLiner Page ได้มาอธิบายเพิ่ม
เริ่ม จาก ระบบ cashยังต้องมีอยู่ในระบบ ถึงแม้ cashless 80-90%แล้ว
ต้องมีการใช้ Blockchainเข้ามาเกี่ยวข้อง มาช่วยเหลือ แต่ไม่ถึงขั้นเป็นตัวกลางแทนธนาคารที่รับ และ จ่ายเงิน
การมาของเทคโนโลยี Blockchain ในความคิดของคุณอั้น คือ มาตอบโจทย์แทนการรับเงิน แปลงเงิน ช่วยอำนวยความสะดวกในระดับข้ามประเทศ

แค้เดิม ธนาคารเป็นตัวกลางในการโอนเงินข้ามประเทศ คุณอั้นคิดว่า ตอนนี้Blockchainแอบเข้ามาแล้ว
เราโอนเงินตอนนี้ หลังบ้านอาจใช้ Blockchain แล้ว

Blockchain กับ Digital Thai Bahtอีก2-3 ปี น่าจะเกิดขึ้น ทุกคนก็มี Wallet ของตัวเอง
จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่การ Enforce ของภาครัฐ ตอนนี้ธนาคารกลางแต่ละประเทศก็กำลังพัฒนาอยู่
Digital Baht หากดำเนินการไม่ดี รัฐจะควบคุมไม่ค่อยได้เมื่อเกิดขึ้น

ปัจจุบัน Fintech เช่น Paypal ,Square.Stripe ซึ่งเป็นตัวกลางตอนนี้ก็เริ่มมาทำแข่งกับBankแล้ว ในรูปแบบ Digital Payment ใหม่นี้ แต่ละเจ้าพยายามทำให้แตกต่างกับธนาคารซึ่งธนาคารเดิมจะได้เปรียบเพราะเป็นบัญชีจริงๆ แต่ Payment E-wallet จะมีlimitในการโอนเงิน

แต่สิ่งที่ได้ประโยชน์ คือ ความสะดวกสบายในการโอนเงินในธุรกรรมโอนเงินไม่มาก

ระบบ payment เดิม พอคนไปซื้อของในต่างประเทศ ก็จะมีระบบ payment ที่ทำรายการเก็บเงินไปที่ปลายทางของอีกระบบ ซึ่งจะมีเรื่องกฏหมายของแต่ละประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง
... แต่ถ้ามีBlockchain เข้ามาจะช่วยลด Friction ที่เกิดขึ้น การแข่งขันระหว่างระบบเดิมกับระบบใหม่

กลุ่มที่ทำWallet (Fintech)ได้เปรียบระบบธนาคารมาก เพราะธนาคารเคลื่อนไหวช้าแต่บ้านเรา ธนาคารจะไปได้ไกลมาก
Square เริ่มจาก pos มาต่อยอดเรื่อง cashless โอนเงินให้กัน ใช้จ่ายซื้อสินค้า การซื้อขายหุ้น รวมถึง การซื้อBit coin ด้วย

ในไทย การซื้อขายกับร้านค้าต่างประเทศ มีการซื้อขายสินค้า ผ่าน paypal แต่ไม่มีผ่านธนาคารต่างประเทศ
ทีมงานที่ทำ Fintech ดังๆ นี้ก็มีคนที่เคยทำ start up ที่ประสบความสำเร็จมาร่วมด้วย Paypal ก็มี อีลอน มัสต์ มาร่วมด้วยช่วงแรก มีความเป็นเทคจ๋า

แจ๊ค ดอร์ซี่ ก็เป็นผู้ก่อตั้ง Square และยังทำอยู่ด้วย ก่อนที่จะกลับไปทำ Twitter
ลักษณะการทำ เป็นแบบ start up โดยการสำรวจความต้องการก่อนทำ
และมีวิธีการต่อยอดไปเรื่อยๆ เป็นเรื่องของการบริหาร ด้วยธุรกิจที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เล็กๆ

===============================

มองหุ้นกลุ่ม payment แบ่งออกเป็นสามกลุ่ม
1.Issuer ของบัตรเครดิต :Visa , Master card นอกจากการทำบัตรแล้ว ยังทำเรื่องinfrastructureของการส่งเงินด้วย

2.Fintech : POS และ Payment Gateway : Paypal , Square ,StoneCo ,Stripe

3.Buy now , pay later. เช่น Afterpay ซึ่งเป็นmodel win-win เราซื้อแต่ยังไม่จ่ายเงิน เราจ่ายทีหลังเช่นภายในสองสัปดาห์ ร้านค้าโดนหัก% บางทีจะโดนหักมากกว่าบัตรเครดิต แต่ก็ยอมเพราะขายได้มากขึ้น เพราะจะมีคนที่ทำบัตรไม่ได้ มาใช้ตรงนี้ ถ้าคนซื้อ จ่ายเกินกำหนดถึงจะถูกหักค่าธรรมเนียม แต่ถ้าไม่จ่ายเงิน ก็ถูกระงับการใช้จ่าย

Market size : TAM 360billion ซึ่งใช้ทั่วโลก ยกเว้นจีน

ในความเห็นของคุณอั้น ธุรกิจที่ดึงดูดคนซื้อ คือ แบบที่3 Buy now pay later , จ่ายช้าก็มี flat fee หรือ fix interest fee ชาร์ตต่ำๆ

ความเห็นระหว่าง payment gateway ระหว่าง Wallet กับ ธนาคารในไทย
คนยังใช้ app ของระบบธนาคารไทยมากกว่า

Buy now pay later : ผู้ชนะต้องมีร้านค้าอยู่ในplatformมากพอ ยกตัวอย่าง
Afterpay : มีsuccess model from Australia(50,000ราย) : Beauty พอเข้าสู่ตลาดUS ก็ไปต่อได้ เกือบจะเป็นผู้ชนะแล้ว

Website ดูผิวๆเหมือน E-commerce ไม่เหมือนเว็ป payment อย่าง square paypal แต่ถ้าธนาคารมาแข่ง ต้องหาลูกค้ามาเข้าplatform

การshopping : E-commerce เช่น Shoppee , Lazada จะเป็นผู้ชนะ เมื่อเทียบกับ การซื้อขายบน Website

ตอนนี้ Aterpay พึ่งเข้าไปในตลาดus มีลูกค้าแล้ว 8 ล้านราย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือ Milliennial ที่มีประมาณ 70-80 ล้านคน

คนเริ่มชินกับการซื้อผ่าน online แทนหน้าร้าน Afterpay จะได้ประโยชน์กว่าคือ
1. ลูกค้าเดิม ซื้อมากขึ้น
2. ได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
3. Volume ในการซื้อจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากแรกจะซื้อในวงเงินน้อยๆ

คุณอั้นชอบกลุ่ม payment ในความ simple is the best ธุรกิจตรงๆ ส่งเงินไปมา คิดค่าธรรมเนียม แต่
ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บค่อนข้างสูงทีเดียว เทียบกับตอนคุณอั้นทำงานกับกองทุนรวมจะได้ค่าธรรมเนียมรายปีที่เก็บลูกค้าเลย หรือสูงกว่า ตอนนี้ Square, Cashapp (10ล้านคน) เก็บค่าธรรมเนียมเฉลี่ยๆในการใช้ประมาณ 2.7% เท่าๆกับใช้บัตรเครดิตเลย ส่วนพวก Afterpay เก็บได้สูงกว่านั้น 3.5%+

ตลาด payment จึงน่าสนใจ ขนาด Visa ยังบอกว่า ให้จ่ายเงินผ่านบัตรวีซ่าทางonline เพราะจ่ายตามร้านค้า จะต้องแบ่งรายได้ให้กับPOSด้วย

หุ้นที่เราเห็นตอนนี้ เลยช่วงการแข่งขันไปแล้ว Stripe จะเน้นpaymentอย่างเดียว จะจับตลาดที่แตกต่างกันไป
ตัวแทนในประเทศอื่นยุโรป จะดู adyen อยู่ที่แอมสเตอดัม (หรือ Nasdaq : adayey),จีน ก็มี WE pay , Alipay

ฝั่งของประกันและสินเชื่อ ...
ที่จีนรายใหญ่คุมเช่น Alipay ในจีนเหมาหมดเลย ทั้งประกันภัย ปล่อยสินเชื่อ
ประกันภัย insuretech ได้เปรียบ แต่ประกันชีวิต ยังใช้ความไว้เนื้อใจกันยังต้องการคน
ธุรกรรมทางการเงิน เช่น PingAn, Gooddoctor , Lemonnade ที่อเมริกา ,อินชัวร์เทค
กรณีของalipay ท่ีจีน ต้องมีlicenseเพิ่มเข้ามาในการทำธุรกรรมแบบเดิม

การปล่อยกู้ ปกติจะไม่ปล่อยจากบริษัทแม่ แต่ปล่อยกู้จากบริษัทย่อยแทน
ทางการจีน ต้องการให้มีการกันสำรองหนี้ด้วย เพราะแต่ละคน เปรียบเหมือนมีบัตรเครดิต10ใบ
ที่ทางการจีนคุมขาด น่าจะเป็นฝั่งร้านค้ามากกว่า
คุณอั้น รู้สึกเฉยๆกับ cashless society ของจีน
แต่ที่ตื่นเต้นก็ที่ญี่ปุ่น ที่ยังใช้เงินสดกว่า 80% ที่ South America ยังพึ่งเริ่มต้น e commerce penetration ก่อนโควิดแค่ 4%

EM : South America น่าสนใจ : Stoneco Mercado Libre ซึ่งยังอยู่ phase แรกๆอยู่ ยังเน้น offline to online ซึ่ง LATAM ได้เปรียบเรื่อง culture ของการใช้ธนบัตร จะไม่พับธนบัตร รวมถึงอันตรายจากการถือเงินสด จะถือปล้นได้

Short term ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นการเชื่อมโยงกัน ส่งเสริม ecosystem ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
Square : POS, Payment , Cashapp (Wallet) จะจบครบในSquare โดยเริ่มมี square message ออกมาเพื่อให้คุยกันได้แล้ว

ส่วน Paypal ก็อาจจะทำคล้ายกับ Square อาจลอกมาหมดเลย ก็ได้ เพราะตอนนี้ก็มีบริษัทลูก venmo
แต่กลุ่มนี้ Margin ที่จะได้จะลดต่ำลงเรื่อยๆ เพราะการแข่งขัน ยกเว้นจะคิดproductใหม่ๆขึ้นมา ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำได้ดี
เช่น นำระบบมาใช้ ต่อไปก็ต้องซื้อระบบจับข้อมูล ,data analytic , รักษาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นต้น

ต่อไปเป็น Peer to peer lending หรือการใช้ blockchain คริปโต , Defi มาช่วย แต่ละค่ายอาจจะออกเหรียญของตัวเองขึ้นมา
แต่ตอนนี้ยังไม่มีuse case ที่ใช้Defi จริงๆจังๆที่มาแข่งขันกับธุรกรรมทางการเงินได้
Wallet Southeast Asea : Shoppee pay , Ali pay ดูแล้ว Shoppe จะชนะ
E-commerse : SEA ดูแล้ว Shoppee ชนะ

คุณอั้น Update งบ หุ้น square สั้นๆ
หุ้น square ให้ดูที่ gross profit อย่าดูรายได้ บริษัทก็ repot gross profit เป็นหลัก มีการบันทึก transaction bitcoin เข้ามาเป็นรายได้ทั้งก้อน ไม่ใช่แค่บันทึกค่าธรรมเนียม
ธุรกิจ CashApp เติบโตดีมาก 170% YoY และ guidance เดือนเมษา 130% YoY และเดือน พค มิย คงใกล้ๆกัน
แต่ฐานสูง หากดูเฉลี่ย 2 ปีจะเหลือ CAGR 25%
เริ่มขยับสู่ e commerce โดยทำ square message แต่ไม่ชนตรงๆ ชนอ้อมๆสไตล์ Jack

สุดท้ายขอขอบคุณ คุณ โรจน์ คุณ อั้น คุณ เอ มากๆครับ