ห้องเม่าปีกเหล็ก

กลุ่มค้าปลีก CPALL BJC CRC น่าสนใจไหม ?

โดย Rubio
เผยแพร่ :
60 views

1 เมษายน 2563 -- Industry Update : Commerce : Yuanta Securities

 

Industry Update

Thailand : Commerce

 

Top recommendations

CPALL: ธุรกิจ 7-eleven ร้านสะดวกซื้อที่สามารถเปิดดำเนินการได้ จำนวน สาขากว่า 1.1 หมื่นสาขา และได้ประโยชน์จาก MAKRO เป็นไฮเปอร์มาร์เก็ต ขายสินค้าเพื่ออุปโภคบริโภค โดยเฉพาะสาขา Food Service ได้รับการตอบรับดี

BJC: ได้อานิสงส์ 2 ทางผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค และค้าปลีก ภายใต้ BIGC

CRC: ธุรกิจฟู๊ดช่วยพยุง รายได้จาก TOP Market TOP Supermarket และ Family Mart

What’s new?
- ล็อกดาวน์กทมและหลายจังหวัดในประเทศไทย ส่งผลต่อการจำกัดพื้นที่ และปิดสถานที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค มีการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการยังชีพอยู่ภายในที่อยู่อาศัย โดยระยะเวลาการล็อกดาวน์ประมาณ 1เดือน
- กลุ่มค้าปลีกที่ยังเปิดดำเนินการได้คือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต / ร้านสะดวกซื้อ/ ร้านขายยา
- ภาครัฐใช้มาตรการเยียวยาในหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ความช่วยเหลือ

 

Industry outlook:
Neutral
- ผู้ประกอบการที่ได้ประโยชน์จากล็อกดาวน์และสามารถดำเนินการได้ปกติ CPALL BJC CRC
ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบใช้วิธีการขายผ่านOnline ในการสั่งสินค้า และเพิ่ม Promotion กระตุ้นยอดขาย

- ปัจจัยเสี่ยง1) ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย 2)สถานการณ์ โรคระบาด COVID-19 ยังไม่ยุติในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า 3)ภาวะภัยแล้ง

 

COMMERCE
ฝ่าพายุ..COVID-19
SSSG 1Q63 ยังต้องลุ้น

จากผลกระทบจากไวรัส COVID-19 คาดเห็นภาพการชะลอตัวของแรงซื้อโดยรวมที่เกิดขึ้นในกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะ นับจากกลางเดือน มี.ค และมีประกาศล็อกดาวน์เริ่มต้นที่ จ.กรุงเทพฯและปริมณฑล 6 จังหวัด โดยในจ.กรุงเทพฯ ขยายระยะเวลาล็อกดาวน์ ไปถึง 30 เม.ย จากเดิม 12 เม.ย ขณะเดียวกันมีการขยายการปิดสถานที่เพิ่มจากเดิม 26 แห่ง เป็น 34 แห่ง ขณะที่จังหวัดอื่น ๆที่มีการล็อกดาวน์เพิ่ม ในทุกภาคในประเทศไทย เช่นเชียงใหม่/เชียงราย/อุดรธานี/บุรีรัมย์/ภูเก็ต/พังงานฯลฯ (เงื่อนไขแล้วแต่จังหวัด) ขณะที่สินค้าเพื่อการยังชีพยังสามารถเปิดได้คือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต/ร้านสะดวกซื้อ/ร้านขายยาได้ ซึ่งบริษัทที่ได้อานิสงส์ยังคงเป็น CPALL MAKRO BJC CRC ขณะที่โดยรวมของกลุ่มฯที่มีสินค้าขายนอกเหนือจากสินค้าเพื่อยังชีพได้รับผลกระทบเช่น HMPRO,DOHOME,MC ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีทั้งบวกต่อผู้ประกอบการบางราย และมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการบางราย ทำให้ SSSG เฉลี่ยของกลุ่มฯใน 1Q63 คาดการณ์ได้ไม่ชัดเจน เราประเมินในเบื้องต้นอยู่ระหว่าง +1% ถึง -1% YoY
นโยบายภาครัฐช่วยรองรับบางส่วน

สำหรับนโยบายภาครัฐที่ช่วยรองรับผลกระทบดังกล่าว โดยมีมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 1-2 เช่น มาตรการดูแลเยียวยาแรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราวและอาชีพอิสระ ให้เงินรายละ 5 พันบาท/เดือน เป็นเวลา 3 เดือน 3 ล้านคนเป็นอย่างน้อย ผ่านงบประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท การลดค่าน้ำค่าไฟ 3% ระยะเวลา 3 เดือน(เม.ย-มิ.ย) คืนค่าประกันการใช้ไฟฟ้าบ้านที่อยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็ก รวมถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ การให้สินเชื่อรายย่อยสำหรับผู้ประกอบการ ฯลฯ ทั้งคาดภาครัฐจะมีมาตรการเยียวยาอื่น ๆ เพิ่มเพื่อช่วยลดผลกระทบจากโรคระบาด COVID-19 ออกมาอย่างต่อเนื่อง

ปรับประมาณการรับผลกระทบ
เราคาดเบื้องต้นผลกระทบของแรงซื้อมีโอกาสเกิดขึ้นในช่วง 2-3เดือน รวมถึงผลกระทบ COVID-19 ต่อเนื่องไปยังภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ซึ่งมีผลต่อการรับรู้รายได้และกำไรที่ลดลง เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 และ 2564 ของกลุ่มลดลง 7% และ 13% อยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท และ 4.9 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้เรายังติดตามสถานการณ์ของ COVID-19 ว่าจะคลี่คลายในช่วงเวลาใด ซึ่งมีผลต่อการฟื้นตัวของผลประกอบการของกลุ่มฯโดยรวม และการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2564
น้ำหนักการลงทุน " เท่ากับตลาด"

เรามองว่าโรคระบาด COVID-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการปรับลดของราคาตลาดของกลุ่มค้าปลีกไปพอควร จากราคาปัจจุบันมีการซื้อขายในระดับ PE เพียง 20.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 5 ปีที่ 30 เท่า และน้อยกว่า -2SD ที่ 25 เท่า สอดคล้องกับ PBV ที่ 3.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 4.8 เท่า และน้อยกว่า -2SD ที่ 3.8 เท่า แนะนำซื้อ BJC CPALLและเก็งกำไร CRC จากผู้ประกอบการที่ได้อานิสงส์ จากการล็อกดาวน์ในประเทศทำให้มีการซื้อสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคไว้สำรอง โดยธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ยังเป็นสินค้าเพื่อการดำรงชีพที่มีความจำเป็นเปิดดำเนินการได้ และมีการขายสินค้าผ่าน Online ซึ่งยังคงช่วยเพิ่มแรงซื้อเพิ่ม


Rubio