มาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นความหวังนักลงทุน?
แม้ว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยจะยังดูไม่สดใสมากนัก แต่นอกจากมาตรการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจแล้ว มาตรการกระตุ้นตลาดทุนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่คาดว่าจะสนับสนุนตลาดได้ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลอยู่ในระหว่างการพิจารณา เพื่อช่วยดึงเม็ดเงินใหม่ให้ไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นไทย สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลน่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม และคาดว่ามาตรการโดยรวมจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งมาตรการส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะสร้างบรรยากาศโดยรวมที่เป็นบวกต่อตลาดทุน โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายประเทศที่คาดว่าจะมีนโยบายเพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคให้เข้าถึงง่ายและเป็นวงกว้างมากขึ้น

ปัจจุบันตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยทางตลาดหลักทรัพย์พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมเข้าพบ รมว.คลัง เพื่อรอหารือแผนกระตุ้นระยะสั้นช่วยพยุงตลาดหุ้นไทย ซึ่งทางกระทรวงคลังได้สอบถามถึงเงินคงค้างกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ขณะที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ได้เสนอกระทรวงคลังให้ปรับเงื่อนไขกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) ให้มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทยทั้งหมด เหมือนกองทุน LTF ในอดีต เพราะปัจจุบัน กอง ThaiESG ไม่ค่อยได้ช่วยตลาดหุ้นไทย เพราะส่วนใหญ่ไปลงทุนตลาดตราสารหนี้
กระทรวงการคลังออกมาเปิดเผยว่าจะมีการหารือมาตรการเพื่อนำกองทุน LTF ที่ยังค้างอยู่ในระบบให้สามารถย้ายไปยังกองทุน
Thai ESG ได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างความมั่นใจให้ลดภาษีได้ แรงขายที่เกิดขึ้นจาก LTF จะได้ลดลง ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยนอกเหนือจากสงครามการค้าแล้วการขายของกองทุน LTF ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาดเช่นกัน ทำให้ภาคตลาดทุนค่อนข้างกังวลต่อเรื่องแรงขายของ LTF ที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีคลังกำลังติดตามเรื่องนโยบาย หากมีความชัดเจนเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชื่อว่ามุมมองของนักลงทุนน่าจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ผู้ที่อยู่ในวงการตลาดหุ้นมองว่ามาตรการดังกล่าวมาได้ถูกจังหวะ และเชื่อว่าจะช่วยฟื้นตลาดได้
ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจจากการที่เป็นตลาดที่มีความผันผวนต่ำ โดยพิจารณาจากค่า End of day volatility ของ SET Index สาเหตุหนึ่งมาจากเป็นตลาดหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทน dividend yield สูงอย่างต่อเนื่อง โดยค่าเฉลี่ยย้อนหลังตั้งแต่ปี 2000 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ 3.14% จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่มีลักษณะ Defensive Stock
โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 39,006 ล้านบาท ลดลง 17.2% จากเดือนมกราคม 2567 อย่างไรก็ตาม
เห็นสัญญาณเกี่ยวกับมูลค่าการซื้อขายผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 10% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด สี่เดือนต่อเนื่อง
ขณะที่ Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ระดับ 15.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.6 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.2 เท่า
ด้านอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 อยู่ที่ระดับ 3.64% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.28%
“การฟื้นคืน LTF ในเวลานี้ มองว่าเป็นจังหวะที่ดี เพราะดัชนีอยู่ในจังหวะที่ได้เปรียบ แต่สิ่งที่ต้องติดตามคือ รัฐบาลจะใช้มาตรการอะไรในการดึงเม็ดเงิน LTF ในตอนนี้ให้กลับมาอีกครั้ง”
.
ทั้งนี้ กองทุนรวม LTF ถูกยกเลิกสิทธิ์ทางภาษีในปี 2563 โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ประมาณ 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งต้นทุนเฉลี่ยของกองทุนน่าจะอยู่ที่ระดับดัชนี 1,600 จุด ขณะที่ดัชนีปัจจุบันอยู่ที่ 1,283 จุด เท่ากับขาดทุนมากกว่า 20%
OttO 😎
#กองทุนLTF #มาตรการกระตุ้นตลาดทุน #ThaiESG #กระทรวงการคลัง