You can manage your own risk
ทั้ง โซรอส และ บัฟเฟตต์ มีวิธีทำกำไร และ จัดการความเสี่ยง ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมแล้วทั้งคู่มีหลักเกณฑ์ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จล้วนมีสิ่งเหล่านี้ด้วยกันทั้งสิ้น การจัดการความเสี่ยงอย่างเอาจริงเอาจัง เป็น 1 ใน 4 กลยุทธ์ในการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุนชั้นเซียน โดย 4 กลยุทธ์ ที่จะมาคุยกัน มีดังนี้
กลยุทธ์ที่ 1อย่าลงทุน
กลยุทธ์หนึ่งที่ใช้ได้สม่ำเสมอ คือ เอาเงินใส่ไว้ในพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งนับเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยมาก นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนที่ประสบความสำเร็จใช้กัน หากไม่เจอการลงทุนอะไรที่เข้าหลักเกณฑ์การลงทุนของตนเองก็จะไม่ลงทุนอะไรทั้งสิ้น ซึ่งนักลงทุนหลายๆคนก็จะละเมิดกฎข้อนี้อยู่บ่อยๆ เช่น ภาวะที่ตลาดหุ้นตกลงอย่างมาก ผู้จัดการกองทุน จะปรับพอร์ตของตัวเองเป็นหุ้นที่ปลอดภัย เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค เช่น เนื้อสัตว์ น้ำประปา ไฟฟ้า ในความเป็นจริงแล้ว ผู้จัดการกองทุนไม่สามรถบอกกับนักลงทุนได้ว่า ไม่รู้จะลงทุนอะไรดี ซึ่งต่างกับนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จทั่วไป
กลยุทธ์ที่ 2 ลดความเสี่ยง
สิ่งนี้ คือ หัวใจในการลงทุนของบัฟเฟตต์ บัฟเฟตต์จะลงทุนเฉพาะสิ่งที่ตัวเองเข้าใจเท่านั้น การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเป็น หนึ่งในเกณฑ์การลงทุน บัฟเฟตต์จึงลงทุนเฉพาะธุรกิจที่ต่ำกว่ามูลค่าประเมินมาก ที่เรามักเรียกว่า Margin of safety ด้วยconcept นี้ ความเสี่ยงส่วนใหญ่จึงหายไปได้มากตั้งแต่ต้น เหมือนที่บัฟเฟตต์ ชอบพูดว่า คุณได้กำไรตั้งแต่ตอนซื้อ การลงทุนของบัฟเฟตต์ จึงมีความปลอดภัยไม่น้อยกว่า พันธบัตรรัฐบาล
กลยุทธ์ที่ 3 จัดการความเสี่ยงอย่างเอาจริงเอาจัง
นี่คือกลยุทธ์ ที่นักเก็งกำไรที่ประสบความสำเร็จ ให้ความสำคัญ การจัดการความเสี่ยงมีความแตกต่างจากการลดความเสี่ยงอยู่มาก หากคุณลดความเสี่ยงลงอย่างเพียงพอแล้ว คุณสามารถไปนอนหรือพักผ่อนยาวๆได้เลย แต่การจัดการความเสี่ยงอย่างเอาจริงตัวจังหมายถึง การเฝ้าดูตลาดอย่างใกล้ชิด บางครั้งเป็นการเฝ้าจออยู่ตลอดเวลา และมีความสามารถที่จะบริหารจัดการลงทุนอย่างมีเหตุผล และไม่มีอคติเมื่อพบว่าเกณฑ์การลงทุนบางอย่างที่ใช้อยู่ ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป กฎแห่งความสี่ยงที่พ่อของโซรอสสอนให้กับโซรอสนักเก็งกำไรระดับโลก กฎแห่งความเสี่ยง 3 ข้อ นั้นคือ
1.ความเสี่ยงเป็นเรื่องที่ทำได้
2.ถ้าจะเสี่ยงอย่าเสี่ยงจนครอบครัวเดือดร้อน
3.จงเตรียมพร้อมที่จะถอยอยู่เสมอ
กลยุทธ์ที่ 4 บริหารความเสี่ยงแบบบริษัทประกัน
บริษัทประกันสามารถเขียนนโยบายการประกันชีวิตออกมา โดยไม่จำเป็นต้องรู้ว่า จะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนเมื่อไร บริษัทไม่จำเป็นต้องรู้ว่า คุณจะเสียชีวิตเมื่อไร รถจะชน บ้านจะไฟไหม้ตอนไหน บริษัทจะเขียนนโยบายเอาไว้มากมาย เพียงพอที่จะใช้หลักการสถิติ ซึ่งมีความแม่นยำมากพอที่จะบอกได้ว่า แต่ละปีจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนเท่าไร เราจึงบริหารความเสี่ยงแบบบริษัทประกัน
นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะเรียกวิธีการคำนวณความเสี่ยงในแบบของพวกเขา แต่โดยหลักแล้วทุกคนต้องการหากำไรที่มีโอกาสจะได้ เช่น โอกาสได้กำไร 50:50 จะไม่ได้น่าสนใจแม้แต่น้อย และต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ซื้อ-ขาย ด้วย คุณจะเข้าเสี่ยงเมื่อคุณรู้ว่ามีโอกาสพ้มากกว่าชนะ
- Vira -
อ้างอิง : บัฟเฟต โซรอส ลงทุนให้ถูกนิสัยยังไงก็ชนะ