ห้องเม่าปีกเหล็ก

== SCC ==

โดย Rubio
เผยแพร่ :
63 views

31 มกราคม 2562 -- Company update : SCC : บล.เคทีบี(ประเทศไทย)

Company update

The Siam Cement (SCC)

กำไรสุทธิ 4Q18ที่ 10,468 ล้านบาท -17% YoYและ +11% QoQ
SCC รายงานกำไรสุทธิที่ 10,468 ล้านบาท -17% YoYและ +11% QoQโดยมีปัจจัยดังต่อไปนี้ธุรกิจปิโตรเคมีได้รับผลกระทบจาก Stock Loss ประมาณ 2,200 ล้านบาทและมี EBITDA ลดลงจากส่วนต่างราคาที่ลดลง กลุ่มธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมี EBITDAเพิ่มขึ้นจากต้นทุนด้านพลังงานที่ลดลงธุรกิจแพคเกจจิ้งมีปริมาณการขายที่ลดลงซึ่งได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ชะลอตัวสำหรับราคาหุ้นได้ปรับเกินมูลค่าเหมาะสมที่เราให้ไว้แล้วเราจึงเปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ถือ” โดยยังคงราคาเป้าหมายที่ 465บาท(SOTP หรือ เทียบเท่า EV/EBITDA ที่ 7.85 เท่า)เพื่อรอรับปันผล บริษัทเป็น Cash Cow ที่จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอเฉลี่ย 18-19 บาทต่อหุ้นคิดเป็นDividend Yieldประมาณ 4% เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว
แต่ยังคง Core Profit ที่ 45,648 ล้านบาทเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม

- กำไรสุทธิ 4Q18อยู่ที่ 10,468 ล้านบาท -17% YoY และ +11% QoQ
SCC รายงานกำไรสุทธิที่ 10,468 ล้านบาท -17% YoY และ +11% QoQโดยมีปัจจัยดังต่อไปนี้

1) ธุรกิจปิโตรเคมีได้รับผลกระทบจาก Stock Loss ประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยไตรมาสนี้มีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 477,000 ตัน +7% YoY, +4% QoQแต่ในขณะที่ส่วนต่างต่างราคา HDPE-Naphtha อยู่ที่ USD 639/ton ลดลงประมาณ USD 45/ton และPP-Naphtha ปรับขึ้นประมาณ USD 27/ton มาอยู่ที่ USD 650/tonส่งผลให้ EBITDA อยู่ที่ 5,476 ล้านบาท -52% YoY, -43% QoQ

2) กลุ่มธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมีรายได้รวมที่ 45,728 ล้านบาท +5% YoY ,-1% QoQแต่มี EBITDA เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5,252 ล้านบาท +14% YoY, +28% QoQเนื่องจากต้นทุนด้านพลังงานที่ลดลง

3) ธุรกิจแพคเกจจิ้งมีปริมาณการขายที่ลดลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ชะลอตัว ส่งผลให้ EBITD ลดลงมาอยู่ที่ 3,654 ล้านบาท +17% YoY, -6% QoQ

4) Equity Income ที่ลดลงจากบริษัทร่วมทุนปิโตรเคมีที่มีกำไรลดลง

- คาด 1Q19ยังไม่โดดเด่นจาก แนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมียังไม่ดี
แนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมีใน 1Q19ยังอาจจะยังไม่โดดเด่น จากส่วนต่างราคาที่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยค่าเฉลี่ยส่วนต่าง HDPE-Naphtha YTD อยู่ที่ USD 604/ton ลดลงประมาณ USD 35/ton จาก 4Q18และลดลง USD 190/ton จาก 1Q19ซึ่งแนวโน้มของ HDPE ในปีนี้อาจะถูกกดดันจาก Supply ของ Ethylene ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทอาจจะมีการรับรู้ค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับพนักงงานราว2,000 ล้านบาท

- เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ถือ” โดยยังคงราคาเป้าหมายที่ 465บาท
ราคาหุ้นได้ปรับเกินมูลค่าเหมาะสมที่เราให้ไว้แล้วจึงเปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ถือ” โดยยังคงราคาเป้าหมายที่ 465บาท(SOTP หรือ เทียบเท่า EV/EBITDA ที่ 7.85 เท่า)เพื่อรอรับปันผลซึ่งบริษัทเป็น Cash Cow ที่จ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอที่ 19 บาทต่อหุ้น (ประกาศจ่ายปันผลครึ่งปีหลังของปี 2018 ที่ 9.5 บาทต่อหุ้น) ทำให้ Dividend Yield มีความน่าสนใจในระดับ 4% เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว


Rubio