ห้องเม่าปีกเหล็ก

จังหวะลงทุน Asia Ex. Japan มาหรือยัง? พร้อมมุมมองหุ้นกลุ่มการเงินอเมริกา?

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
62 views

จังหวะลงทุน Asia Ex. Japan มาหรือยัง? พร้อมมุมมองหุ้นกลุ่มการเงินอเมริกา?

สรุปประเด็นสำคัญ FINNOMENALIVE 19 ก.ค.
.
THE OPPORTUNITY - “จังหวะลงทุน Asia Ex. Japan มาหรือยัง? พร้อมมุมมองหุ้นกลุ่มการเงินอเมริกา?”
โดยคุณเจท และคุณแบงก์

Source : https://www.youtube.com/watch?v=q8L57u5Mnis
============================

May be an image of 2 people, people standing and text

Financial

- งบกลุ่มการเงินใน US ออกมาแล้ว พบว่า Surprise น้อยลง (ไม่ได้ Beat ความคาดหวังมากไป)
- การปรับเพิ่มประมาณการกำไร (EPS) พบว่า ไม่ค่อยปรับเพิ่มเหมือนช่วง ม.ค. (+9%) และเม.ย. (+11%)
- หลังประกาศงบ ตลาดหุ้นมักมีการตอบรับเชิงในบวกภายใน 30 วัน
.
- งบ JPMorgan ไม่ได้มีรายได้จากการปล่อยกู้อย่างเดียว มี Trading Fee 25% วอลุ่มดีขึ้น (ฝั่งหุ้น แต่ฝั่ง Fixed Income ลดลง) ส่วนธุรกิจ Wealth Management ไม่ค่อยดี
- ฝั่งสินเชื่อ รายได้หดตัวเมื่อเทียบกับช่วง Pre-Covid19 ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องเช็คอัดฉีด (คนไม่กู้ เพราะได้เงิน)
.
>>>นวค.มองบวก ปรับเพิ่ม EPS แต่ไม่มาก และรายได้ Trading มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะจากฝั่ง Fixed Income ที่ปกติมากกว่า (ลดลง) >>> บริษัทอื่นก็แนวโน้มคล้ายกัน

>>> แนะลดสัดส่วนหุ้นกลุ่มการเงิน Global Financial Sector
============================

AsiaExJapan

- กอง Asia Ex. Japan จะมีจีนกับฮ่องกงรวมๆ 50% และมีไต้หวัน 15% เกาหลี 15% และถ้ามี Pacific คือมีออสเตรเลียเข้ามาด้วย
- Top10 เป็นเทคจีน 13% จาก 30% (หุ้น Top10) ซึ่งกดดันหุ้นเทคจีนลงหลายตัวทั้ง Tencent BABA Meituan
.
- Delta Variant ระบาดมากในฝั่งเอเชีย
- EPS และราคาเมื่อเทียบกับ S&P500 ดู Underperform ไม่ได้ทั้งคู่
- Valuation ต่ำกว่า S&P500 เล็กน้อย >> ไม่ได้ถูกไม่ได้แพง โดยหลักมาจาก EPS ที่ถูกปรับประมาณการลง
- ในแง่ GDP ยังน่าสนใจ และหลายๆประเทศในเอเชีย โตเฉลี่ย 7.5% ปีนี้ และ 5.7% ปีหน้า
.
- เทียบ Valuation หุ้นรายตัวกับ US พบว่า เอเชียยังถูกกว่า US แต่มี Tencent ที่แพงกว่า Facebook
- K.เจทเสริมว่า หุ้นที่ ROE ดีกว่า ควรมี P/E ที่สูงกว่าด้วย ดังนั้นด้วยเทค US ที่ ROE ดีกว่า ทำให้ P/E หุ้น US มี Premium มากกว่า
======================

Gold
.
- Supply > Demand มากขึ้นทุกๆปี (Demand >> Investment + Reserve + ใช้)
- การเปิดเมืองทำให้การลงทุนผ่าน ETF ชะลอตัว >>> เช่น อินเดีย คนก็มาขายทองออกมา
.
- Real Yield ปรับลง( ครั้งนี้ Bond Yield ลง เงินเฟ้อขึ้น) ด้วยความกังวล Covid และเงินเฟ้อที่พุ่ง แต่ทองคำกลับไม่ขึ้น (ก่อนหน้านี้ Bond Yield กับเงินเฟ้อไปในทิศทางเดียวกัน)
- ธนาคารกลางกลับมาซื้อทองคำถึง 47 ตัน และเศรษฐกิตที่ดีขึ้น หนุนแรงซื้อทองคำเป็นเครื่องประดับจากฝั่งเอเชีย
.
- ท่าที Hawkish ของ Fed ที่บอกว่า เดี๋ยวจะทำ Taper ขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ USD แข็งจึงกดดันราคาทอง

>>>> Real Yield มีโอกาสปรับลงตัวไปกว่านี้ได้ไม่มาก กดดันความต้องการลงทุนทอง มีแรงกดดันเยอะ
======================

ขอบคุณข้อมูลจาก FINNOMENA มากครับ
.
ขอให้โชคดีในการลงทุน และสนุกสนานกับการเรียนรู้ครับ
จิรภัทร โบสุวรรณ CFP®
.
===========================

คำเตือน : บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อสรุปข้อมูล และไม่ได้ชี้นำการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลจาก Fund Fact Sheet ก่อนการลงทุนนะครับ


คนเล่นหุ้น