ห้องเม่าปีกเหล็ก

เจน 3 "โคคาสุกี้" นำ Core Values ฝ่าวิกฤต

โดย สุดสวย
เผยแพร่ :
118 views

เจน 3 "โคคาสุกี้"

นำ Core Values ฝ่าวิกฤต

 

.

2 ปีที่ผ่านมา "โคคาสุกี้" ต้องยอมเฉือนเนื้อ ปิดสาขาสยามสแควร์ลง ทั้งๆ ที่เป็นสาขาที่ทำเงินอันดับต้นๆ เหตุเพราะวิกฤต COVID-19 ตั้งแต่ปี 2563 ที่มีการแพร่ระบาดหนักหลายรอบ

.

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ "นัฐธารี พันธุ์เพ็ญโสภณ" ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ ร้านอาหารในเครือโคคากรุ๊ป ทายาทรุ่นที่ 3 จะฝ่าฟันอุปสรรคสร้างธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่อง โดยหนึ่งในเคล็ดลับ ที่ทำให้ "โคคาสุกี้" ยังอยู่รอด คือ Core Values ที่ชัดเจนขององค์กร

.

"นัฐธารี" บอกว่า Core Values เป็นเรื่องสำคัญที่ทายาททุกรุ่นห้ามลืม โดย Core Values ของ "โคคาสุกี้" ประกอบด้วย การมีหัวใจด้านบริการ และมีความซื่อสัตย์ต่อผู้มีส่วนร่วม ทั้งพนักงาน ผู้บริโภค และซัพพลายเออร์

.

สิ่งเหล่านี้ ช่วยทำให้ "โคคาสุกี้" ยังอยู่ยงคงกระพัน รักษาเสน่ห์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ควบคู่กับการปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัย โดย"นัฐธารี" ได้นำระบบ Aglie มาบริหาร ทำให้เกิดความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้น

.

"นัฐธารี" ไม่ได้ยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ ที่ผ่านมา เธอพร้อมยอมรับกับความผิดพลาดและปรับตัว เมื่อธุรกิจเกิดปัญหาในช่วงโควิด ก็พร้อมปิดสาขาสยามสแควร์ที่อยู่มานาน เพื่อรักษาองค์กรและทีมงานให้อยู่รอด

.

หลังจากนั้น "นัฐธารี" ยังปรับโมเดลสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ อาทิ ดิลิเวอรี่ ให้พนักงานมาเป็น Coca Man ขับรถส่งอาหาร โดยค่าจัดส่งเป็นของพนักงานทั้งหมด

.

พร้อมกันนี้ ยังปรับปรุงร้านให้ทันสมัยมากขึ้น ปรับขนาดร้านทให้เล็กลง เปิด Coca Pop Up รื้อภาพจำภัตตาคารโคคาสุกี้ กลายเป็นร้านสบายๆ ที่รับได้ทั้งกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ รุ่นเก่า หรือกลุ่มเพื่อนฝูง กระจายสาขา Pop Up ไปตามนอกเมือง รองรับผู้บริโภคที่ต้องทำงานที่บ้าน ยกร้านไปเสริฟให้ใกล้ที่สุด สะดวกที่สุด

.

รวมถึงโมเดลธุรกิจแบบ Kiosk ที่เปิดตามงานอีเว้นท์ต่างๆ เสริฟเมนูของทานเล่น อย่างปลาท่องโก๋ ของกินเล่น ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

.

"นัฐธารี" บอกว่า เธอเปิดรับฟังความคิดเห็นของทีม สิ่งที่คิดหากผิด ทำแล้วไม่เวิร์คก็พร้อมเลิกและขอโทษ ปรับเปลี่ยนวิธีใหม่ให้เหมาะสม ซึ่งเธอยอมรับว่า หลายอย่างต้องปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย และปัจจัยรอบด้าน

.

แต่สิ่งสำคัญที่ "นัฐธารี" คนนี้ไม่ยอมเปลี่ยน และยึดเป็นหลักการสำคัญในการทำธุรกิจคือ วัตถุดิบต้องดี มีคุณภาพ เพิ่มเติมคือ ต้องรู้ที่มาที่ไป ผักและเนื้อต้องสด จากการเรียนรู้มาทางด้านโภชนาการและวิทยาศาสตร์การอาหารโดยตรง เธอจึงสร้าง Coca Boutique Farm ปลูกผลผลิตออร์แกนิกสำหรับใช้ในร้านโดยเฉพาะ พร้อมทั้งทำโครงการซื้อข้าวโดยตรงจากเกษตรกร ที่สามารถส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเกษตรกรและชุมชน เพื่อความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ

.

ผู้บริหารหญิงคนนี้ ใช้เวลากว่า 5 ปีในการศึกษาโปรดักต์ของโคคาสุกี้อย่างละเอียด หาคำตอบว่าลูกค้าจริงๆ ของแบรนด์คือใคร จะทำอย่างไรให้เข้าถึงลูกค้ารุ่นใหม่ ขณะที่ลูกค้าเก่าก็ยังเหนียวแน่น

.

เธอลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ จนทุกอย่างเข้ามือ แม้จะเจอวิกฤตหนักโควิด-19 แต่ ณ วันนี้ทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว ด้วยการปรับตัวรับมือกับสถานการณ์ โดยไม่ยึดริดกับความสำเร็จเดิมๆ และพร้อมเดินหน้าต่ออย่างมั่นคง

 

 


สุดสวย